วันที่เจ็ด มหกรรมการสอนแทน (24 พฤษภาคม 2559)


6.40 นาฬิกา ณ โรงเรียน

เช้านี้เเสนสดใสครูมาเช้า...อากาศหนาวนักเรียนก็มาเช้าเหมือนกัน....ครูเวร

วันนี้รับหน้าที่ครูเวรมาโรงเรียนเเต่เช้าคิดว่าเรามาเช้าเเล้ว เเต่พอมาถึงโรงเรียนกลับเจอกับนักเรียน 2-3 คน อยู่โรงเรียนแล้ว ทำไมนักเรียนตื่นเช้ากันจังเลยครับเนี้ย. ระหว่างเฝ้ารอเห็นพระเดินบิณฑบาตอยู่หน้าโรงเรียนพอดีเลยเดินไปนิมนต์ตักบาตร ขอเอาฤกษ์เอาชัยในการฝึกสอนซะหน่อย เพราะตั้งเเต่เริ่มฝึกสอนมาไม่มีโอกาสทำบุญเลย จากนั้นกองทัพเดินด้วยท้องกับข้าวเหนียวหมูปิ้งและกาแฟเย็น ๆ แก้ง่วง เเละเราก็มาเฝ้าเวรรอรับนักเรียนมาโรงเรียนจนเข้าเเถว นักเรียนบางคนพ่อแม่มาส่ง บางคนขึ้นรถเดือน บางคมมาเช้า บางคนมาสาย เเต่นักเรียนทุก ๆ จะสวัสดีทักทายครูก่อนเข้าโรงเรียนทุกคน เห็นเเล้วรู้สึกดีจริง ๆ


"วิทยาศาสตร์แห่งการทดลอง"

วันนี้ก็ยังคงสอนวิทยาศาสตร์จากคราวที่เเล้วเราทดลองน้ำที่เป็นปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของพืช มาในวันนี้มาดูปัจจัยเเสงแดดบ้างกันดีกว่า เราเป็นครูต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าเลยนำต้นถั่วเขียวที่ปลูกนั้นมาเเยกเป็นกระถางที่มีแสงแดดส่องถึงและกระถางที่ไม่โดนเเสงแดด และยังคงรดน้ำเหมือนเดิมแต่คราวนี้เราจะรดทั้งสองกระถางเลยเพื่อดูว่ากระถางที่โดนแสงและไม่โดนเเสงที่รดน้ำเหมือนกันนั้น พืชจะเจริญเติบโตขึ้นหรือไม่ นักเรียนบางคนก็บอกว่าโต บางคนก็บอกว่าไม่ เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในหมู่เด็ก ๆ อย่างสนุกสนาน จึงเป็นที่มาของปัญหาและสมมติฐานของการทดลองในครั้งนี้


กระถางที่โดนเเสงแดด



กระถางที่ไม่โดนแสงแดด

ไม่มีกล่องทึบ...ไม่เป็นไรเราใช้อย่างอื่นเเทนได้ ถุงดำ นั้นเอง

คลุมถุงดำซะมิดเลย


เติมพลังก่อนการสอนสามคาบรวดในภาคบ่าย...

ข้าวมันไก่เเสนอร่อยเละได้เยอะมาก...


มหกรรมการสอนเเทน...

ในสัปดาห์นี้มีครูหลายคนไปเเข่งกีฬาต่างจังหวัด เลยทำให้นักศึกษาฝึกสอนอย่างพวกเรา ๆ รับหน้าที่สอนเเทน เราก็รับมาเพียงเเค่ 3 คาบเบา ๆ กับคณิตศาสตร์ ป.6 2คาบ และสุขศึกษา ป.3 1 คาบ ในภาคบ่ายวันนี้

ในการสอนนักเรียนชั้นประถมปลายที่โตเเล้ว เช่น ป. 6 บางคนบอกว่าสอนง่าย เพราะเด็กเริ่มดตแล้ว พูดอะไรเเล้วฟังรู้เรื่อง บอกให้ทำงานก็ทำ เรียนรู้ได้ดีได้ง่ายกว่าเด็กเล็ก ๆ ที่ต้องมาอธิบายขยายความให้เข้าใจอย่างช้า ๆ อย่างละเอียด เเละชัดเจน เพื่อให้เด็กเข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ สำหรับผม สอนเด็กเล็กนั้นง่ายกว่าบอกโต บอกให้เงียบให้ฟังครูสอนเด็กก็เชื่อฟังและทำตามมากกว่าเด็กโตที่บางครั้งพูดอะไรไปก็ไม่ฟัง ยิ่งอย่างเรา ๆ เป็นเเค่นักศึกษาฝึกสอนด้วยเเล้ว การเคารพเชื่อฟังนั้นยิ่งลดระดับลงเข้าไปอีก คณิตศาสตร์ 2 คาบ เลยเต็มไปด้วยความทุลักทุเล ที่ครูฝากงานให้เด็กทำแบบฝึกคณิตคิดเลขเร็วที่ไม่ค่อยทำกัน ชอบส่งเสียงดังและแอบออกนอกห้อง กว่าเราจะเอาอยู่นั้นก็เกือบท้ายคาบ เพราะ สิ่งที่เราใช้นั้นเป็น "เกมคณิตศาสตร์" ใช่เเล้วมันเป็นเกมปริศนาที่ให้นักเรียนเเก้ปัญหาในการคิดหาคำตอบ เช่น

"ฉันอายุสองขวบ มีน้องซึ่งอายุเป็นครึ่งหนึ่งของฉัน ถ้าฉันอายุ 100 ปี น้องอายุเท่าไหร่ ?"

คำตอบเเรกที่มักจะได้ยินเสมอ ๆ คือ 50 ปี ซึ่งเป็นคำตอบที่ผิดเพราะนักเรียนมักจะคิดอย่างรวดเร็วด้วยการนำ 100 ไปหารครึ่งนั่นก็คือ 2 คำตอบจึงออกมาเป็น 50 อย่างที่เห็น เเต่หากนักเรียนอ่านโจทย์ให้ถี่ถ้วนและวิเคราะห์แล้วนั้นก็จะได้คำตอบที่ถูกต้อง กล่าวคือ ฉันอายุ 2 ขวบ น้องอายุเป็นครึ่งหนึ่งของฉันแสดงว่าน้องอายุ 1 ขวบ แสดงว่าฉันเเละน้องอายุห่างกันแค่ปีเดียว โจทย์บอกว่าหากฉันอายุ 100 ปี น้องจะอายุเท่าไหร่ ในเมื่อฉันเเละน้องหากกันปีเดียว ถ้าฉันอายุ 100 ปี แสดงว่าน้องก็ต้องอายุ 99 ปีนั่นเองที่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง

รู้สึกเด็กจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษในการเล่นเกมคณิตศาสตร์นี้ ตั้งอกตั้งใจฟังโจทย์ที่ครูถามอย่างมากที่กล่าวไปข้างต้นเป็นเพียงเเค่หนึ่งในโจทย์ที่ถามเท่านั้นยังมีคำถามปริศนาอีกมากมายที่ทำให้เด็กหันมาสนใจตัวครูอย่างเรา


มาดูที่เด็กเล็กลงมาหน่อยกับสุขะศึกษา ป. 3 การการสอนการเจริญเติบโตตามวัยของมนุษย์ ที่เด็กให้ความร่วมมือในการเรียนเเละตอบคำถามจากครูมากมายหลากหลายคนอย่างตั้งอกตั้งใจ และมักจะถามครูกลับอีก "ครูขาประจำเดือนคืออะไรค่ะ" สิ่งหนึ่งที่ยากสำหรับเด็กเล็กคือการใช้เสียงที่จะต้องดัง ชัดเจนให้เด็กฟังรู้เรื่อง เพราะเด็กต่างคนต่างพูด ทำให้ในห้องเสียงดังมากเราก็เลยจัดการด้วยให้เด็กท่องกลอนตามครูทีละวรรค เสียงดังเมื่อไหร่กลอนต้องมาเสมอ ต้องขอขอบคุณพระอาจารย์วันศรีชมพูที่มาสอนวิชาพระพุทธศาสนาให้กับนักเรียนโรงเรียนวัดป่าติ้ว เเล้วใช้วิธีการนี้ทำให้เด็กสงบลงได้ เราเลยนำมาใช้บ้าง ต้องขอขอบคุณจริง ๆ

"เด็กเอ๋ยเด็กดี ไม่มีปัญหา เด็กขี้หมา ไม่ชอบนั่งกับที่"

"เด็กเอ๋ยเด็กดี ไม่มีปัญหา เด็กขี้หมา ชอบส่งเสียงดัง"


มาจากไหน...จากที่รับการสอนแทนเพียงเเค่ 3 คาบ มีเพื่อนฝึกสอนด้วยกันมาขอช่วยสอนเเทนให้เพราะคาบสอนชนกัน เราก็รับเเบบไม่คิดอะไรเลย หรือว่าคิดไม่ทัน เลยได้มาเบา ๆ อีก 4 คาบ คณิตศาสตร์ ป.2 ภาษาไทย 1 คาบ ป.2 คาบ คณิตศาสตร์ ป.6 อีก 2 คาบ ในอาทิตย์เลยจัดไปหนัก ๆ สอนประจำของตัวเอง 8 คาบ รับมาสอนแทนอีก 7 คาบ จัดไปเลย 15 คาบ

วันนี้มาโรงเรียนเเต่เช้า สอนไปอีก 4 คาบรวด มาเฝ้าครูเวรตอนเย็นอีกเป็นวันที่เหนื่อยและอ่อนฃ้าอย่างมากจริง ๆ ฟ้าก็มืดมนคล้ายฝนจะตก นักเรียนเริ่มทยอยกันกลับบ้านเเต่ก็มีนักเรียนบางคนที่ต้องรอผู้ปกครองเลิกงานก่อนจะจึงมารับได้ ก็ต้องรอต่อไป เราในฐานะครูนักเรียนยังกลับบ้านไม่หมด เราก็กลับไม่ได้ ก็ต้องรอต่อไปเช่นกัน

18.15 นาฬิกา ออกจากโรงเรียน

หมายเลขบันทึก: 607167เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2016 00:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม 2016 00:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สัปดาห์นี้งานจะหนักไปสักหน่อย
ขอให้คุณครูโต้งอดทนครับ

ขอบใจมากที่ดูแลเด็ก ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่มารับสายนะ ;)...

ต้นถั่วเขียวโตมากๆเลยครูโต้ง ไว้จะปรึกษาเรื่องวิทยาศาสตร์ใหม่นะ

เข้าไปอ่านบล็อกของเราก็ได้นะ มีบอกกล่าวเรื่องปลูกถั่วเขียวอยู่

ปล.วันนี้โรงเรียนเราก็ข้าวมันไก่ :)

ยินดีอย่างยิ่งครับครูกร...

มือวิเศษ

ไว้มาเเลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอีกนะครับ

เป็นหน้าที่ของครู ๆ อย่างเราอยู่เเล้วครับที่ต้องดูแลนักเรียน

Ongkuleemarn

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท