บ่อยครั้งที่ครูวิทยาศาสตร์ที่มีหลักสูตร และองค์ประกอบอื่น ๆ ส่วนมากที่เป็นอุกรณ์ที่จะสื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจถึงหลักการที่จะสอน หรือเรียนกได้ว่ามีแผนการสอนวิทยาศาสตร์ ครูดังกล่าวกับเริ่มต้นที่จะสอนหรือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้นั้น จะจับต้นชนปลายไม่ถูก เมื่อผู้เรียนมีเรื่องอื่นที่น่าสนใจกว่า เช่น ดาราคนนั้นเป็นข่าวอย่างไร ปรากฎการณ์ หรือเหตุการณ์นั้นมันกำลังเกิด สิ่งที่ครูวิทยาศาสตร์เตรียมมาเพื่อเร้าความสนใจ กับกลายเป็นที่ที่ไม่น่าสนไจไปเลย ครูวิทยาศาสตร์จะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
เราคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า "นักการขายที่ดี สามารถนำมะพร้าวห้าวไปขายสวนได้" ครูวิทยาศาสตร์จะเริ่มร้อง อ๋อ งง.... ความรู้ขายได้ นักเรียนซื้อด้วยความสนใจ ครูจะต้องลุงทุนหน่อยละ คือ การโฆษณา เช่น ประกาศแบบแผ่นป้ายติด ที่น่าสนใจ แบบชวนสงสัย (ขั้นเร้าความสนใจ) ไม่จำเป็นต้องเกิดที่หน้าชั้น หรือในห้องเรียนเท่านั้น ที่ไหน ๆ ก็เราผูเรียนได้ เพื่อที่ครูจะให้ผู้เรียนไปตรวจสอบ หรือค้นคำตอบในห้องเรียนได้
แล้วสื่อประเภทใดที่นักเรียนสนใจ ....... ครูวิทยาศาสตร์ต้องคบกันครึ่งทางกับผู้เรียน เมื่อรักเรียนชอบดารา ก็ขออนุญาตรูปดาราที่ชื่นชอบเพื่อเป็นวิทยาทานความรู้แก่ผู้เรียนบ้าง(ขอในใจก็ได้.......) ถือว่าเป็นกุศโลบายก็แล้วกัน เช่น ป้ายรูปดาราเชิญชวนทดสอบ มหัศจรรย์ ว่า "ใครอย่างเก่งวิทยาศาสตร์แบบพี่ฟิล์ม เชิญ............." ทำได้ แต่อย่าบ่อย ผู้เรียนจับทางได้ละก็ เซ็งแน่เลย พยายามหาหลากหลายวิธี เพื่อเราให้เกิดความท้าทาย เพราะธรรมชาติวิทยาศาสตร(Nature of Science) จะสอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้ของมนุษย์อยู่แล้ว
ความอยากรู้อยากเห็นของผู้เรียนที่มาจากธรรมชาติของผู้เรียนของนักเรียนไทยเริ่มที่จะลดน้อยลงตามอายุที่เพ่มขึ้น แต่กลับเพิ่มความอยาก ความทะเยอยทยานในเรื่องที่สื่อรูปแบบต่าง ๆ ที่ขาดจิตสำนึกที่ดีต่อเยาวชนนั้นได้ลวงล่อไป
ครูวิทยาศาสตร์จะเริ่มต้นควรตระหนักถึงสื่อที่เหมาะสมกับเพศ วัยวุฒิด้วย ถือว่าเป็นการเร่มตนที่ดี มีชัยกว่าครึ่ง ขอให้มีความสุขกับการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ นะครับ....................
ไม่มีความเห็น