ประเทศไทยของเรา


รายงานธนาคารโลก

คาดการณ์ จีดีพี –การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 2557-2559

ประเทศไทยต่ำสุดในอาเซียนสามปีติดต่อกัน

---------------------------------------------

ในปี 2557 2558 2559

--------------------------------------------

ไทย 0.9% 2.5 2.0

เพื่อนบ้านของไทย กลุ่ม CLMV (ลาว เขมร พม่า เวียตนาม)

พม่า 8.5 6.5 7.5

เขมร 7.1 6.9 6.9

ลาว เติบโตสูงพอ ๆกัน

เวียดนาม 6.0 6.2 6.3

ฟิลิปปินส์ 6.1 5.8 6.4

มาเลเซีย สูงกว่าไทย

สิงคโปร์ สูงกว่าไทย

อินโดเนเซีย สูงกว่าไทย

------------------------------------------------

ถึงแม้จะไม่ใช่คะแนนสอบ แต่ก็อายเขาเหมือนกัน

ประเทศเหล่านี้ล้วนพึ่งพาการส่งออกและการลงทุนจากต่างชาติ

ล้วนเจอวิกฤติเศรษฐกิจโลกเหมือนไทย

ทำไมไทยจึงหยุดชะงักและถดถอย แต่ที่อื่นเขาโตเอา ๆ

ไม่ยากที่จะหาคำตอบ แต่คงจะยากที่จะแก้ได้ในเร็ววัน

อย่างไรก็ตาม ขอให้ความพยายามของรัฐบาลในอันที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจจงเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องทำให้ตัวเลข

จี ดี พี สูงขึ้นทุกปี พร้อมทั้งเหล่าประชาชีมีความสุขเพิ่มขึ้น ๆๆ

หมายเลขบันทึก: 602162เขียนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2016 16:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2016 16:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ก็คงต้องช่วยๆกัน..หาทางออก..ว่าทำไม..อะไรเป็นสาเหตุ...นะคะ

I am not an economist ;-) but I think one of the reasons is a lot of investors in Thailand now invest in other ASEAN countries instead of in Thailand. They may do this to spread their portfolio (to reduce risks --including political risk), to take opportunities of more 'open policies' (due to worldwide recession), to establish 'brands' and networks in ASEAN...

Is is a good news that Thailand's investors now (rich enough to) go international? I don't know. But we are still finding our way in ASEAN.

Current government of Thailand have a lot of MEGA-projects at hand. How many of these will actually serve to spring up Thailand's economy (instead of 'buying' from overseas). Thailand economy can benefit from railrods and train building, ship and submarine building, airport and air plane building, ... even water reservoir building and 'waste management programs' (that seems to have faded from public eyes).

There are still unaccounted economic bases in Thailand economy (wild food gatherer-hunter, narcotic, illegal fishing, corruption,...), so the 'numbers' do not tell true stories. I would even prefer numbers on 'health', housing, and education instead of economy (which is in the hands of less than 10% of the population).

ขอบคุณทุกท่านค่ะ

สาเหตุที่ทำให้ไทยมีสภาพอย่างที่เป็นอยู่เชื่อว่าทุกคนคงพอจะทราบแต่คนอื่นพูดถึงมากแล้วก็ยังไม่สามารถจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในความคิดและทัศนคติของผู้กุมอำนาจ ดังนั้นเรื่องของ political risk ยังมีอยู่สูงและจะมีไปอีกนาน การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านเป็นของจริง การส่งออกที่ติดลบหนักขึ้นทุกปี และอื่น ๆ

บลูมเบิร์ก ยังสามารถรายงานว่าไทยมีความสุขที่สุด ประเทศหนึ่ง (ขำมาก) เพราะว่างงานน้อยและเงินเฟ้อต่ำ น่าจะต้องเปลี่ยนวิธีคำนวณดัชนีความทุกข์ยากที่ใช้(Misery Index) ได้แล้ว

เงินเฟ้อต่ำ-คนไม่มีกำลังซื้อ ของก็ขายไม่ออกไม่กล้าขึ้นราคามาก ควรเอาราคาอาหารสำเร็จรูปในตลาดสดสำหรับคนทั่วไปมาใข้คำนวนดัชนีด้วย

ว่างงานต่ำ ไม่ทราบว่าเอาอัตราการว่างงานมาจากไหน ใครเป็นผู้หาสถิตินี้ไว้ ก็อาจเป็นไปได้ที่ทุกคนต้องกระเสือกกระสนเก็บผักหักฟืนเพื่อมีรายได้เป็นค่ากับข้าวซึ่งต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำหลายเท่า

ความสุขที่ว่าเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้นเอง

ข่าวจาก Bloomberg มากลายเป็นข่าวในสื่อกระแสหลักในประเทศเราได้ด้วยนะครับ ผมฟังข่าวตอนขับรถอยู่แล้วแทบจะต้องจอดรถมาหัวเราะ เดาว่าถ้าไม่มีคนสั่งให้มาทำเป็นข่าว ก็คงเพราะนักข่าวอ่านภาษาอังกฤษไม่แตกครับ

ในข่าวของ Bloomberg เองก็เขียนถึงประเทศไทยแบบตลกๆ ครับ ของปีนี้เขียนไม่เยอะเท่าไหร่ ไม่เหมือนปีที่แล้วให้เหตุผลไว้ยาว จริงๆ แล้วมีข่าวอธิบายเพิ่มเติมเฉพาะด้วยเกี่ยวกับตัวเลขแบบพิเศษของไทยเราครับ

ถ้าเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องตลกก็คงไม่เท่าไหร่ แต่ที่น่ากังวลคือคนไทยจำนวนไม่น้อยดูเหมือนภาคภูมิใจกับเรื่องนี้จริงๆ จังๆ ส่งข้อความกันแล้วตีไข่ใส่ข้อความเพิ่มถึงส่วนดีต่างๆ นานาของประเทศไทยที่ห่างไกลความจริงยิ่งกว่าอัตราการว่างงานที่ 0.6% อีกครับ

An example of shifting economy in AEC:

17 March 2016
นักลงทุนไทยแรงสุด มือหนักที่สุด ทุ่ม 2.5 แสนล้านแปรรูปสินค้าในเวียดนาม [ผู้จัดการ]
http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsI...
...นักลงทุนไทยปีกหลักแน่นหนาที่สุด ใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria- Vung Tau) ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้นครโฮจิมินห์ ที่นั่นมีเงินทุนจดทะเบียน 3,770 ล้านล้านดอลลาร์ อันดับสองเป็น จ.หวีงฟุก (Vinh Phuc) ที่อยู่ติดกับกรุงฮานอยทางทิศเหนือ ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 744.4 ล้านดอลลาร์ จ.หายซเวือง (Hai Duong) ที่ยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือกรุงฮานอยเป็นอันดับสาม เงินทุนจดทะเบียน 513.4 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาตามจำนวนโครงการลุงทน จะพบว่าหายซเวือง มีโครงการลงทุนจากไทยมากที่สุดคือ 162 โครงการ คิดเป็น 37.8% ของโครงการลงทุนจากไทยในเวียดนาม

ตัวเลขล่าสุดของกระทรวงฯ ยังชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนจากไทยเข้าลงทุนถือหุ้นใหญ่ในบริษัทร่วมทุนมากที่สุด กล่าวคือการลงทุนแบบนี้มีมูลค่า 5,500 ล้านดอลลาร์ เป็นประมาณ 70% ของเงินลงทุนจดทะเบียนทั้งหมดของนักลงทุนไทยในเวียดนาม ถัดไปเป็นรูปแบบการเข้าถือหุ้น 100% ส่วนการลงทุนในรูปความร่วมมือกับนักลงทุนชาติอื่นนั้นมีน้อยที่สุด...

---

We don't know if these are Thailand's investors true and true or just nominees for foreign (like Chinese) investors (to whom profit goes).

And some reasons why Thai investors would be looking beyond the border

นายกฯ จ่อลงพื้นที่ จ.อุดรฯ 18 มี.ค. นี้ เกาะติดภัยแล้ง --- 16 มี.ค. 59 16:16 --- [ไทยรัฐ]
ภัยแล้งที่สุราษฎร์ฯขายวงกว้าง คาดอีก 2 สัปดาห์น้ำแห้งขอด [ผู้จัดการ]
จีนสั่งปล่อยน้ำจากเขื่อนในยูนนาน ช่วยเพื่อนบ้านชาติอาเซียนสู้ภัยแล้ง [ผู้จัดการ]

สวัสดีค่ะ ข่าวที่นักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศระยะนี้ได้ยินบ่อย ๆค่ะ เช่นการแปรรูปอาหารโรงแรม ฟุตบอล และอื่น ๆ ด้านหนึ่งแสดงถึงความสามารถในการทำธุรกิจและเงินทุนมหาศาลที่นักลงทุนเหล่านี้สร้างความร่ำรวยจากประเทศไทย

ในกรณีของเวียตนาม เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนมีข่าวว่าการรุกคืบของนักลงทุนไทยเริ่มสร้างความหวั่นวิตกให้กับชาวเวียตนามว่าไทยจะยึดครองเศรษฐกิจของเวียตนาม กระทบต่อธุรกิจในท้องถิ่น ทำนองเดียวกับที่ในเมืองไทยเราเคยเกรงว่าร้านค้าโชห่วยในตลาดจะอยู่ไม่ได้เมื่อร้านค้าปลีกข้ามชาต และแฟรนไชล์จากเมื่องนอกเข้ามาเต็มประเทศ

สำหรับนักลงทุนกลุ่มใดบ้างที่ไปลงทุน เป็นนักลงทุนตัวจริงหรือนอมินีให้ใครคงไม่ยากที่จะหาข้อมูล และเมื่อทราบว่าเป็นใครก็จะทราบได้ว่าเป็นตัวจริงหรือนอมินี เพราะมีจำนวนไม่มากนัก คงมีทั้งสองแบบละค่ะ และจะนำผลกำไรเข้าประเทศหรือเอาไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยนอกประเทศ น่าจะรอสถิติแลพะวิเคราะห์ได้ในอีกไม่นาน

สาเหลุที่นักลงทุนบางคนชลอการลงทุนในไทยแต่ไปลงในต่างประเทศบางประการได้แก่ ค่าแรงขั้นต่ำของเราสูงขึ้น และการขาดแคลนแรงงานในไทยซึ่งน่าจะรวมแรงงานราคาถูก ด้านบรรยากาศทางการเมืองและ กฏระเบียบที่ไม่เอื้ออำนวยอาจเป็นเหตุผลแต่ไม่น่าจะสำคัญเท่าเรื่องของแรงงาน และในประเทศเพื่อนบ้านก็คล้ายกับเมืองไทยถ้ามีการตอบแทนผู้มีอำนาจอย่างถูกคนถูกเวลาก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทีเดียว ถูกกว่าการลงทุนเพื่อค่าแรงเพื่อนมนุษย์

ในเชียงใหม่ มีนักลงทุนเจ้าใหญ่ที่สุดกว้านซื้อที่ดินในเมืองจะหมดอยู่แล้ว ชี้ไปตรงไหนชาวบ้านก็บอกว่าที่ของนาย... น่าเศร้ามากที่ยังไม่มีอะไรออกมาเพื่อป้องกันปัญหานี้

ทำนองเดียวกันทุนจีน และนักท่องเที่ยวจีนกำลังโจมตี บางทีแปลกใจ เห็นชาวจีนครอบครัวพ่อแม่ลูกเดินออกมาจากหมู่บ้านราคาแพงอย่างมีความสุข ถ้าเข้าใจไม่ผิดชาวต่างชาติเป็นซื้อคอนโดได้ แต่ซื้อบ้านและที่ดินไม่ได้ ก็คงเป็นการใช้นอมินี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท