ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่หฤโหดไม่แพ้ปีที่แล้วเกี่ยวกับเรื่องน้ำเรื่องท่า เพราะภาครัฐก็ค่อนข้างเข้มงวดตรวจตราไม่ให้น้ำนั้นถูกนำไปใช้ในระหว่างที่มีมาตรการประหยัดน้ำท่ามกลางภาวะความแห้งแล้งที่หนักสุดในรอบ 5 ปี ปีนี้ดูแล้วหนักกว่าปีที่แล้วอีกนะครับ น้ำในเขื่อนหลักๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเขื่อน ภูมิพลเขื่อนสิริกิตต์เขื่อนศรีนครินทร์เขื่อนวชิราลงกรณ์เขื่อนอุบลรัตน์เขื่อนสิรินธรณ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนขุนด่านปราการชล ฯลฯ ต่างก็มีน้ำสำรองไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรส่วนหนึ่งต้องหันไปพึ่งพิงพืชชนิดอื่นๆ แทนการปลูกข้าวทำนา
หนึ่งในพืชอื่นๆ ก็มีแตงกวา โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางนั้นก็จะปลูกกันอยู่มากนะครับ ปลูกแล้วก็อดจะมีปัญหามาถามไถ่ให้เจ้าหน้าที่ชมรมฯ ได้เข้าไปช่วยดูแลแก้ไข โดยเฉพาะในเรื่องของการติดดอกออกผลแล้วมีปัญหาดอกและผลหลุดร่วงหล่นลงมาง่าย ไม่ยอมติด ทำให้ต้องเสียโอกาสในการที่จะนำผลผลิตออกไปขายหรือจำหน่ายให้พ่อค้าในท้องที่
สาเหตุส่วนหนึ่งของแตงกวาที่มักจะมีดอกที่หลุดร่วงง่ายผิดปรกตินั้น ก็อาจจะมีสาเหตุมาจากดินที่ผ่านการใช้งานมานานหลายสิบปี และมีแต่การใช้ปุ๋ยธาตุหลักเพียงอย่างเดียว จึงทำให้การสะสมแร่ธาตุสารอาหารในกลุ่มธาตุรองธาตุเสริมนั้นไม่เพียงพออีกอย่างหนึ่งก็ในเรื่องของน้ำถ้าน้ำไม่เพียงพอก็มีปัญหาเรื่องดอกและผลอ่อนหลุดร่วงง่ายเช่นเดียวกัน
วิธีการดูแลแก้ไขในเบื้องต้น ควรนำหินแร่ภูเขาไฟ พูมิชซัลเฟอร์ (Pumish Sulpher) ไปหว่านโรยรอบทรงพุ่มหรือโคนต้นเพิ่มเติมเสริมธาตุรองธาตุเสริมให้แก่แตงกวาให้เพียงพอ ให้รากของเขาสามารถที่จะดูดกินได้อย่างสม่ำเสมอเมื่อต้องการ และควรกระตุ้นด้วยการใช้ ซิลิโคเทรซ (ธาตุอาหารเสริมทางใบ) ในอัตรา 5 กรัมร่วมกับ ไคโตซานMT 5 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตรฉีดพ่นทุกๆ 7 วัน ก็จะสามารถช่วยลดการหลุดร่วงของดอกและผลอ่อนของแตงกวาไม่เสียหายจนมากเกินไปได้ ในส่วนของเรื่องน้ำที่ต้องคอยดูแลอย่าให้ขาดด้วยเช่นกัน ก็ควรใช้สารอุ้มน้ำ “โพลิเมอร์” ในอัตรา 1 กิโลกรัม แล้วนำไปแช่น้ำสะอาด อีก 200 ลิตร ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง หรือหนึ่งคืน รุ่งเช้าก็นำมากลบฝังข้างหลุมปลูก ก็จะช่วยแก้ไขแตงกวาขาดนขาดน้ำได้ และวิธีเดียวกันนี้ก็ยังสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้กับพืชอื่นๆได้เช่นเดียวกันนะครับ
มนตรีบุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษwww.thaigreenagro.com
ไม่มีความเห็น