​พระสมเด็จ และพระเบญจภาคี มิใช่ของล้อเล่น ท่านสงวนไว้ให้กับคนที่เรียนรู้แล้วเท่านั้น


พระแท้ทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาด จะต้องเป็นเนื้อที่เราไม่เคยเห็นเท่านั้น ถ้าเหมือนกับที่เราเคยเห็นเมื่อไหร่ จะเก๊ อย่างน้อย 200% ทันที คือเก๊ทั้งองค์ที่เห็นขณะนั้น และองค์ที่เคยเห็นมาก่อน เนื่องจากพระแต่ละองค์แทบจะไม่เหมือนกันเลย ที่กลายเป็นจุดอ่อนของกลุ่มคนที่ใช้ “ความจำ” รู้เฉพาะที่เคยเห็นมา นำทาง ที่พลาดและ “หลุด” ได้ง่ายมากๆ

**********************************

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ชอบมีคนล้อเล่น เอาพระพลาสติกฝีมือ “ช่างรายวัน” และพระพลาสติกแต่งผิวฝีมือ “ช่างรายเดือน” มาถามว่า “แท้หรือเปล่า” ที่ผมไม่ทราบจะตอบว่ายังไง สำหรับคนที่ไม่ยอมเรียน มีแต่หวังฟลุคอย่างเดียว

บางคนอาการหนัก แสดงอาการมาแกล้งหลอกผมว่า “เรียน” มาบ้างแล้ว โดยการลอกคำสอนของผม มาพล่าม แบบ “เพ้อเจ้อ” แบบไร้สาระ ให้ผมฟัง ว่าพระที่หยิบมา มีลักษณะครบตามหลักการที่ผมแนะนำไว้ และหวังว่าผมจะเชื่อว่า เรียนมาจริง ฝึกดูมาแล้วตามหลักการ ที่ผมให้ไว้ ในการฟันธงแยก “แท้-เก๊”

ถ้าจะมีปฏิภาณสักนิด เอาพระเก๊เฉียบ ฝีมือ “ช่างรายองค์” ถ่ายรูปเบลอร์ๆ มองยากๆ มาหลอกผม ผมก็อาจจะหลงเชื่อว่าเรียนมาจริงๆ ก็ได้ เพราะพระระดับนี้ เกือบจะมีลักษณะต่างๆ ใกล้กับหลักการที่ผมให้ไว้

แต่ความเป็นจริงแล้ว ถ้าใครเรียนตามหลักการที่ผมให้ไว้เป็นขั้นๆ ตามแบบที่ผมแนะนำ และจับหลักการจากวัสดุแท้ๆ หลากหลาย (เปลือกหอย โลหะ ดิน หิน แร่ ฯลฯ) จนชัดเจนแล้ว ก่อนไปส่องพระเก๊ ท่านไม่มีวันหลงทางได้ไกลขนาดนี้อย่างแน่นอน

เพราะ เมื่อเราใช้พลังที่ 4 “ดูเป็นมากกว่าคนขาย” และพลังที่ 5 “มือไวกว่าเซียน” นั้น จะทำให้เราสามารถรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของคนสองกลุ่มนี้ ว่า เขามักไม่ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง ในการวิเคราะห์องค์ประกอบพื้นฐาน และพัฒนาการของมวลสารที่มีอายุจริงๆ อย่างมากที่สุด ที่เคยเห็นมา ก็แค่อ้างคำพูดเราไปใช้ โดยไม่เข้าใจ เท่านั้นเอง

เพราะส่วนใหญ่แล้ว คนทั้งสองกลุ่มนี้ เขาใช้ความเคยชิน อาจจะเคยเห็นพระแท้ๆมาบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจหลักของมวลสารและพัฒนาการ

คนทั้งสองกลุ่ม จะเน้นใช้ความจำ นำทางและเป็นหลักในการพิจารณา ให้เหมือนกับที่เคยเห็นมา ที่เราก็จะใช้เช่นเดียวกัน แต่ต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่ต้องใช้หลังจากการจับหลักการทางวิทยาศาสตร์และพัฒนาการได้แล้ว ที่จะทำให้เราสามารถใช้หลักการของเราจำแนกได้ดีกว่า เร็วกว่า และชัดเจนกว่า

ด้วยวิธีการตัดสินที่แตกต่างกัน จะทำให้เราสามารถฟันธง “เก๊-แท้” ได้เร็วกว่า และชัดเจนกว่า แม้แต่เนื้อที่ไม่เคยเห็น เราก็แยกแยะได้ ซึ่งเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งในการเดินตลาดพระ

ทั้งนี้เพราะ พระแท้ทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาด จะต้องเป็นเนื้อที่เราไม่เคยเห็นเท่านั้น ถ้าเหมือนกับที่เราเคยเห็นเมื่อไหร่ จะเก๊ อย่างน้อย 200% ทันที คือเก๊ทั้งองค์ที่เห็นขณะนั้น และองค์ที่เคยเห็นมาก่อน เนื่องจากพระแต่ละองค์แทบจะไม่เหมือนกันเลย ที่กลายเป็นจุดอ่อนของกลุ่มคนที่ใช้ “ความจำ” รู้เฉพาะที่เคยเห็นมา นำทาง ที่พลาดและ “หลุด” ได้ง่ายมากๆ

อย่างพระสมเด็จ โอกาสจะเหมือนกันได้แค่ 1 ในล้านองค์เท่านั้นเอง และพระอื่นๆ ก็เข้าลักษณะเดียวกัน

แต่ที่เห็นว่า เหมือนๆกันนั้น เกิดมาจากงานฝีมือของช่าง โดยเฉพาะมาจากช่างที่ขาดจินตนาการ ทำตามที่ตัวเองถนัด และทำแล้วขายได้ไปเรื่อยๆ จนเมื่อไหร่เริ่มขายไม่ได้ก็จะเปลี่ยน หรือพัฒนาฝีมือสักครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่ม “ช่างรายองค์” เป็นส่วนใหญ่ ถ้า “ช่างรายวัน” “ช่างรายเดือน” มักจะไม่คิดอะไรมาก แค่ทำตามที่หัวหน้าสั่งก็พอได้เงินไปเลี้ยงครอบครัวแล้ว

เพราะฉะนั้น เมื่อเราพัฒนาความรู้และสายตาให้ชัดเจนแล้ว เราก็มีโอกาสจะได้หยิบพระแท้เมื่อเจอ อย่างแน่นอน

แต่สำหรับคนที่ไม่เรียน ก็จะหลงหยิบพระเก๊งานฝีมือมาเป็นหอบๆ และแม้จะฟลุคหยิบพระแท้มาบ้าง ก็ไม่มีทางที่จะได้ครอบครอง เพราะ จะโดนคนที่รู้มากกว่าแย่งเอาไป หรือ หลอกเอาไป

เพราะ วงการนี้ ไม่ปรานีคนรู้น้อยครับ

อยากรู้ ต้องมาเรียน และปฏิบัติเดินตลาดจริงๆ จะนั่งฝันเอา ไม่มีทางครับ

ไม่เชื่อก็แล้วไป ช่วยไม่ได้จริงๆครับ

หมายเลขบันทึก: 600041เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2016 09:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มกราคม 2016 09:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ภาพด้านหน้าพระสมเด็จองค์นี้ แม่พิมพ์คุ้นตา เป็นพิมพ์ทรงเจดีย์ นิยม...นึกถึงทรงเจดีย์วัดระฆัง องค์ที่สวยที่สุด...องค์เจ๊แจ๋ว เส้นอังสา สังฆาฏิ เส้นชายจีวรคมกริบในช่องรักแร้ และเส้นแบ่งท่อนพระบาท...ลึกชัดเอาไว้

ทรงเจดีย์องค์นี้ คราบผิวฝ้า...ชี้ว่า บางขุนพรหมกรุเก่า มองเผินๆ เส้นสายลายพิมพ์ ไม่มีอะไรสวยเลยแผ่นพระอุระ ส่วนพระบาทก็ยุบ... พร่อง เส้นซุ้มด้านบนก็ขาด...

ส่วนสะดุดตาจนต้องนิมนต์มาเป็นองค์ศึกษา...อยู่ที่ส่วนหน้า หูสองข้างคมชัด...พระเกศชัดเห็นเค้าบัวตูม สองส่วนนี้ทรงเจดีย์หลายองค์มี...แต่ส่วนที่ยังไม่มี...ก็คือ เครื่องหน้า ตั้งแต่คิ้ว ตา จมูก ปาก นูนชัด...

เอาล่ะซี พระสมเด็จมีหน้ามีตา...มีหรือ...ถ้าพระแท้ยังไม่มี แล้วเก๊ฝีมือใคร?

นี่คือ...เรื่องที่อยากตั้งวงคุยกันวันนี้...คือ เรื่องแม่พิมพ์

พระสมเด็จทั้งวัดระฆัง ทั้งบางขุนพรหม... 9 แม่พิมพ์ อย่างพิมพ์ใหญ่ เซียนสอนให้ดูด้าน ข้างกรอบหน้าองค์ที่หูติดสองข้างเต็ม พอมีให้เห็น แต่หลายองค์ ติดแต่เส้นนูนรางๆ พอเป็นเค้าหูเดิม

เมื่อเอาไปรวมกับองค์ที่หูติดชัด เป็นที่มา ของพิมพ์ฐานแซม...พิมพ์นี้นอกจากหูติดเต็มสองข้าง ฐานแซมยังติดค่อนข้างชัด...สองชั้นเหมือนพิมพ์เกศบัวตูม ย้อนไปนึกถึงเกศบัวตูม วัดระฆัง...องค์คุณมนตรี เส้นอังสา สังฆาฏิ คมชัด...

รวมเส้นสายที่ติดชัด จากพิมพ์นั้น พิมพ์นี้ เข้าด้วยกัน ทำให้ชวนคิดว่า แม่พิมพ์สภาพเดิมๆ ของพระสมเด็จทุกพิมพ์...หลวงวิจารณ์เจียระไน ช่างหลวง...สมัยร.5 ท่านตั้งใจแกะไว้สุดฝีมือ สวย-ชัด-คม...พูดภาษาชาวบ้าน มีหน้ามีตาทุกองค์

แล้วเหตุใด...พระสมเด็จร้อยละ 99 จึงไม่มีหน้ามีตา

คำตอบเหมือนกันในใจ...ตอนพิมพ์พระเนื้อยังเปียก...ติดชัด แต่ตอนแห้ง...ยุบหาย...ยุบน้อย ก็พอเห็นเค้าเส้นสาย ยุบมากก็หายไปเลย

ผมมีประสบการณ์เรื่องนี้เฉพาะตัว...ราวๆปี 2519 ถือทรงเจดีย์วัดระฆัง...หักกลางอก...สภาพช้ำองค์หนึ่ง...เอาไปซ่อมที่วัดราชนัดดา พระเนื้อช้ำ ช่างซ่อมแล้วขัดตา ต้องเกลาทิ้ง หาวิธีซ่อมใหม่

คุณพรชัย พึ่งพระพุทธ ช่างสีหมู่บ้าน แนะให้เปลี่ยนวัสดุซ่อม จากผงทำฟันกับน้ำยา...ที่ซื้อจากร้านเครื่องมือทันตแพทย์...มาเป็นผงผสมกับน้ำมันตังอิ้ว

น้ำมันตังอิ้ว...เหนียวมาก ยืดหยุ่นมาก...ปาด ลาก เกลี่ย กับเนื้อพระจริง ได้เนียน...สนิทตา สีก็กลมกลืน จนน่าปลื้มใจ

ตังอิ้ว แห้งช้า...ช้ามากๆ เวลาผ่านไปครึ่งถึงหนึ่งปี...เนื้อส่วนที่อุดซ่อม...ก็ยุบตัว...มองเห็นเป็นสัน...ชัดเจน...

การยุบตัว เส้นสายลายพิมพ์ชัดๆ รวมทั้ง หู หน้าตาพระสมเด็จทุกองค์ หายไปเพราะความจริงข้อนี้เอง

ความจริง ภาพพระสมเด็จ องค์มีหูมีตา... มีให้เห็นแล้วก็หลายองค์

องค์แรก เกศบัวตูมวัดระฆัง...พิมพ์ฐานสิงห์แคบ (พิมพ์เดียวกับองค์คุณมนตรี) หู ตา จมูก ปาก โปนชัด ...องค์นี้เห็นกันมานาน พิมพ์ซ้ำในหนังสือหลายเล่ม... แต่ขนบในวงการพระ ไม่มีใครเชียร์พระสวยให้ใคร...คนวงนอก จึงไม่ค่อยได้รู้

องค์ต่อๆมา พิมพ์สังฆาฏิองค์หนึ่ง อีกองค์ “คนชอบพระสวย” เขียนไว้ในนิตยสาร อนุรักษ์...พิมพ์เกศบัวตูม (ฐานสิงห์กว้าง) หน้าตาคมชัด...ถึงขนาดเรียก “องค์ยักคิ้วหลิ่วตา”

องค์นี้นายตำรวจ ที่รับหน้าที่อารักขาตอนเปิดกรุสมเด็จวัดใหม่อมตรส ปี 2500 เล็งไว้ตอนแยก-คัดพระ...เมื่ออยู่ในคิวได้ “พระของขวัญ” ก็ขอเลือกเอาไว้ พระสมเด็จที่มีหน้าตาคมชัดลึกที่สุดในปฐพีไทย...เห็นจะต้องยกให้องค์นี้

เรื่องพระสมเด็จ...มีประเด็นให้เรียนรู้ศึกษา...อีกมาก...เริ่มจากแม่พิมพ์ มวลสารเนื้อหา ธรรมชาติ ขนาดไปถึง...น้ำหนัก ฯลฯ อยากดูพระสมเด็จให้เป็น...ก็ต้องค่อยๆสั่งสมความรู้...เหมือนรอน้ำทีละหยดเอาไว้ ไม่ช้า... น้ำ (ความรู้) ก็จะเต็มตุ่ม พอเอาตัวรอดจากพระปลอมได้

พระสมเด็จปลอมวันนี้ ฝีมือเฉียบขาดปาดคอเซียน มือสมัครเล่นเผลอทะนง หลงตัวข้าแน่...เมื่อไหร่...เป็นเสร็จมันเมื่อนั้น.

พลายชุมพล

จาก...นสพ.ไทยรัฐ วันที่ ๑ ก.พ.๒๕๕๙ เพื่อประกอบบทความนี้ว่า วิธีการทำพระสมเด็จฯครับ..


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท