707. บุคลิกภาพสร้างอนาคต...Character Strengths and Virtues


เรียนรู้ศาสตร์ OD ผ่าน "สามก๊ก" ตอนที่ 37

ต้องออกตัวอีกครั้ง ผมมิใช่ผู้รู้สามก๊กระดับแฟนพันธ์ุแท้ ผมเพียงศึกษาสามก๊ก โดยพยายามมองหาแรงบันดาลใจ พยายามทำความเข้าใจผ่านมุมมองของคนทำอาชีพนักพัฒนาองค์กร (Organisation Development Consultant) ผมค้นพบว่าเรื่องราวของสามก๊ก เป็นดั่งกระจกบานใหญ่ทำให้เห็นในสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงมาหลายครา วันนี้ก็เป็นอะไรที่ผมได้นั่งคิดตกผลึก ผมก็เห็นอะไรบางอย่าง ผมเห็นอะไรครับ ถ้าสรุปเรื่องราวของสามก๊กเหลือสั้นๆสองสามบรรทัด เราจะเห็นอะไร

บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะคนชั่วก้าวขึ้นมามีอำนาจ คนดีหลายคนจึงพากันต่อต้าน เกิดก๊กหลายก๊ก แต่ละก๊กมีผู้นำที่คิดการณ์ใหญ่ พยายามหาคนมาช่วย พยายามใช้จุดแข็งของคนเก่ง มาคิดการณ์ใหญ่ วางยุทธศาสตร์ วางกลยุทธ์ ลุยสร้างอาณาจักร รบไปด้วย บริหารบ้านเมืองไปด้วย รบไปรบมาเหลือผู้ชนะคนเดียว

ถ้ามองหากลไกที่อยู่เบื้องหลังสามก๊กสามบรรทัดนี้ จะเห็นอะไรครับ เราจะเห็นการหาคนเก่ง เข้าใจคนเก่ง ใช้คนเก่ง บริหารหัวใจคนเก่ง ถ้าทำได้ดีก็ประสบความสำเร็จ

ถ้าสรุปเหลือเป็นสมการเดียวจะได้อะไร คน = ความสำเร็จ

สำหรับศาสตร์ใดในเชิงบริหารยุคใหม่นั้น รวมถึงการพัฒนาองค์กร (พัฒนาคนที่อยู่ร่วมกันให้ทำงานได้ผล และมีความสุข) คนเป็นหัวใจสำคัญมากๆ เช่นกัน ถึงขั้นเรียกว่า Human Capital เป็นทุนมนุษย์ทีเดียว ทุนมนุษย์หมายถึงคนในองค์กรที่มีทัศนคติที่ดี และทักษะสูงรวมกัน

ถ้าเราสามารถทำให้คนมีทัศนคติที่ดี และมีฝีมือเยี่ยมยอด องค์กรก้าวไกลแน่ครับ

ทำอย่างไรล่ะ ในทางการพัฒนาองค์กร เราต้องประเมินก่อนครับ เครื่องมือที่ผมชอบมากเครืองมือหนึ่งเราเรียกว่า Character Strenghts and Virtues

คุณสามารถเข้าไปศึกษาแล้วทำฟรีได้ที่นี่ https://www.viacharacter.org/www/The-Survey

Character Strengths เป็นการศึกษาบุคลิกภาพคน โดยกูรูผู้ก่อตั้งศาสตร์จิตวิทยาบวก ท่านศึกษาและแบ่งบุคลิกภาพคนเป็น 24 แบบ ดังนี้

https://www.viacharacter.org/www/Character-Strengths/VIA-Classification

เรามาวิเคราะห์จ๊กก๊กกัน (ผมชอบจ๊กก๊กที่สุด เพราะดูหดหู่ จนสุด ไร้อำนาจสุด เสียเปรียบสุดกว่าใคร)

ผมลองถอดบุคลิกเล่าปี่ น้องรอง น้องสาม จูล่งและขงเบ้ง ที่ผมเชื่อว่าถ้าทั้งสามเข้าไปทำแบบประเมินในเว็บของ VIA ข้างบน ผมว่าจุดแข็งเชิงบุคลิกภาพเด่นๆ ทั้งห้าคนจะได้ดังภาพนี้

เห็นชัดมากๆ ว่าคนอย่างเล่าปี่มีจุดแข็งสำคัญคือ การมีความหวังที่ดีในชีวิต (Hope) เป็นบุคลิกภาพของคนที่มองอนาคต มีความหวังว่าเรื่องดีๆจะเกิดขึ้นในอนาคต แน่หล่ะ ผมว่า Hope ของเล่าปี่นี่แหละที่ เป็นตัวดึงดูดวีระบุรุษทั้งหลายเข้ามาร่วมงานด้วย คุณจะเห็นว่ากวนอู จูล่ง เตียวหุย มีจุดแข็งเชิงบุคลิกภาพคล้ายๆกันนั่นคือ ความกล้าหาญไม่กลัวความลำบาก หรือความกดดันใดๆ (Bravery) มีความอดทน อึด ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ (Preseverance) และ มีความซื่อสัตย์ ภักดี (Honesty)

เมื่อดึงมาได้แล้วเล่าปี่ก็รู้จักใช้ความเป็นผู้นำ (Leadership) ไปดึงจุดแข็งของคนในทีมไปใช้อย่างเข้มข้น เพื่อเติมเต็มความหวังของตนเอง และความหวังของราชวงค์ โดยรู้จักควบคุมตนเอง (Self-regulation) เข้าใจจุดแข็งจุดอ่อนของตนเองและทีมอย่างลึกซึ้ง

เล่าปี่และน้องๆ กล้าหาญมากๆ ลุยโลกไปด้วยกัน (จูล่งมาทีหลัง)

แต่เมื่อมาเจอสุมาเต็กโช ปราชญ์ท่านนี้แนะนำว่าลำพังคนที่มีอยู่ของเล่าปี่ไม่มีปัญญาพอที่จะเอาชนะศัตรูที่มีทรัพยากรล้นฟ้าสมัยนั้นได้ ต้องหาผู้มีปัญญา (Perspective) ที่จะช่วยวางยุทธศาสตร์ให้ ที่สุดก็ได้ชีซีมา (ตอนหลังต้องย้ายไปอยู่กับโจโฉ) และตามมาด้วยขงเบ้งในที่สุด

เมื่อได้ขงเบ้งมา เล่าปี่สบายครับ เพราะปัญญาขงเบ้งสูงมากๆ (Perspective) ขงเบ้งให้มุมมองเชิงยุทธศาสตร์ การมองทั้งภาพใหญ่ ภาพกลยุทธ์ แถมข้งเบ้งก็ใช้คนเก่งมีความเป็น Leadership อีก และก็มีความคิดสร้างสรรค์มากๆ เรียกว่าสามารถใช้ทรัพยากรที่จำกัดสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ได้

จากที่ผมมองกองทัพเล่าปี่ผมเห็นเลยว่าคนเราจะคิดการณ์ใหญ่แล้วทำสำเร็จนั้นต้องทำดังนี้ครับ

  1. มีความหวังที่ยิ่งใหญ่จะดึงดูดผู้กล้ามาช่วย
  2. ต้องรู้จักดึงจุดแข็งของคนรอบตัว มาใช้อย่างเข้มข้น
  3. การมีปัญญา สำคัญมากๆ เพราะความกล้าหาญ ความอึด ความซื่อสัตย์ที่ขาดปัญญา ก็อาจไปไม่ถึงไหน
  4. ยิ่งภาพฝันใหญ่มาก ก็ต้องการใช้จุดแข็งของคนจำนวนมากอย่างเข้มข้นตามไปด้วย
  5. ความอดทนอดกลั้นการควบคุมตนเองสำคัญมากๆ เพราะการคิดการณ์ใหญ่หมายถึงการมีขู่แข่งไม่ใช่เราจะรบชนะทุกครั้ง การถอย การตั้งรับก็สำคัญเช่นกัน
  6. เริ่มจากศูนย์ได้เลย ทรัพยากร อำนาจจะตามมาเอง

ดูไปผู้นำอีกสองคนโจโฉ ซุนกวน ก็ประมาณนี้ จึงตั้งตนเป็นใหญ่ได้ครับ

สุดท้าย คน = ความสำเร็จ

รู้จักใช้จุดแข็งของคน สร้างความสำเร็จได้แน่นอน Cheers!!!!

ยิ่งคิดยิ่งมหัศจรรย์ครับ ทำให้เห็นเลยว่าทำไมคนจึงเชียร์เล่าปี่มาเป็นพันปี

วันนี้พอเท่านี้ เพียงเล่าให้ฟัง ลองเอาไปพิจารณาดูนะครับ

หมายเลขบันทึก: 597105เขียนเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2015 14:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2015 14:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ชอบบทความอันนี้ของอาจารย์มากเลยครับ ผมเอาไปเผยแพร่ในบริษัท ทำให้ได้ได้ผลดี ผู้บริหารในบริษัทหลายคนที่ สติหลุด ได้กลับลงมาคิดทบทวนใหม่ ขอบคุณอาจารย์มากๆครับ ถึงจะเรียน mba จบแล้วผมก็ยังติดตามงานอาจารย์อยู่นะครับ :

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท