เปลี่ยนแปลง เรียนรู้ เติบโต สร้างสรรค์ และมีความสุขกับนักกิจกรรมบำบัด


สืบเนื่องจากตอนที่ได้รับการบำบัดจาก อ.ป้อบ เพื่อตั้งเป้าหมายในการชีวิตใน 21 วันต่อเนื่อง เมื่อราวๆ 7 เดือนที่แล้วนะคะ ตามบันทึกนี้ https://www.gotoknow.org/posts/593553 ขอมารายงานผลการปฏิบัติ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเอง ซึ่งได้ผลดีทีเดียวค่ะ

เริ่มจากกิจกรรม Break the routine อันแรก คือการออกกำลังกาย เพื่อทำให้สุขภาพดีขึ้น ดิฉันออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่ง (ทั้งสามอย่างนี้ดูเหมือนว่าถ้าทำได้ลงแข่งไตรกีฬาได้เลย 55) รวมถึงแตะขอบสนามเทนนิสบ้าง ผลที่ได้จากการออกกำลังกายต่อเนื่องใน 21 วัน รวมถึงตลอดมาในช่วงเจ็ดเดือนพบว่า ตัวเองเศร้าง่ายน้อยลง มีสมาธิและนิ่งขึ้น มีวินัยมากขึ้น สุขภาพดีขึ้นจากผลการวัดความดันอยู่ในค่าปรกติ น้ำหนักลดลงนิดหน่อยเพราะยังสนุกกับการกินข้าวกะเพื่อนๆอยู่

ดิฉันก็ประหลาดใจกับตัวเองมาก เพราะเกลียด การวิ่งมาก จำได้ว่าครั้งแรกที่วิ่ง ได้ไม่ถึง 50 เมตร ฝ่าเท้าจะเจ็บมาก ใจก็อ่อนแอ ไม่อดทน หลังจากซ้อมร่างกายอยู่หลายเดือน สนามแรกที่ได้ใช้จริงคือ การปีนยอดภูกระดึงเมื่อ เดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา นอกจากจะเดินขึ้น เดินลงแล้ว ดิฉันก็ได้เดินป่ากับกลุ่มเพื่อน ตั้งแต่ 11 โมงเช้า จนถึง 3 ทุ่ม พวกเราพักระหว่างทางบ้างนะคะ แต่ส่วนใหญ่เดิน เป็นชีวิตที่สนุก ท้ายทายมาก กลับมาเท้าบวมจนใส่รองเท้าเกือบไม่ได้ ต้องประคบเย็นตลอด เพราะขาเจ็บ บวม จนเสียการทรงตัว เล่นเอาต้องพักร่างกายไปหลายอาทิตย์เลยค่ะ

ดิฉันก็ได้มีโอกาสลงสนามวิ่ง มาราธอนแรกในชีวิต ด้วยการวิ่งสิบกิโล จำได้ว่าเจ็บฝ่าเท้าจนเกือบกลับไม่ได้ กะเผลก แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเชื่อมั่น ว่าฉันทำได้ ฉันทำได้ ฉันทำได้ จนเกิดการลงรายการอื่นๆอย่างสม่ำเสมอ นอกจากได้ลงวิ่งแล้ว ยังได้เพื่อนเป็นนักวิ่ง มีกัลยาณมิตรบนเส้นทางการวิ่งเพิ่ม และเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆอีกด้วย

กิจกรรมที่สองที่ต้องเปลี่ยนแปลง คือการฝึกฝนภาษาอังกฤษ ในช่วง 21 วันแรก ดิฉันสามารถอ่านหนังสือได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีหยุดอ่านไปบ้างเพราะใจท้อแท้ และลงเรียนภาษาเพิ่มเติม เพื่อมุ่งมั่นกับการเตรียมสอบไอเอล

ภาษาอังกฤษถ้าไม่ได้ใช้บ่อยๆ ก็จะลืม คำนี้เป็นจริงทุกประการค่ะ ปัจจุบันดิฉันยังเรียน แต่ขาดการฝึกฝนด้วยการอ่านและทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติมในวันที่ไม่ได้ไปเรียน จะเริ่มกลับมาตั้งหลักอีกครั้ง และลงมือทำทุกวันวันละ 1 ชั่วโมง

ภารกิจสุดท้ายคือการนอน ช่วงแรกของการวางแผนดิฉันสามารถนอนได้ไวในเวลา สามทุ่ม ตื่นตีสี่ครึ่งมาวิ่ง ทุกวัน แต่ช่วงเปิดเทอม routine เสีย เพราะต้องเลือกระหว่างทำงาน หรือนอน ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2559 นี้ ภาระเรื่องการเรียนการสอนจะเริ่มลดลง ดิฉันตั้งใจจะกลับมานอนเร็วอีกครั้ง และจะตื่นเช้าๆ แค่คิดก็มีความสุขแล้ว

มีโอกาสได้เรียนรู้เทคนิค NLP เพิ่มจากอ.ป้อบ ชื่อว่าเทคนิค Walt Disney ในการทำท่าทาง 3 ท่าทาง คือ Dreamer เพื่อให้ได้คิดไคร่ครวญ หรือรวบรวมไอเดียต่างๆ ท่าที่สองคือ Realistic เป็นท่าทางมุ่งมั่นและเพ่งมองที่กระดาษ ก่อนจะลงมือเขียนลงไปในกระดาษ ท่าสุดท้ายคือ Criticize ท่าทางตรวจสอบ และแก้ไขในสิ่งที่อยู่ในกระดาษให้สมบูรณ์ขึ้น ถ้าเปรียบกับคน บุคลิกแบบนี้คือนักจับผิดและวิพากษ์วิจารณ์ให้งานสมบูรณ์ขึ้นนั่นเอง

ดิฉันตั้งใจจะใช้ช่วงเวลาที่โล่งมากขึ้นนี้เพื่อเตรียมเขียนโครงร่างการวิจัยและหนังสือยังคั่งค้างอยู่ โดยอาศัยเทคนิคต่างๆนี้ค่ะ และในเดือน เมษายนนี้ ดิฉันจะได้เรียนเทคนิคละครเพื่อการเปลี่ยนแปลงเพิ่มค่ะ เพื่อ break the routine

เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ^ ^

หมายเลขบันทึก: 602983เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2016 15:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มีนาคม 2016 16:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มีกิจกรรมดีๆมากเลย

ชอบใจการออกกกำลังกายและฝึกภาษา

ภาษาอังกฤษเป็นทักษะ

ต้องฝึกบ่อยๆครับ

เอาใจช่วยครับ

สู้ๆครับ

ขอบพระคุณค่ะ พี่ขจิต พยายามจะอ่านและฝึกฝน แต่ยังติดที่ปล่อยใจไปตามอารมณ์มากไปค่า 55 สู้ๆ กำลังใจมาเต็ม ขอบคุณนะคะ :

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท