ครอบครัวตึ๋งหนืด <๕๗> เรื่องเล่าตึ๋งหนืดกับการยอมใช้บัตร Speedy cash เป็น Personal loan..

วันที่ 11 มีนาคม 2559 ซึ่งเป็นวันศุกร์ เวลาประมาณ 15.00 น. มี Telesale (เสียงผู้ชาย) โทรมาหา บอกว่าโทรมาจากบัตร Speedy cash เสนอให้ตึ๋งหนืดกู้เงิน โดยเสนอดอกเบี้ยให้ 59 สตางค์ต่อเดือน...คุณสนใจโครงการนี้ไหม ตอบว่าไม่สนใจ ไม่มีโครงการใช้เงินขณะนี้ (ขณะเจรจากับ Telesale สมองต้องไว และต้องไม่มีความโลภ ณ ขณะนั้น) และบอกไปอีกว่า ภายใน 3 ปีนี้ ไม่ได้ใช้บัตรใบนี้เลย และไม่รู้ว่าเอาบัตรใบนี้ไปเก็บไว้ที่ไหน

เสียงเสนอใหม่ "ถ้าเป็นอัตราดอกเบี้ย 5.88% ต่อปี สนใจไหม"..(สมองคิดไว เป็นหนี้ประกันชีวิต เพราะกู้แบบใช้กรมธรรม์ค้ำ ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี ยอดกู้ 50,000 บาท ต้องตอดเหยื่อโดยไม่ฮุบเอาเบ็ดเสียแล้ว) เลยตอบว่าสนใจ และขอวงเงินแค่ 50,000 บาท (น้อยกว่าที่ควรจะเป็น) แต่ว่าจำเลขที่บัตรไม่ได้ เขาบอกว่าไม่มีปัญหา ตึ๋งหนืดจึงให้เขาอธิบายวิธีชำระเงิน...เขาบอกว่าสักครู่จะมีฝ่ายสินเชื่ออีกคนหนึ่งติดต่อมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรมนี้.

สักครู่ 1 ชั่วโมงผ่านไป มีเสียง Telesale หญิง เข้าใจว่าเป็นแผนกสินเชื่อส่วนบุคคล โทรมาอธิบายว่า ต้นเงินกู้ 50,000 บาท ดอกเบี้ย 5.88% คิดเป็นเงิน 2,940 บวกเข้าไปกับเงินต้น เป็นเงิน 52,940 บาท (คิดแบบ flat Rate) แล้วหารด้วย 12 (เดือน เพราะขอส่งแค่ 12 งวด) ตกส่งทั้งต้นและดอก เดือนละ 4,411.67 บาท พออธิบายกันเข้าใจแล้ว ถามเรื่องการชำระเงินคืน เจ้าหน้าที่บอกว่าคล้ายบัตรเครดิต คือจะมีใบแจ้งยอดค่าใช้จ่าย และให้ไปชำระที่ธนาคารตามใบแจ้งยอด 12 งวด เข้าใจตรงกัน

แล้วเจ้าหน้าที่บอกว่า เดี๋ยวจะโอนเงินไปให้ตามหมายเลขบัญชีที่มีอยู่กับธนาคาร (เขารู้ข้อมูลเราหมด แต่เป็นการโอนเงินเข้าบัญชี) รออยู่อีกชั่วโมงกว่า จึงโอนเงินเข้าบัญชีให้ โอนมาให้หลัง 5 โมงเย็น ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็คิดว่า โอนเงินมาให้ตอนนี้ ก็เริ่มคิดดอกเราแล้ว แต่ยอดเงินวันนี้คงใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ ต้องทิ้งไว้ในบัญชีก่อน

สายๆ วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม โทรไปหาเจ้าหน้าที่บริษัทประกันชีวิต ถามเรื่องชำระหนี้ก่อนกำหนด เขาก็ให้ตัวเลขเงินที่จะส่ง รวมต้นและดอกเบี้ยเสร็จ และถามว่าย้ำว่า จะส่งวันนี้เลยใช่ไหม พร้อมทั้งแนะนำวิธีการโอนเงินเข้าบัญชี (หลังจากนั้นอีกประมาณ 10 วัน เขาก็ส่งใบเสร็จมาให้ เป็นอันหมดหนี้เก่า และมีหนี้ใหม่ที่จะต้องชำระอีกเกิดขึ้น)

ผ่านมาเกือบ 1 เดือน ราว ต้นเดือนเมษายน ไม่เห็นมีวี่แววใบเรียกเก็บเงินจาก Speedy Cash จึงไปที่ SCB สาขาโลตัส พิษณุโลก ถามเรื่องนี้ บอกว่าจำเลขบัญชีไม่ได้ด้วย (สังเกตความตึ๋งหนืด) หลังจากอธิบายให้เจ้าหน้าที่ธนาคารฟัง เจ้าหน้าที่ธนาคารก็ต่อมือถือให้ (เข้าใจว่าเป็นโทรศัพท์ส่วนกลาง เพราะเป็นเครื่องเก่าๆ แบบปุ่มกด) โทรไปที่ call center ส่วนกลาง

เจ้าหน้าที่ส่วนกลางถามข้อมูลส่วนตัว แล้วก็ตอบข้อสงสัยให้ว่า ตอนนี้ยังไม่มีใบเรียกเก็บ เพราะปกติจะตัดยอดวันที่ 10 ของเดือน (เรียกเก็บ) หลังจากนั้นจะส่งใบแจ้งยอดไป ให้มาชำระภายในวันที่ 25 ของเดือน แต่เนื่องจากวันที่ 10 เมษายน นี้เป็นวันหยุด ทางเจ้าหน้าที่จะเลื่อนมาตัดยอดวันที่ 8 เมษายน แทน

ผ่านไปถึงวันที่ 23 เมษายน จะครบกำหนดชำระวันที่ 25 เมษายน อยู่แล้วไม่มีใบเรียกเก็บเข้ามา จึงไปที่ธนาคารเดิมอีก พอดีพบเจ้าหน้าที่คนเดิม เขาก็โทรไปหาส่วนกลางให้ใหม่ (คราวนี้โทรศัพท์เป็นแบบ smart phone อาจเป็นของส่วนตัว หรือไม่ก็เป็นของส่วนกลางที่เอาเก่าไปแลกใหม่ของ AIS)

คราวนี้เจ้าหน้าที่ส่วนกลางชี้แจงให้ว่า ยังไม่มียอดเรียกเก็บ เพราะว่า รอบบิลที่แล้ว ตัดยอดใช้จ่ายวันที่ 8 เมษายน (แต่รับเงินไป 11 มีนาคม) ยังไม่ครบ 1 เดือน จึงขยายเวลา ไปตัดยอดอีกครั้งวันที่ 10 พฤษภาคม 2559 และเริ่มชำระงวดแรก วันที่ 25 พฤษภาคม 2559 และชำระต่อเนืองไปอีก 11 เดือน โดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย (ดอกเบี้ย) เพิ่ม คิดแบบที่ได้ตกลงกันไว้..

ตึ๋งหนืดก็เลยประหยัดดอกเบี้ยได้ 75 วัน (ชำระหนี้บริษัทประกันชีวิต) เงินต้น 50,000 บาท ดอกเบี้ย 6.5 % ต่อปี คิดเป็นเงิน 667 บาท เมื่อหักดอกเบี้ยงวดแรกที่จะเสียให้กับ speedy cash 245 บาท จึงเท่ากับประหยัดเงินได้ 422 บาท

สรุปว่า กู้เงิน Speedy Cash ครั้งนี้ มีระยะเวลาปลอดหนี้นาน 75 วัน ทำให้มีผลต่างเรื่องดอกเบี้ย เป็นเงิน 667-245 = 422 บาท

ตึ๋งหนืด
หอพักมน.นิเวศ ๓
วันอาทิตย์ที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙