ในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจ ภาครัฐบาล หรือประชาชน ความต้องการใช้เงินทุน กับเงินทุนที่มีอยู่ไม่พอดีกัน ระบบการเงินจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการที่จะช่วยกระจายทุน จากผู้ที่มีเงินทุนส่วนเกิน ไปสู่มือผู้ที่ขาดแคลนเงินทุน
การระดมเงินทุนตามเส้นทางที่ 1 เป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้มีเงินทุนส่วนเกินและผู้ขาดแคลนเงินทุนโดยตรง เช่น การเชิญชวนญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงมาร่วมลงทุนโดยการแบ่งหุ้นหรือกู้ยืม การระดมเงินทุนลักษณะนี้ทำได้จำกัด เพราะแหล่งเงินทุนเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในโครงการลงทุนที่ได้วางแผนไว้ จึงจำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากตัวกลางทางการเงิน ซึ่งประกอบด้วย สถาบันการเงินและตลาดการเงิน
การระดมเงินทุนตามเส้นทางที่ 2 เป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้มีเงินทุนส่วนเกินและผู้ขาดแคลนเงินทุนโดยผ่านตัวกลางทางการเงิน คือ สถาบันการเงิน (Financial Institutions) เช่น ธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุน โดยที่ผู้ที่มีเงินทุนส่วนเกินจะนำเงินไปฝากกับสถาบันการเงิน ซึ่งสามารถระดมเงินทุนส่วนเกินได้อย่างกว้างขวาง และสถาบันการเงินจะทำหน้าที่เป็นผู้ให้ใช้เงินทุน แก่ผู้ขาดแคลนเงินทุนเพื่อนำไปดำเนินธุรกิจตามโครงการที่ได้วางแผนไว้
การระดมเงินทุนตามเส้นทางที่ 3 เป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้มีเงินทุนส่วนเกินและผู้ขาดแคลนเงินทุนโดยผ่นตัวกลางทางการเงิน คือ ตลาดการเงิน (Financial Markets) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้ขาดแคลนเงินทุนจะนำสินทรัพย์ทางการเงินมาขาย เช่น การออกหุ้นทุนหรือหุ้นกู้ แล้วนำออกขายในตลาดการเงิน เพื่อระดมเงินทุนจากผู้มีเงินทุนส่วนเกินที่สนใจจะลงทุน
ที่มาข้อมูล:http://202.29.22.164/e-learning/cd-1322/SOC10/topi...
ไม่มีความเห็น