​ ดอกและผลหลุดร่วงง่าย ใช้หินแร่ภูเขาไฟช่วยได้นะครับ



คุณๆ ท่านๆ เคยเพาะปลูกอะไรแล้วกว่าจะทำให้ติดดอกออกผลแล้วมันดูจะยากเย็นแสนเข็นกันบ้างไหมครับ ถ้าเคยก็อย่าพลาดอ่านต่อให้จบนะครับ เพราะว่าเรื่องราวที่จะเล่าให้ท่านได้ฟังนั้น น่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวท่านมิใช่น้อยเลยล่ะครับ แต่ถ้าจะไปถามบรรดาเซียนเกษตรทั้งหลายที่มีประสบการณ์ยาวนานก็มักจะไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการทำให้ออกดอกสักเท่าไร แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะมีปัญหาในเรื่องของการที่ทำให้ดอกออกมาแล้ว หรือทำให้เกิดผลเล็กๆ แล้ว แต่ไม่สามารถที่จะดูแลรักษาให้ ดอกและผลอ่อนเหล่านั้นอยู่รอดปลอดภัยไปจนถึงระยะเวลาเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมได้

นี่แหละครับวันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีเกี่ยวกับเรื่องที่จะทำให้เกิดการติดดอกออกผลและทำให้ขั้วดอกและผลเหนียวไม่หลุดร่วงง่าย โดยเฉพาะในระยะสองสามเดือนที่ผานมานี้ ได้ไปเยี่ยมเยียนพี่น้องเกษตรกรที่เพาะปลูกทุเรียน ลองกอง รวมถึงไม้ผลอื่นๆ ก็มักจะบ่นถึงปัญหาผลหมากรากไม้ทั้งหลายมีดอกและผลอ่อนหล่นร่วงอยู่ใต้โคนต้นเป็นจำนวนมาก พยายามดูแลแก้ไข รดน้ำเท่าใดก็ไม่เป็นผล

อันนี้ถ้าจะพูดกันจริงๆ ก็มีมากมายหลายสาเหตุนะครับ โดยเฉพาะในช่วงนี้เกษตรกรบางคนก็มีปัญหาจากภัยแล้ง รากไม่สามารถที่จะดูดกินสะสมกักเก็บอาหารในดินได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะปัญหาเรื่องความชื้นในดินที่มีน้อยจนไม่สามารถทำการะลายแร่ธาตุสารอาหารต่างๆ ในดินได้อย่างกับช่วงภาวะปรกติ เพราะฉะนั้นผู้ที่ปลูกพืชแล้วมีปัญหาภัยแล้งในลักษณะก็อาจแก้ปัญหาด้วยการให้ความชุ่มชื้น กับดินให้มากขึ้น และก็ควรฉีดพ่นแร่ธาตุสารอาหารในกลุ่มที่เน้น สังกะสี โบรอน วิตามินอี และซิลิก้า (ไวตาไลเซอร์ Vitalizer) ให้มากๆ สักหน่อยนะครับ

อย่างไรก็ตามเราก็จะเห็นว่า การที่พืชนั้นมีปัญหาในเรื่องดอกและผลร่วงนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเกิดจากขาดแร่ธาตุและสารอาหารที่จำเป็นในขณะนั้นในการนำมาบำรุงเลี้ยงดอกผลที่ออกมาอย่างพร่างพรูเปรียบเหมือนมีลูกมากแล้วยากจนนั่นแหละครับ ถ้ามีดอกและผลมา แล้วไม่มีอาหารเข้ามาเติมเต็มอย่างเพียงพอ พืชหรือต้นไม้ก็จำต้องสลัดดอกออกผลทิ้งออกไปบ้าง เป็นการสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตต้นแม่เอาไว้

อีกเทคนิคหนึ่งที่ไม่ต้องมาคอยเฝ้าสังเกต เฝ้าฉีดพ่นให้น้ำให้ปุ๋ยก็คือการเติมเต็มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินตั้งแต่เริ่มแรกที่ปลูกหรือแรกเริ่มที่หลังเก็บเกี่ยวแล้วทำการตัดแต่งกิ่งด้วยการเสริมเติมกลุ่มของหินแร่ภูเขาไฟ (พูมิชซัลเฟอร์ Pumish Sulpher) ไปพร้อมกับการให้ปุ๋ยทางดิน ก็จะทำให้ดินนั้นมีความอุดมสมบูรณ์คล้ายกับป่าเปิดใหม่ เพราะใน พูมิชซัลเฟอร์ นั้นพรั่งพร้อมไปด้วย แร่ธาตุสารอาหารที่ได้มาจากการกำเนิดเกิดภูเขาไฟ อุณหภูมิความร้อนใต้พื้นภิภพที่ลึกลงไป 50 – 60 กิโลเมตรจากพื้นผิวโลกทำให้หลอมละลายหินแร่ต่างๆ เป็นแมกมา และระเบิดเกิดเป็นลาวาทางปล่องภูเขาไฟ เจอสภาพอากาศที่บางเบาทำให้เกิดการพอง ขยายตัว ผ่านกาลเวลาทางธรรมชาติทำให้เป็นหินแร่ภูเขาไฟที่เหมาะต่อการดำรงชีวิตทั้งพืช สัตว์ และแพลงค์ตอน ในท้องทะเลและพื้นภิภพ เมื่อเรานำมาใส่ที่โคนต้นไม้จึงทำให้ต้นไม้โตเร็ว แข็งแรง ไม่แสดงอาการขาดธาตุ ในระยะยาวช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีเพราะอาหารส่วนที่เหลือจากสะสมมากขึ้นจนกลายคล้ายเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซียที่มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยียนปีหนึ่งๆ หลายหมื่นหลายแสนล้านคน เพราะว่าเกาะนี้ทั้งเกาะกำเนิดเกิดขึ้นจากภูเขาไฟเก่าใต้ท้องทะเลลึกนั่นเองต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ที่ ชมรมเกษตรปลอดสารพิษนะครับ 0-2986-1680 -2“เรื่องเกษตรปลอดสารพิษคิดถึงเรา” นะครับ

มนตรีบุญจัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com

หมายเลขบันทึก: 595496เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2015 15:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน 2015 15:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท