สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน วันนี้ก็ได้มีโอกาสมาเขียนบล็อคอีกครั้ง ซึ่งในวันนี้จะมาเล่าถึงการบำบัดฟื้นฟูสำหรับผู้ใหญ่ที่มีอาการเครียดเรื้อรังหลังจากประสบเหตุการณ์รุนแรง และร้ายๆ ในชีวิตที่ผ่านมา นักอ่านลองสังเกตดูนะคะว่ามีบุคคลใกล้ตัว หรือคนในครอบครัวที่เคยมีประสบการณ์ดังกล่าวบ้าง แล้วยังส่งผลให้คิดถึงอยู่ตลอด จนเกิดเป็นความเครียดเรื้อรัง วิธีการบำบัดฟื้นฟูนี้หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ที่ประสบโรคนี้สามารถจัดการกับอาการที่เกิดขึ้นได้ , ทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ก่อนอื่นเรามารู้จักโรคเครียดเรื้อรังนี้กันก่อน ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร มีสาเหตุจากอะไร
โรคความผิดปกติทางจิตใจภายหลังเผชิญเหตุการณ์รุงแรงในชีวิต (Post-traumatic Stress Disorder : PTSD) คือ ความผิดปกติทางด้านจิตใจที่มีอาการเกิดขึ้นหลังจากประสบเหตุการณ์รุนแรงในชีวิต และการกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุงแรง เช่น ภัยพิบัตธรรมชาติ , ความหายนะที่เกิดจากคนเรากระทำ ได้แก่ สงคราม , จราจล , ถูกทรมาน , ข่มขู่เอาชีวิต และข่มขืน เป็นต้น โดยมีลักษณะหวนคิด และนึกถึงเหตุการณ์นั้นบ่อยๆ ทำให้สนใจในสิ่งต่างๆรอบตัวลดลงหรือหมดไป เริ่มรู้สึกห่างเหินจากคนใกล้ชิด ครอบครัว ญาติ และเพื่อน มีอาการเฉยเมย ไม่ร่างเริง ตื่นเต้นตกใจง่าย นอนไม่หลับ ซึ่งอาการดังกล่าวจะไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่จะเกิดในช่วงหลัง 2-3 สัปดาห์ที่ประสบเหตุการณ์ดังกล่าว และจะมีอาการต่อเนื่องจนถึง 2-3 เดือน บางรายอาจเป็นมากกว่า 6 เดือน
รูปนี้จะแสดงเห็นภาพรวมของโรคความผิดปกติทางจิตใจภายหลังเผชิญเหตุการณ์รุงแรงในชีวิต
อาการสำคัญหลัก
1. การนึกถึงเหตุการณ์นั้นซ้ำๆ (re-experienced) หรือเหตุการณ์นั้นตามมาหลอกหลอน เช่น ฝันร้าย โดยฝันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เหมือนภาพติดตา
2. มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นั้นหรือสิ่งที่เกี่ยวพันกับเหตุการณ์นั้น (avoidance) เป็นพฤติกรรมที่สืบต่อมาจากอาการ re-experienced เพราะการเห็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับเหตุการณ์จะทำให้นึกถึง ทำให้ผู้ป่วยจะพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งของ สถานการณ์ บุคคลหรือสถานที่ที่ทำให้รู้สึกกลัว
3. อาการตื่นกลัว (hyperarousal) ผู้ป่วยจะมีอาการนอนไม่หลับ ใจสั่น หงุดหงิด โมโหง่าย ไม่มีสมาธิ ตกใจง่าย สมาธิไม่ดี กลัวอะไรต่างๆ ได้ง่ายกว่าปกติ
การระบาดวิทยาของโรค PTSD อาจพบได้ถึง 30% ของผู้ที่ประสบเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ ในระยะยาว และอาการสามารถคงอยู่ได้นานถึง 30 ปี หลังจากเกิดเหตุการณ์ นอกจากนี้โรคนี้จะพบในผู้ชายมากสำหรับบุคคลที่อยู่ในสมรภูมิ หรือพบเหตุการณ์รุนแรงจนเสียชีวิต และการทำร้ายร่างกายจะมีผลต่อผู้หญิงประมาณครึ่งหนึ่ง
โรคที่พบร่วมบ่อยๆ ได้แก่ โรคซึมเศร้า , โรคแพนิค , โรคประสาทวิตกกังวล , ติดสารเสพติด และโรคติดสุรา เป็นต้น
เกณฑ์การวินิจฉัยของโรค PTSD
A. ผู้ประสบภัยอยู่ในเหตุการณ์ภัยพิบัตที่มีความรุนแรงนั้น
B. มีอาการที่แสดงว่าได้กลับไปเผชิญเหตุการณ์นั้นอีก (re-experience) อย่างน้อย 1 ข้อใน 5 ดังนี้
C. พถติกรรมหลีกเลี่ยงส่งกระตุ้น ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์นั้น อย่างน้อย 3 ข้อใน 7 ข้อต่อไปนี้
D. อาการของความตื่นตัว มีอย่างน้อย 2 ข้อใน 5 ข้อต่อไปนี้
E. อาการในข้อ B,C,D นานเกิน 1 เดือน
F. อาการทำให้เกิดปัญหาในการปรับตัวอย่างมาก ชัดเจน ต่อ สังคม อาชีพ และหน้าที่สำคัญของชีวิต
การประเมินทางกิจกรรมบำบัด ตามแบบจำลองทางกิจกรรมบำบัด PEOP model ดังนี้
หลังจากการประเมินเราจะทำการรวบรวม และนำข้อมูลที่ได้มาวางแผนการบำบัดฟื้นฟู ซึ่งการวางแผนการบำบัดฟื้นฟู จะให้ผู้รับบริการมีส่วนในการวางแผน และออกแบบโปรแกรมการฟื้นฟูไปด้วยกัน
การวิเคราะห์ปัญหาโรคความผิดปกติทางจิตใจภายหลังเผชิญเหตุการณ์รุงแรงในชีวิตของผู้ใหญ่
P+E = Motivation (แรงจูงใจ)
จากปัญหาจะเห็นได้ว่าการที่เราจะทำให้ผู้รับบริการมีแรงจูงใจขึ้นมาสามารถจะทำกิจกรรมการดำเนินชีวิตได้ตามปกตินั้น ก็ต้องเริ่มจากตัวบุคคลและสิ่งแวดล้อมก่อน ซึ่งทั้งสองจะสัมพันธ์กัน ในระยะแรกของโรคผู้รับบริการจะมีความวิตกกังวล คิดถึงเหตุการณ์นั้นซ้ำๆ และเครียดมาก ดังนั้นเราจะทำให้เลิกคิดถึงเหตุการณ์ และลดความเครียดก่อนโดยการใช้วิธีผ่อนคลาย และการจิตนการสถานที่ที่ผู้รับบริการรู้สึกปลอดภัย หรืออยากที่จะอยากไป ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ในการปรับความคิด และพฤติกรรม ร่วมกับการปรับสิ่งแวดล้อมให้ผู้รับบริการรู้สึกปลอดภัย ไม่มีสิ่งกระตุ้น เมื่อผู้รับบริการลดความวิตกกังวลได้ จากนั้นเราจะการหากิจกรรมที่เขาให้ความสนใจในอดีตที่เคยชอบทำมาเป็นสื่อในการกระตุ้นแรงจูงใจของเขา เพื่อทำให้ผู้รับบริการเกิดความมั่นคงทางจิตใจมากขึ้น
P +E+O = Abilities (ความสามารถ)
ความสามารถของบุคคลสามารถเกิดขึ้นได้ โดยการปรับตัวบุคคล และสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกัน ก็จะทำให้เอื้อต่อการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิต และเกิดเป็นความสามารถในการทำกิจกรรมได้ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตที่ดีตามมาอีกด้วย
การบำบัดฟื้นฟูทางกิจกรรมบำบัด
Therapeutic Relationship to recovery
การสร้างสัมพันธภาพกับผู้รับบริการ ในการพูดคุย และรับฟังสิ่งที่ผู้รับการเล่าด้วยความจริงใจ เพื่อให้ผู้รับบริการเกิดความไว้วางใจ ไม่รู้สึกว่าถูกกดดัน หรือวิตกกังวล และรู้สึกปลอดภัยขณะพูดคุย
Therapeutic Environment to empowerment
Therapeutic Use of self to empathy
Therapeutic Skill to active learning
ตัวอย่างกิจกรรมบำบัดฟื้นฟู ได้แก่ กิจกรรมปรับสมดุลจิตใจ เป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้รับบริการที่มีแผลทางจิตใจ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ โดยจะสอนเทคการจัดการกับความวิตกกังวล เช่น การหายใจอย่างช้าๆ , การจินตนาการ และเทคนิคการควบคุมอารมณ์ที่เกิดขึ้น เหมาะสำหรับผู้รับบริการที่มีระดับความรู้ความเข้าใจ ตั้งแต่ 3 ขึ้นไป โดยจัดกลุ่มแบบกลุ่มผลงานก่อน คือทำด้วยกันกับผู้บำบัดก่อน จากนั้นเข้าสู่กิจกรรมสร้างความสมดุลทางจิตใจ เช่น สอนให้ผู้รับบริการรู้สึกว่าตนเองปลอดภัย สอนการสังเกต และจดจำการเปลี่ยนแปลงร่างกายที่เกิด เพื่อให้ผู้รับบริการได้เกิดการเรียนรู้ตัวเอง สามารถจัดการกับสถานการณ์ได้ และเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงทางจิตใจของผู้รับบริการอีกด้วย ซึ่งกิจกรรมนี้เหมาะสำหรับผู้มีระดับความรู้ความเข้าใจระดับ 4 ขึ้นไป จัดกลุ่มแบบกลุ่มผล จากนั้นเมื่อผู้รับบริการทำได้ก็สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปแชร์กับคนอื่นโดยการจัดกลุ่มอารมณ์ร่วมใจ ทุกคนมามีส่วนร่วมด้วยกัน เพื่อที่จะช่วยกันต่อสู้กับโรคนี้ไปได้
การบำบัดฟื้นฟูจะได้ผลดีหรือไม่ก็ต้องเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างผู้บำบัดและผู้รับบริการ ร่วมทั้งคนในครอบครัวถ้าช่วยกันสนับสนุน และให้กำลังใจซึ่งกันและกันโรคเหล่านี้ก็จะสามารถหายไปได้ และสามารถกลับเข้าสู่สังคมได้ตามบริบทของผู้รับบริการ
สุดท้ายนี้ดิฉันหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักอ่านทุกท่านนะคะ ^^
อ้างอิง :
พนม เกตุมาน. จิตเวช ศิริราช DSM-5. กรุงเทพฯ: ประยูรสาส์นไทย การพิมพ์; 2558.
สถาบันกัลยาณ์ราชนคริทร์. คู่มือการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจประชาชนในภาวะวิกฤต (ฉบับปรับปรุง). [Internet]. 2553 [เข้าถึงเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2559]. เข้าถึงได้จาก http://www.mcc-galya.com/manual_files/usermanual1.pdf
PTSD ในภัยพิบัติ. [Internet]. [เข้าถึงเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2559]. เข้าถึงได้จาก http://www.nursepolice.go.th/sites/default/files/r...
พ.ญ.บุญพร้อม เชษฐรตานนท์. Posttraumatic Stress Disorder [Internet].2542 [เข้าถึงเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2559]. เข้าถึงได้จาก http://med.mahidol.ac.th/ramamental/sites/default/...
ไม่มีความเห็น