หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ที่แท้ก็เกี่ยวกัน


ดินสไลด์ตรงนี้เกิดขึ้นจากแรงน้ำที่ไหลบ่ามาแรงหลายทาง พอมาเจอร่องดินแตกก็พรั่งพรูไหลแทรกลงด้านล่าง ความต่างระดับของดิน ส่งให้แรงกัดเซาะมากจนดินไหล ดินส่วนต้นทางเป็นดินเหนียว แรงน้ำไหลบ่าจึงแรงได้ทั้งๆที่ฝนตกอาจจะไม่มาก

สำรวจพื้นที่ซ้ำๆตามหาจุดที่มีดินเสื่อม ก็เจอจุดที่มีดินสไลด์ซ่อนตัวอยู่เงียบๆมากมาย ส่วนใหญ่เป็นจุดปลายทางที่น้ำไหลลงสู่พื้นดินที่ต่ำกว่า แสดงว่าในยามที่ฝนตกหนักจะมีน้ำไหลที่ผิวดินจากด้านบนลงมาด้านล่างมาก มีแรงเฉือนเกิดขึ้นกับดิน แรงเฉือนที่ว่านี้คงจะมากกว่าแรงต้านทานของผิวดินจึงทำให้เกิดการกัดเซาะจนดินที่มีผิวลาดพังลง

เขาว่าดินสไลด์มักเกิดขึ้นง่ายในพื้นที่ซึ่งมีหินปูนอยู่มาก ดินแถวนี้เป็นดินปนทราย มีรังปลวก ปลวกทำให้หน้าดินเป็นดินเหนียว น้ำซึมลงดินได้ช้า น้ำมากเจอดินเหนียวก็ไหลบ่าจากที่สูงลงที่ต่ำกว่าได้เยอะ แถบหมู่บ้านก็มีภูเขาหินปูน สองปัจจัยเจอกันนี่เอง มิน่าดินสไลด์จึงเกิดขึ้นได้

ปรับพื้นดินที่ไม่มีหญ้าให้มีหญ้า แถวป่าหญ้าที่มีพืชไม้พุ่มคลุมดินอย่างสาบเสืออยู่แล้วก็เพิ่มไม้ยืนต้นอย่างพะยูงลงไปใกล้ๆ ปลูกสุ่มๆ ไม่ให้เป็นแนวตรง เจอไม้พุ่มอย่างสาบเสือก็ฝังเหง้าต้นไม้อย่างกระชาย ขมิ้นลงไปไว้บ้างหวังจะให้เป็นพืชคลุมดิน พยายามให้ในพื้นที่หนึ่งตารางเมตรมีต้นไม้ราวๆ ๓-๔ ต้น เป็นเด็กดีเดินตามรอยคำสอนของกูรูปลูกป่านิเวศก็ได้ดินที่ดีขึ้นแลกมา แต่หลักการปลูกต้นไม้แบบนี้ก็ยังไม่พอสำหรับป้องกันดินสไลด์

มีคนแนะหลักคิดของกลุ่มเพอร์มาคัลเจอร์มาให้ เขาว่าให้จัดการทั้งน้ำและดินไปพร้อมกัน จะป้องกันไม่ให้ดินพังทลายจากแรงเฉือนที่เกิดขึ้นกับดินในยามน้ำหลาก ให้จับหัวใจของการจัดการนี้ไว้ให้มั่น "ชะลอการไหลลงมากของน้ำให้ได้นานที่สุด" เครื่องมือที่แนะนำให้ใช้จัดการน้ำเป็นร่องชะลอน้ำที่กลุ่มเพอร์มาคัลเจอร์เรียกว่า "swale" และให้ปลูกพืชคลุมดินจัดการดิน

กลับไปสังเกตตรงจุดใกล้ดินสไลด์ ทำความเข้าใจการเกิดแรงเฉือนกับดิน ก็เห็นหน้าดินมีหญ้าคา สาบเสือคลุมดินอยู่ หน้าดินตรงหญ้าคาราบเรียบ หน้าดินตรงใต้ต้นสาบเสือมีเนินเล็กๆทำให้เกิดดินต่างระดับบนหน้าดิน ใกล้โคนมีร่องดินแตกตื้นๆอยู่ใกล้ขอบของดินต่างระดับ ดินจุดนี้อยู่ปลายทางของทางน้ำที่ไหลบ่ามาจากแถวที่มีปลวก

เข้าใจแล้ว ดินสไลด์ตรงนี้เกิดขึ้นจากแรงน้ำที่ไหลบ่ามาแรงหลายทาง พอมาเจอร่องดินแตกก็พรั่งพรูไหลแทรกลงด้านล่าง ความต่างระดับของดิน ส่งให้แรงกัดเซาะมากจนดินไหล ดินส่วนต้นทางเป็นดินเหนียว แรงน้ำไหลบ่าจึงแรงได้ทั้งๆที่ฝนตกอาจจะไม่มาก

เห็นดินตรงนี้แล้วได้ความรู้ว่าดินแตกเป็นร่องลึกจนดินสไลด์ได้ยังไง เห็นประโยชน์ของการเพิ่มไม้พุ่มไว้รองรับแรงกระแทกของน้ำฝน เห็นประจักษ์ตาว่าผิวดินต่างระดับใต้ร่มไม้ที่ส่งน้ำไหลบ่าไปตามหน้าดิน สามารถทำให้ดินแตกเป็นร่องได้ ยิ่งไหลมาเร็วยิ่งมีแรงกัดเซาะมาก มิน่าจึงต้องชะลอการไหลลงมากของน้ำให้นานที่สุด

เมื่อมีดินพังทลาย หน้าดินด้านล่างก็เปลือยอีก ถึงเวลาพึ่งอินทรีย์วัตถุเพิ่มความสามารถอุ้มน้ำของดินไว้ให้พืชคลุมดินรุ่นใหม่ได้ใช้ แถบนี้ส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้า หาเศษไม้ใบหญ้ามาคลุมดินได้ไม่มาก ก็ช่วยธรรมชาติเพิ่มอีกหน่อย ในตลาดมีร้านทำขนม มีกากชา เปลือกไข่ทิ้งทุกวัน เจ้าของร้านเป็นคนสนิทกัน ไปขอมาทิ้งเป็นอินทรีย์วัตถุให้ดินตรงนี้เหอะ

ทำแล้วไม่ผิดหวัง ไม่นานเกินรอ หน้าดินด้านล่างมีหญ้าคางอกตรึม ตั้งแต่เข้าใจประโยชน์ของหญ้าคา ก็ไม่คิดจะเพิ่มพืชคลุมดินอื่น แต่หญ้าคาไม่งอกใต้พุ่มสาบเสือ จะใช้พืชคลุมดินพันธุ์ไหนชะลอน้ำที่ไหลบ่าไปตามดินใต้พุ่มสาบเสือยังต้องตามหา

คิดอยู่นานว่าจะชะลอน้ำที่ไหลมามากๆให้อยู่นานได้ยังไงโดยไม่ขุดร่องน้ำ ดินเหนียวอุ้มน้ำได้ดี ที่ก่อเหตุน้ำไหลบ่าผิวดินได้นั้นเป็นเพราะน้ำซึมซาบลงในเนื้อดินได้ช้า ถ้าสามารถกั้นมวลน้ำได้ น้ำก็จะไหลช้าลง เพิ่มน้ำที่ซึมซาบลงดินได้อีก

เคยเห็นขวดบ้าง กระป๋องบ้าง หินบ้างขวางทางน้ำฝนที่ไหลอยู่ข้างถนน ขวางแล้วน้ำที่เล็ดรอดไหลต่อจะน้อยลง มีน้ำขังเอ่ออยู่แป๊บนึง จนเอ่อล้นความสูงของสิ่งที่ขวาง น้ำที่ไหลต่อจึงมากขึ้น ลองนำวัตถุแบบนี้มาใช้น่าจะดี คิดแล้วไม่รอช้า แวะขอบริจาคขวดแก้ว หลอดแก้วที่รพ.ทิ้งบรรจุลงในขวดน้ำดื่มใช้แล้วขนาดต่างๆ นำมาวางกั้นน้ำในหลายๆจุด รอดูผล ไม่ผิดหวังเลย มันช่วยชะลอน้ำให้ได้จริงๆ

หมายเลขบันทึก: 594620เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2015 15:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กันยายน 2015 10:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

"...ขอบริจาคขวดแก้ว หลอดแก้วที่รพ.ทิ้งบรรจุลงในขวดน้ำดื่มใช้แล้วขนาดต่างๆ นำมาวางกั้นน้ำในหลายๆจุด..." sounds like a future archelogical nightmare ;-)

Wouldn't water or dirt/soil/sand do the job of weighing the bottles down as good as "glass"?

ขณะนี้กรมพัฒนาที่ดินทั่วประเทศกำลังแจกพันธุ์กล้าหญ้าแฝกอยู่ครับ

หญ้าแฝกช่วยป้องกันดินพังได้ดีและใบที่ตัดลงยังเป็นปุ๋ยคลุมดินได้ด้วย

ส่วนสาบเสือถือเป็นวัชพืชที่ไร้ค่าเพราะสัตว์ป่าก็ไม่กิน

บนอุทยานฯเขาใหญ่จึงได้มีการรณรงค์ให้ถอนทิ้งกันครับ

คุณ sr ค่ะ ขอบคุณในความห่วงใยค่ะ ในพื้นที่แถบนั้น มีขวดแก้วที่ชาวบ้านโยนทิ้งไว้เกลื่อนอยู่เรื่อยๆ ถ้าจะจัดเก็บยังไงก็คงไม่หมด จึงคิดจะนำมาใช้ประโยชน์เป็นเครื่องกีดขวางทางน้ำเพื่อผ่อนแรงน้ำที่บ่าไหลค่ะ หลอดแก้วจากร.พ.มันไซส์เล็กดี แค่ใส่หยอดๆในขวดพลาสติกก็ได้ขวดสำหรับจำลองสถานการณ์ที่อยากใช้ประโยชน์จากบรรดาขวดที่เจอในพื้นที่แล้ว เลิกใช้ก็ย้ายออกจากพื้นที่ง่ายอ่ะค่ะ


คุณ rojfitness ค่ะ ที่จริงแล้วสาบเสือเป็นพืชที่ช่วยอนุรักษ์หน้าดินไม่ให้เสื่อมโทรมนะคะ ตรงไหนที่เป็นดินลาด ราบสาบเสือจะช่วยยึดดินให้แน่น โคนรากจะช่วยชะลอน้ำที่ไหลบ่าหน้าดินไม่ให้ชะดินลึกแหละค่ะ ความที่มันเป็นพืชขึ้นง่ายในทุกที่ เวลามันสามารถขึ้นแทรกระหว่างไม้ต้นอื่นๆ มันก็ทำให้ไม้ต้นพวกนั้นได้รับแดดน้อยลงและตายได้ มีดีก็มีเสียแหละนะคะ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท