หน้าแรก
สมาชิก
ultra_ya
สมุด
history 49243934
งานชิ้นที่ 3
ultra_ya
First ปริญญา เฟริสท์ อินทร์สุข
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
งานชิ้นที่ 3
ฟังค์ชันของexcel
การคำนวนหาฟังค์ชันของ
excel
การคำนวณทางคณิตศาสตร์อย่างง่าย
การคำนวณ ใน
Excel
ทำได้ โดยการป้อนตัวเลขเข้าไปในช่อง
cell
แต่ละช่อง จากนั้น จึงกำหนดให้นำตัวเลขในแต่ละช่อง มา บวก ลบ คูณ หาร กัน ลองดูตัวอย่าง และทำตามต่อไปนี้
การบวกเลข
1.
คลิกที่ ช่อง
A1
2.
พิมพ์เลข
20
3.
แล้วกด
Enter
เคอร์เซอร์ จะเลื่อนมาที่ ช่อง
cell A2 (
ถ้าไม่เลื่อนลงมาตรง ๆ
แสดงว่ามีการไปตั้งค่า ทิศทางการกด
Enter
ให้ท่านตั้งค่าใหม่ได้
4.
คลิกที่ช่อง
A2
และพิมพ์เลข
30
แล้วกด
Enter
5.
เคอร์เซอร์ จะเลื่อนมาที่ช่อง
A3
ให้พิมพ์
=
A1+A2
6.
เครื่องหมายเท่ากับ ข้างหน้า เป็นการบอก
Excel
ว่า กำลังใช้สูตร
ไม่ใช่เป็นการพิมพ์ข้อความธรรมดา และจะสังเกตสีของ ข้อความ
A1
และ
A2
แตกต่างไปจากสีธรรมดา และเมื่อขณะพิมพ์
A1
จะมีกรอบเกิดขึ้นที่ช่อง
A1
ด้วย
และขณะพิมพ์
A2
ก็จะมีกรอบเกิดที่ช่อง
A2
แสดงขอบเขตที่ถูกเลือก
7.
เมื่อพิมพ์เสร็จแล้ว ให้กดปุ่ม
Enter
กรอบจะเลื่อนไปยังตำแหน่ง
A4
และจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ
50
ในช่อง
A3
การลบ
1.
คลิกที่ ช่อง
C1
2.
พิมพ์เลข
30
3.
แล้วกด
Enter
เคอร์เซอร์ จะเลื่อนมาที่ ช่อง
cell C2
4.
คลิกที่ช่อง
C2
และพิมพ์เลข
20
แล้วกด
Enter
5.
เคอร์เซอร์ จะเลื่อนมาที่ช่อง
C3
ให้พิมพ์
=
C1-C2
6.
เมื่อพิมพ์เสร็จแล้ว ให้กดปุ่ม
Enter
กรอบจะเลื่อนไปยังตำแหน่ง
C4
และจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ
10
ในช่อง
C3
การคูณ
1.
คลิกที่ ช่อง
E1
2.
พิมพ์เลข
3
3.
แล้วกด
Enter
เคอร์เซอร์ จะเลื่อนมาที่ ช่อง
cell E2
4.
คลิกที่ช่อง
E2
และพิมพ์เลข
2
แล้วกด
Enter
5.
เคอร์เซอร์ จะเลื่อนมาที่ช่อง
E3
ให้พิมพ์
=
E1*E2
6.
เมื่อพิมพ์เสร็จแล้ว ให้กดปุ่ม
Enter
กรอบจะเลื่อนไปยังตำแหน่ง
E4
และจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ
6
ในช่อง
E3
การหาร
1.
คลิกที่ ช่อง
G1
2.
พิมพ์เลข
30
3.
แล้วกด
Enter
เคอร์เซอร์ จะเลื่อนมาที่ ช่อง
cell G2
4.
คลิกที่ช่อง
G2
และพิมพ์เลข
5
แล้วกด
Enter
5.
เคอร์เซอร์ จะเลื่อนมาที่ช่อง
G3
ให้พิมพ์
=
G1/G2
6.
เมื่อพิมพ์เสร็จแล้ว ให้กดปุ่ม
Enter
กรอบจะเลื่อนไปยังตำแหน่ง
G4
และจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ
6
ในช่อง
G3
การใช้
AutoSum
เครื่องหมาย
AutoSum
บน เมนูบาร์ ใช้สำหรับการบวกตามแนว คอร์ลัมน์
โดยอัตโนมัติ ซึ่งมี
2.
วิธีการใช้ ดังนี้
1..
ไปที่ ช่อง
H1
2..
พิมพ์
5
แล้วกด
Enter
3.
พิมพ์
5
แล้วกด
Enter
4.
พิมพ์
5
แล้วกด
Enter
5.
ขณะนี้ เคอร์เซอร์ จะมาอยู่ที่ช่อง
H4
6.
คลิกปุ่ม
บนเมนูบาร์ จะเห็นว่า ช่อง
H1
ถึง
H3
ถูกเลือก
7.
ให้กดปุ่ม
Enter
เพื่อตอบตกลง จะได้ผลออกมา
การหาค่าต่างๆของ
excel
คีย์ลัดในการป้อนวัน/เวลา
วันปัจจุบัน กดปุ่ม
CTRL+;
เวลาปัจจุบัน กดปุ่ม
CTRL+SHIFT+;
วัน/เวลาปัจจุบัน กดปุ่ม
CTRL+;
แล้วกดปุ่ม
SPACE
จากนั้นกดปุ่ม
CTRL+SHIFT+;
Average
ค่าเฉลี่ย
Count
นับจำนวน รวมเซลล์ข้อความ
Count Nums
นับจำนวนเฉพาะเซลล์ตัวเลข
Max
ค่าสูงสุด
Min
ค่าต่ำสุด
Sum
ผลรวม
การคำนวณค่า
โปรแกรม
Microsoft Excel
มีความสามารถเด่นในด้านการคำนวณ ซึ่งมีลักษณะการคำนวณ
2
รูปแบบใหญ่ๆ ได้แก่
การคำนวณด้วยสูตร
(Formula)
การคำนวณด้วยฟังก์ชันสำเร็จรูป
(Function)
การคำนวณด้วยสูตร
(Formula)
เลื่อน
Cell Pointer
ไปไว้ ณ เซลล์ที่ต้องการวางผลลัพธ์
สร้างสูตรการคำนวณแล้วกดปุ่ม
<Enter>
โดยสูตรจะมีรูปแบบดังนี้
ค่าที่
1
เครื่องหมาย ค่าที่
2 ...
ค่าที่ใช้ในการคำนวณ
ค่าคงที่ เช่น
500
ตำแหน่งเซลล์ เช่น
A5
จะหมายถึงนำค่าที่ถูกเก็บไว้ในเซลล์ ณ ตำแหน่งแถวที่
5
คอลัมน์
A
มาคำนวณ
เครื่องหมายการคำนวณ
ลำดับความสำคัญของเครื่องหมายการคำนวณ
การคำนวณด้วยคอมพิวเตอร์ จะมีรูปแบบที่แน่นอนเฉพาะตัว โดยอาศัยลำดับความสำคัญของเครื่องหมายการคำนวณ
ตัวอย่างสูตรการคำนวณ
=500*2%
หมายถึง เอา
2
หารด้วย
100
แล้วนำผลลัพธ์ไปคูณกับ
500=5+5*8
หมายถึง เอา
5
คูณ
8
แล้วนำผลลัพธ์ไปบวกกับ
5=(5+5)*8
หมายถึง เอา
5
บวกกับ
5
แล้วนำผลลัพธ์ไปคูณกับ
8=A2/100
หมายถึง เอาค่าในเซลล์
A2
หารด้วย
100=A2+A3+A4+A5
หมายถึง เอาค่าในเซลล์
A2
บวกด้วยค่าในเซลล์
A3
บวกด้วยค่าในเซลล์
A4
บวกด้วยค่าในเซลล์
A5
โดยปกติการคำนวณใน
Excel
จะใช้แบบที่
2
คือ
สูตรแบบใช้ค่าคงที่
จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ให้อัตโนมัติ เมื่อค่าใดค่าหนึ่งเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนผลลัพธ์จะต้องไปแก้ไขที่สูตรด้วยตนเอง
สูตรแบบใช้ตำแหน่งเซลล์
จะมีการเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ให้โดยอัตโนมัติ เมื่อค่าใดค่าหนึ่งเปลี่ยนแปลง
ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดีที่สุด
การคำนวณด้วยฟังก์ชัน
โปรแกรม
Microsoft Excel
มีความสามารถเด่นในด้านการคำนวณ ซึ่งมีลักษณะการคำนวณ
2
รูปแบบใหญ่ๆ ได้แก่
การคำนวณด้วยสูตร
(Formula)
การคำนวณด้วยฟังก์ชันสำเร็จรูป
(Function)
การใช้งาน
เลื่อน
Cell Pointer
ไปไว้ ณ เซลล์ล์ที่ต้องการวางผลลัพธ์
สร้างฟังก์ชันการคำนวณแล้วกดปุ่ม
<Enter>
โดยฟังก์ชันจะมีรูปแบบดังนี้
=
ชื่อฟังก์ชัน(ค่า)
ค่าที่ใช้ในการคำนวณ
ค่าที่นำมาใช้ในการคำนวณ อาจจะเป็นค่าคงที่ เช่น
500
หรืออาจจะเป็นตำแหน่งเซลล์ เช่น
A5
จะหมายถึงนำค่าที่ถูกเก็บไว้ในเซลล์ล์ ณ ตำแหน่งแถวที่
5
คอลัมน์
A
มาคำนวณนอกจากนี้ บางฟังก์ชัน ก็ไม่จำเป็นต้องมีค่ากำกับ เช่นฟังก์ชันวันที่ปัจจุบัน ใช้เป็น
=NOW()
ได้เลย เป็นต้น
สูตรในการเชื่อมข้อมูล
คือ
="
ค่าคงที่"
&
ตำแหน่งเซลล์
&
ตำแหน่งเซลล์
&"
ค่าคงที่"
&...
โดย
ค่าคงที่
คือ ค่าใดๆ ก็ได้ที่ต้องการให้แสดงโดยจะต้องกำหนดให้เครื่องหมายคำพูด เช่น ช่องว่าง ก็ให้กำหนดเป็น " " หรือคำว่า
คุณ
ก็ให้กำหนดเป็น
"
คุณ"
เครื่องหมาย
&
เป็นเครื่องหมายกระทำของ
Excel
เพื่อใช้ในการเชื่อมข้อมูล
การปรับแต่งข้อมูลวันที่เป็นวันที่แบบไทย
กระทำได้โดย
กำหนดช่วงข้อมูลที่ต้องการ
(
จากตัวอย่างคือ
I2:J6)
เลือกเมนูคำสั่ง
"Format, Cells..."
เลือกบัตรรายการ
Number
เลือก
Category
ชื่อ
Custom
กำหนดรูปแบบวันที่แบบไทย ในรายการ
Type
เป็น
d
ดดดด
bbbb
d
ดดดด
bbbb
เป็นรูปแบบวันที่แบบไทย โดย
d
แสดงตัวเลข
"
วัน" ของเดือน ด้วยเลขอารบิก แบบตัวเลขหลักเดียว
ดดดด
แสดงชื่อเดือนไทย แบบเต็ม
bbbb
แสดงผลปี พ.ศ. ด้วยเลขอารบิก
ฟังก์ชันสุ่มค่าตัวเลข
การสุ่มค่าตัวเลขด้วย
Excel
สามารถกระทำได้ง่าย และสะดวกด้วยฟังก์ชัน
Random
ซึ่งมีรูปแบบการใช้ฟังก์ชันคือการสุ่มค่าตัวเลขด้วย
Excel
สามารถกระทำได้ง่าย และสะดวกด้วยฟังก์ชัน
Random
โดยฟังก์ชันนี้จะแสดงผลลัพธ์เป็นค่าทศนิยม ระหว่าง
0 - 1
ดังนั้นถ้าต้องการแสดงผลด้วยค่าที่มากกว่า
1
สามารถนำ
10
หรือ
100
หรือ
1000
มาคูณ ดังนี้
อย่างไรก็ตามค่าที่ได้ ก็จะมีผลลัพธ์เป็นค่าเลขทศนิยมด้วย ดังนั้นถ้าต้องการค่าเลขจำนวนเต็ม สามารถใช้ฟังก์ชันปัดเศษทศนิยมมาใช้ร่วมกัน ดังนี้สำหรับการสุ่มตัวเลขระหว่างค่าใด ให้ใช้สูตร
=RAND()
*(b-a)+a
เช่น สุ่มระหว่างค่า
3 - 5
ให้ใช้สูตร
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ultra_ya
ใน
history 49243934
คำสำคัญ (Tags):
#ฟังค์ชันของexcel
หมายเลขบันทึก: 59785
เขียนเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2006 08:28 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:21 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ultra_ya
สมุด
history 49243934
งานชิ้นที่ 3
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท