เรื่องเล่าระหว่างวันที่ 28 มีนาคม - 1 เมษายน 2559

3 เมษายน 2559

เรียน ผู้บริหาร เพื่อนครูและผู้อ่านที่รักทุกท่าน

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2559 เช้านี้หลบรถติดไปทางอ้อมเมืองนนทบุรี เข้าซอยเรวดีมาออกถนนรัตนาธิเบศร์ เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ในซอยรถติดตั้งแต่ต้นซอย ขับตาม ๆ กันไป พอออกถนนรัตนาธิเบศร์ ปรากฏว่าถนนกลับโล่ง เรียกว่าตัดสินใจไม่ถูกต้อง เข้าสำนักงานเดินเยี่ยมกลุ่มงานต่าง ๆ เพื่อสอบถามปัญหาการทำงาน ตั้งแต่ย้ายมาอยู่จังหวัดนนทบุรี การที่คาดว่าจะได้เบาแรงพักผ่อนอยู่กับงานเขตบ้าง กลับตรงข้าม มีเหตุให้ต้องไปปฏิบัติราชการนอกสังกัดบ่อยครั้ง ในที่สุดข่าวลือเรื่องการตั้งปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการจังหวัดและรองศึกษาธิการจังหวัด ก็ออกมาปรากฏในสื่อสาธารณะ ผมได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการจังหวัดนนทบุรี ผอ.สพม. 3 คุณวีระพงษ์ เดชบุญ ปฏิบัติหน้าที่รองศึกษาธิการจังหวัด รับรู้ว่ามีหน้าที่เพิ่มขึ้น แต่สถานภาพยังไม่ชัดเจน เพราะเป็นตำแหน่งตามระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ใช่ตำแหน่งตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคล ซึ่งต้องรอกันต่อไป เนื่องจากคำสั่ง คสช.ที่ 11/2559 กำหนดให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 ทำหน้าที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด จึงต้องดำเนินการ มอบหมายงานงานให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในฐานะ ผอ.เขต ในลำดับต่อไป เย็นเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรับครูที่เดินทางจากอังกฤษกลับบ้าน วันจันทร์แต่งเครื่องแบบไปสนามบิน ทั้งไทย แขก ฝรั่งมาถามข้อมูลไม่ขาดสาย คงคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่สนามบิน ครั้นปฏิเสธจะเสียชื่อคนไทย เลยสวมรอยตอบคำถามเขาไปเพราะอ่านหนังสือออกทั้งภาษาไทยและฝรั่ง แต่หากเจอคนจีนต้องชี้ให้พบเจ้าหน้าที่โดยตรง

วันอังคารที่ 29 มีนาคม 2559 เช้านี้รถยังคงติดเป็นปกติของย่านถนนรัตนาธิเบศร์ เวลา 09.00 น. ขึ้นไปห้องประชุมชั้น 3 เพื่อเปิดประชุมสหกรณ์โรงเรียน ซึ่งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 1 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มาขอจัดอบรมการสหกรณ์ในสถานศึกษาให้กับผู้บริหริหารและครู เป็นโครงการในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก็ต้องร่วมมือกัน เรื่องสหกรณ์กับครูพักหลังมีข่าวออกมาไม่ดีเลย โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตและล้มเหลวในทางธุรกิจซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ทำให้หลักการสหกรณ์ที่ดี ๆ ถูกมองในแง่ลบไปด้วย ต้องฝึกนักเรียนให้ลงมือปฏิบัติจนเกิดทัศนคติที่ดีต่อกิจกรรมนี้ เป็นการฝึกโรงเรียนคุณธรรมที่ครบวงจร คือความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ ความพอเพียง และจิตอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งรัดให้โครงการนี้เกิดเป็นผลให้ได้ในโรงเรียนทุกแห่ง แบบเต็มใจและยั่งยืน กลับไปห้องทำงานเอกสารต่าง ๆ เที่ยงเจ้าหน้าที่มาชวนไปกินข้าวที่ห้องสโมสร ฉลองตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด ที่มากับ ม.44 ไปเป็นศึกษาธิการจังหวัดครั้งแรกที่ชุมพร หลังปีใหม่ 2545 เป็นการเดินทางที่อบอุ่นเพราะได้เลื่อนตำแหน่งและระดับไปพร้อมกัน มีลูกน้องไปส่งจากสมุทรสงคราม ลูกน้องใหม่ที่ชุมพรก็ต้อนรับกันคับคั่ง สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เป็นหน่วยงานใหญ่ มีงานการศึกษาเอกชน งานศาสนา งานวัฒนธรรม งานกีฬา งานลูกเสือยุวกาชาด งานคุรุสภา งานนโยบายพิเศษ มารวมอยู่ในหน่วยงานนี้ ที่สำคัญเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาค มีสำนักงานศึกษาธิการอำเภอ/กิ่งอำเภอ อยู่ทุกพื้นที่ โรงเรียนทุกสังกัดจะต้องเกี่ยวข้องกับงานไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่งแม้ไม่ได้บังคับบัญชาโดยตรง วัดและที่พักสงฆ์ทุกแห่งถือเป็นงานของเรา มาเป็นศึกษาธิการจังหวัดคราวนี้ไม่มีอะไรเพิ่มนอกจากงาน ลูกน้องเก่าที่บ้านแตกในการเปลี่ยนแปลงยุคปฏิรูปเจริญเติบโตมาเป็นกรรมการ กศจ.หลายคน ที่ร้ายสุดคือวัยที่สูงจนเกือบเกษียณอายุราชการ ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการทำงานใหม่ ๆ ได้เปรียบตรงประสบการณ์นิดหน่อยพอจะประคองงานประคองคนไปได้ ความพยายามเป็นเรื่องของมนุษย์ ความสำเร็จเป็นเรื่องของฟ้าดิน

วันพุธที่ 30 มีนาคม 2559 รถติดตั้งแต่สะพานพระนั่งเกล้าฯจนถึงสำนักงานเขต เปลี่ยนรถเดินทางไปประชุมศึกษาธิการจังหวัดนัดแรกที่โรงแรมปริ้นพาเลซ มหานาค แม้รถติดบนทางด่วนแต่ก็ทันประชุม พอเข้านั่งที่เขาวางป้ายไว้ ท่านชูชาติ ทรัพย์มาก อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวง ได้เรียกไปบอกว่าให้ขึ้นเวทีด้วยในการชี้แจงคำสั่ง คสช. เช้านี้ เป็นการมอบงานที่ทันทีทันใด ก็ยินดีแลกเปลี่ยน มี ผอ.เขต สมยศ ศิริบรรณ และผอ.เขต ทวีพล แพเรือง ขึ้นบรรยายด้วยกัน ก็ใช้หลักกฎหมายทั่วไปประกอบหลักกฎหมายปกครองวินิจฉัย ส่วนเจตนารมณ์ตรงไม่ตรงบ่ายถึงค่ำผู้เกี่ยวข้องมาบรรยาย คงทราบเจตนาอันแท้จริง เที่ยงลงไปทานข้าวที่ชั้น 6 ไม่ได้กินที่เขาจัดเลี้ยง เป็นข้าวผัดอินเดียเม็ดยาว ๆ เรียกว่าข้าวบาสมาติ หรือบัสมาตี ผัดกับเนื้อไก่ที่ตัดเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ อร่อยดี จานหนึ่ง 90 บาท บ่ายฟังเลขาธิการ ก.ค.ศ. บรรยาย แนวทางก็ยังตรงกันอยู่ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการบรรยาย ก็ยังคงแนวทางเดียวกัน เย็นทานอาหารญี่ปุ่นแบบซื้อกินเอง ข้าวสวยเม็ดสั้น ปลาแซมมอลทอดซีฮิ้ว กิมจิ น้ำซุปผัก มื้อนี้เกือบ 400 บาท ประมาณ 18.30 น. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจง สิ่งที่พูดกันมาทั้งวันต้องลบทิ้ง ขนาดบรรยายจบแล้วคนฟังงงไปไหนไม่ถูก ต้องพยายามบำบัดความเครียดออกไป เพราะเคยเป็นตอนเจ้าภาพ IMSO แทบทรงตัวไม่อยู่ กลับถึงเขตเกือบ 4 ทุ่ม ต้องยอมรับว่ากฎหมายพิเศษเข้าใจไปคนละทาง ใครถูกใครผิดยังเอาแน่ไม่ได้ แต่ขวัญกำลังใจหดหายไปหมดสิ้น

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม 2559 วันนี้มีประชุมคณะกรรมการแก้ไขระเบียบว่าด้วย ช.พ.ค.และช.พ.ส. ที่ห้องเทพหัสดิน สำนักงาน ส.ก.ศ.ค. มีท่านสมบัติ ขวัญดี เป็นประธานกรรมการ วันนี้ถกเถียงกันเรื่องทั่ว ๆ ไปเพื่อวางแนวการแก้ไข ซึ่งกรรมการชุดเดิมประชุมไปแล้ว 10 ครั้ง แต่ต้องเปลี่ยนประธานกรรมการเลยต้องตั้งชุดใหม่ พวกเรามีมตินำของชุดเดิมมาพิจารณาด้วย อีกเรื่องที่หาข้อยุติกันคือจะออกเป็นระเบียบหรือข้อบังคับ เดือดร้อนถึงผมต้องอธิบายให้ฟังอีกว่า การจะออกข้อบังคับได้นั้นกฎหมายหลักต้องให้อำนาจไว้ คือระบุไว้ว่าให้ออกเป็นข้อบังคับ ส่วนระเบียบกฎหมายจะกำหนดไว้หรือไม่กำหนดไว้ก็สามารถออกได้ ส่วนจะบอกว่าข้อบังคับกับระเบียบกฎหมายไหนใหญ่กว่าบอกไม่ได้ ดูเป็นเรื่อง ๆ ไป เช่น ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลาของข้าราชการในสถานศึกษา ข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ เป็นต้น ประชุมเที่ยงเลิก ชวนท่านสมยศ ศิริบรรณ ท่านวิรัช ฐิตติรัตนมงคล มาทานข้าวร้านอาหารใต้ต้นไทร หลังคุรุสภา บ่ายเดินทางไป สพป.กทม. ประเมินวิทยฐานะรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชำนาญการพิเศษ ดูหน่วยก้านดีจบปริญญาเอก อนาคตน่าจะไปได้ไกลช่วยงาน สพฐ.หลายเรื่อง เย็นกลับถึงเขตร่วมงานเลี้ยงส่งข้าราชการ กลุ่มอำนวยการ ที่ลาออกจากราชการ ไปเลี้ยงดูแม่ที่ชราภาพแล้ว ขาดอัตรากำลังอีกแล้ว

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2559 ภาคเช้านัดหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการมาประชุมทำความเข้าใจคำสั่ง คสช.ที่ 10-11/2559 มากันครบทุกหน่วย เว้นแต่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางในการทำงานร่วมกัน เข่น ข้อมูลสารสนเทศต้องหาโปรแกรมเชื่อมโยงกันให้ได้ ในฐานะศึกษาธิการจังหวัดถูกคาดหวังจะตอบคำถามได้ทุกเรื่อง จึงต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ประชุมจนเที่ยง เชิญทุกท่านรับประทานอาหารที่ห้องสโมสร บ่ายทำงานเอกสารของกลุ่มงานต่าง ๆ มานั่งอ่านไลน์กลุ่มศึกษาธิการจังหวัด สงสารรุ่นน้องหลายเขตที่เดินหน้าหากรรมการไปแล้ว ต่อมากระทรวงเปลี่ยนแนวใหม่ เรียกว่ามีอาการเสียหน้าเกิดขึ้น ก็ต้องมาระบายให้พรรคพวกรับทราบ เป็นทางออกหนึ่งในทางจิตวิทยา ผมรุ่นเดอะงุ่มง่ามทำอะไรช้า เลยรอดตัวไป ไม่ได้เก่งกาจอะไร เพียงแต่วิ่งนำเขาไม่ไหวดูเขาไปก่อน ยังมีอีกหลายกระบวนท่าให้ประลอง ออมแรงไว้ก่อน ผู้ว่าชัยจิตร รัฐขจร เคยสอนผมเมื่ออยู่ระนองว่า "เป็นแม่ทัพ อย่าขัดปืน" ยังจำติดหูไม่รู้ลืม

นายกำจัด คงหนู

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1