ขณะนี้เราอายุครบ ๖๐ แล้ว ไว้หนวดเครารุงรัง (เท่าที่มีหรอมแหรม) มีสาวอย่างน้อย ๓ คนแล้วมาบอกเราว่า แก่แล้วยังหล่อมาก หน้าตายังกะหนุ่มใหญ่วัย ๔๕ เพราะว่าหน้าตึง คอเต่ง ไม่ยับไม่ย่น ...แถมบอกต่อว่าขอร้องให้โกนหนวดเครา จะหล่อที่สุดเลย....เราเลยบอกไปว่าที่ไว้หนวดเครานี้มันเป็นอธิษฐานจิตเชิงไสยศาสตร์ที่เราสาบานไว้ว่าจะไม่โกนจนกว่าจะมีการปฏิรูปประะเทศไทยถึงระดับที่ยอมรับได้ ....ครั้งแรกไว้หนวดเครา ๕ เดือนได้ผล คือ ระบบทักษิณถูกโค่น...เราเลยโกนหนวดเคราหมด...ครั้งสองนี้ไว้มาสัก ๘ เดือนแล้ว ได้ผลบางส่วนแต่ยังไม่ถึงระดับที่พอใจ จึงขอไว้ไว้ก่อน ..เผื่อว่าอาจจะศักดิ์สิทธิ์
ครั้งที่แล้วอาจารย์ไว้หนวดแล้วล้มระบบทักษิณได้ ครั้งนี้อาจารย์ไว้หนวดจะล้มระบบเผด็จการทหารเหรอครับ เดี๋ยวมีคนเชิญไปปรับทัศนคตินะครับ เอ๊ะ... แต่คนเชิญเพื่อนร่วมรุ่นอาจารย์ทั้งนั้นเลยนี่ครับ ;-)
อาจารย์เขียนบันทึกแล้วตั้งชื่อบันทึกหยิกแกมหยอกสนุกดีครับ แต่วัฒนธรรมไทยเราเป็นวัฒนธรรมสุภาพที่ยังอ่อนไหวต่อคำหนักๆ ถ้าอาจารย์ใช้คำหนักๆ ในชื่อบันทึกผู้อ่านอาจจะจะมองข้ามเจตนาดีของอาจารย์แล้วมองว่าอาจารย์กำลังต่อว่าเขาก็ได้นะครับ ผมว่าคำกลางๆ น่าจะกำลังดีครับ
ชอบใจความคิดของอาจารย์นะครับ
สุดโต่ง..นั่นอาจเป็นเพราะว่า..อาจารย์มีโลกทัศน์และมุมมองของชีวิต..มากมาย
..
แต่ก็ยังชอบใจ...ทางกลางของอาจารย์ธวัชชัยเช่นกันนะครับ... สุขภาพและอ่อนโยนดี
..ทำให้อดคิดถึงคำนี้ไม่ได้ครับ ในความแกร่งมีความอ่อนละมุน ซ่อนอยู่
และในความนุ่มและอ่อนละมุนนั้น....มันเหนียวแน่น...
..
ด้วยความเคารพครับ
ทางสายกลางรู้อยู่..แตตั้งใจจะสุดโต่ง....พพจ..ไม่เคยเดินทางสายกลางเลยนะ แต่กลับมาสอนให้คนอื่นเดินทางสายกลาง...แต่คนก็ไม่เข้าใจเสียอีกว่า "ทางสายกลาง" ที่แท้คืออะไร