วันที่ 2 สวัสดีเพื่อนใหม่ ^^ พร้อมงานที่ได้รับมอบหมาย (17 พฤษภาคม 2559)
วันที่ 2.....ของการเปิดภาคเรียน ไปโรงเรียนแต่เช้าเลยวันนี้ บรรยากาศปกติทุกวันจะร้อนอบอ้าว แต่ว่าวันนี้เย็นสบาย เพราะเมื่อคืนฝนตก ทำให้รู้สึกเย็น สบายใจ อยากให้เป็นแบบนี้ทุกๆวัน เพราะทำให้อารมณ์ดีมากกว่าอากาศร้อน บรรยากาศการเข้าแถวตอนเช้าก็เป็นปกติเหมือนวันแรก
สวัสดีจ้า...เพื่อนใหม่ ที่มาจากราชภัฏเหมือนกันมีอยู่ 4 คน เอกวิทยาศาสตร์ 2 คนชื่อ แวว กับมอส เอกอังกฤษ 1 คน ชื่อ แอน และเอกดนตรี 1 คน ชื่อ แอล ซึ่งก่อนที่จะมาเจอกันเห็นเพื่อนในกลุ่มเฟส ก็กลัวว่าจะเข้ากับเพื่อนไม่ได้ เพราะยิ่งพวกเรามาจากโครงการ เป็นเด็กพิเศษ ที่หลายๆคนอาจจะไม่ชอบ
แต่! กลับกัน พอมาเจอเพื่อนทั้ง 4 คนในวันนี้ พูดเข้าขากันได้ดี เหมือนว่าเคมีจะเข้ากัน น่าจะทำงานร่วมกันได้สะดวก ไม่มีปัญหา เพราะต่างคนต่างเข้าหาคนง่าย ยิ่มง่าย และอัธยาศัยดี
วันนี้ตอน 8 โมง ได้เข้า ประชุมกับท่านผอ. โรงเรียน ท่านรอง รวมไปถึงครูหัวหน้าฝ่ายวิชาการทุกช่วงชั้น ได้ฟังบรรยายเกี่ยวกับงานต่างๆในโรงเรียน และการใช้ชีวิตในการฝึกสอนในภาคเรียนนี้ ได้แนะนำตัวให้กับทุกคนได้รู้จัก
นอกจากจะได้ฟังที่ท่านผอ. กับท่านรอง พูดแล้ว ก็ยังได้รับฟังคำต้อนรับ จากครูหัวหน้าฝ่ายวิชาการทุกช่วงชั้น มีทั้งหมดอยู่ 4 ท่านด้วยกัน ซึ่งทำให้ได้รับข้อคิด และแนวทางการปฏิบัติขณะที่อยู่ในโรงเรียน ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง และไม่ควรทำอะไร ซึ่ง 1 ในนั้น ก็คือ ครูเตือนใจ ซึ่งเป็นครูพี่เลี้ยงฉันเอง ครูเป็นคนเก่งมาก ครูใจดี พูดตรงไปตรงมา และที่สำคัญ วันนี้ครูให้ข้อคิดที่ดีมาก และเราก็ชอบมากเลย ทำให้นำไปเป็นข้อคิด และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติงาน ก็คือคำที่ว่า
- "จะทำทั้งทีี ต้องทำให้ดีที่สุด" และสิ่งที่เราทำนั้นจะต้องได้ดี ก็คือการทำงานด้วยความตั้งใจ และทำสุดความสามารถของเรานั้นเอง
- การมาทำหน้าที่ครู เราต้องคิดว่าเรา "ได้บุญ" เราต้องมีความสุขขณะทำ ไม่บ่นว่าเหนื่อย ถ้าหากวันใดเราบ่นว่าเหนื่อย นั่นแสดงว่าเรากำลังทำงาน หรือปฏิบัติหน้าที่อยู่ เรากำลังบังคับตัวเองให้ทำอยู่ ไม่ใช่เป็นครู เพราะครูจะต้องมีความเสียสละ และมีใจรัก ถึงจะเรียกว่าเป็นครู
หลังจากฟังประชุมเสร็จก็เข้าไปห้องสอนหนังสือต่อเลยค่ะ
วันนี้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นป.6 วันนี้สอนทั้ง 6/1 และ 6/2 เด็กทั้งสองห้องนี้ จะมีทั้งฟังและไม่ฟัง เหมือนๆกัน วันนี้สอนเด็กเริ่มเสียงดัง ไม่ฟัง สิ่งที่ฉันทำ ก็คือการเงียบ และเดินไปหาตัวต่อตัว เมื่อเด็กเห็นก็จะเงียบ และหยุดการพูดกัน ฉันสอนเด็กป.6 จะไม่ใช่วิธีด่าแบบตะโกนใส่ แต่จะใช้การเงียบ การเดินเข้าไปหา การพูดให้เขาได้คิด เพราะป.6 ถือว่าโตแล้ว เมื่อเราเงียบเขาก็จะรู้ทันทีว่าต้องเงียบ แต่เป็นสำหรับบางคนเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะเดินไปหา แต่พอผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีก็กลับมาเล่นเหมือนเดิม อีกอย่างที่ฉันยังควบคุมไม่ได้ ก็คือเด็กพิเศษเรียนร่วม ที่ชอบเดินไปเดินมาเวลาสอน ถึงแม้จะบอกให้นั่ง เขาก็จะไม่ยอมนั่ง ส่วนใหญ่จะฟังแต่ครูจริงๆ เท่านั้น แต่ฉันจะพยายามเรียนรู้ไปเรื่อยๆ และจะหาทางควบคุมนักเรียนให้ได้
การจัดกิจกรรมแล้วเด็กไม่สนใจ เล่นกัน แสดงว่ากิจกรรมที่ฉันนำไปสอนนั้นยังไม่ดีเท่าที่ควร เด็กจึงไม่สนใจ และตั้งใจเรียน....นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องคิดและปรับปรุงแก้ไขต่อไป
หลังจากหมดชั่วโมงสอน จากนั้นก็วิ่งวุ่นเลยค่ะ กับการทำงานให้ครู เดินไปเดินมา เดียวได้ทำอันนั้น เดียวทำอันนี้ เพราะเป็นช่วงแรก ต้องทำงานหลายอย่างเป็นธรรมดา และได้นั่งพักก็ตอนการไปแบ่งงานที่ห้องธุรการ กับผอ. รองผอ. และครู ได้รู้ว่าแต่ละวันจะต้องมีเวรยื่นหน้าโรงเรียน เวรรับนักเรียน เวรดูการทำความสะอาดตามหมู่สี เวรพูดหน้าเสาธง เวรอาหารกลางวัน และเวรห้องธุรการ
"ตารางสอน" ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีตารางสอนด้วย แต่ก่อน มีแต่ตารางเรียน ตอนนี้กลายเป็นตารางสอนไปซะละ ตื่นเต้นทุกครั้งที่จะเข้าสอน กลัวทุกครั้งว่าจะออกมาไม่ดี และคิดที่จะพัฒนา ปรับการสอนทุกครั้ง เมื่อเด็กไม่ตั้งใจเรียน จะตั้งใจ และทำให้ดี จะดูแลและเป็นอีกแรงที่จะช่วยครูในการพัฒนาอนาคตของชาติ จะก้าวผ่านจุดนี้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งความฝัน! ไปให้ได้อย่างสวยงาม สู้ๆ
นอกจากตารางวิชาที่สอนแล้ว ก็ได้รับหน้าที่เพิ่มเติม คือ.........
- เป็นเวรรับนักเรียนหน้าโรงเรียนตอนเช้าวันพุธ
- เป็นครูเวรประจำวันวันพุธ เพื่อที่จะได้ออกไปฝึกการพูดหน้าเสาธงกับนักเรียน
- เป็นเวรอาหารกลางวัน ของวันพุธ และอีกอย่าง โรงเรียนนี้มีหน้าทีการไปซื้อน้ำแข็งด้วยนะ
- เป็นเวรห้องธุรการวันพฤหัสบดี ช่วงบ่าย
"ดีใจที่ได้เพื่อนเพิ่มและเราจะก้าวผ่านไปด้วยกัน"
"พร้อมรับหน้าที่ และจะพยายามทำให้ดีที่สุด"
ความเห็น (2)
เมื่อได้ตารางสอนและตารางเวรแล้ว
ก็จะต้องบริหารจัดการเวลาให้ดีครับ ;)...
