ก่อนหน้านี้ ไม่มีฝน หล่นหลั่งหยด
ชาวนางด ทำนา เรียกหาฝน
เรียกร้องรัฐ ขจัดภัย ให้ปวงชน
ให้ผ่านพ้น ผจญภัย ในท้องนา
บ้างขัดรัฐ ประกาศข่าว ข้าวให้งด
ต้องเสี่ยงกฎ เสี่ยงภัย ในปัญหา
ปลูกข้าวไว้ ไร้น้ำ มาทำนา
หยดน้ำตา จะมาแทน น่าแค้นเคือง
พอปลายเดือน กันยา มีท่าน้ำ
ท้องนาฉ่ำ ได้ดำนา ปลาเต็มเหมือง
กบเขียดปู งูหอย พลอยรุ่งเรือง
หญ้าประเทือง เรืองรอง เต็มท้องนา
เมื่อน้ำท่วม รวมทุ่ง ข้าวพุ่งพรวด
หญ้าก็อวด ต้นตอ ออกช่อหลา
ไม้ยืนต้น ที่ฝนหลั่ง ชั่งงามตา
ออกใบหนา หน้าฝน น่ายลยิน
บนท้องฟ้า เมฆาหม่น ลอยชนชุก
แดดจึงถูก บดบัง สร้างกสินธุ์
หมู่แมลง แมงปอ ล้อกันบิน
นกท้องถิ่น บินวน ตามโนนนา
ลมอ่อนๆ ซ่อนหนาว ปลายข้าวไหว
น้ำเคลื่อนไหล ไปตามคลอง เป็นร่องสา
ตะไคร้น้ำ ยามไหว แกว่งไปมา
เห็นปูปลา ตาหอย ลอยหากิน
เดินลงทุ่ง คลุ้งคลอง หนองน้ำสระ
เห็นฝูงปลา ร่าเริง บันเทิงสินธุ์
เหยียบหญ้าหนา ตาหาเหยื่อ มะเขือกิน
กบได้ยิน ลาดินซ่อน จรลงหนอง
ได้ยินเสียง สกุณา ปลายนานั่น
แมลงลั่น ส่งเสียง เรียงแซ่ซ้อง
กระดิ่งดัง ระฆังควาย ช่วยประคอง
ให้ทำนอง ท้องทุ่ง ปรุงสวรรค์
เจ้าหนูน้อย คอยพ่อ รอกาลกลับ
วิ่งไล่จับ แมลปอ พอสนาน
ช่วยหาปู หาปลา ยาชีวัน
เป็นอาหาร บ้านทุ่ง หุงต้มแกง
ยามหน้าฝน ล้นนา ยิ่งน่าอยู่
นาคืออู่ ของหมู่ชน ทุกหนแห่ง
กาลอุดม สมบูรณ์ คุณแมลง
เป็นแหล่งแปลง แห่งผืนดิน เป็นอินทร
----------๔/๑๐/๕๘----------
Water is life! And death!