นักเรียนหลายคนรู้จักต้นโสมไทยในโรงเรียนเป็นอย่างดี เป็นพืชสมุนไพร ที่ขึ้นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ บางคนคิดว่าเป็นเพียงไม้ประดับ ที่ปักชำง่าย มีดอกสีชมพู..ครูรู้แล้วว่า..ยอดอ่อน น่ารับประทาน ร้านอาหารที่ขายต้มเลือดหมู จะใช้โสมไทยแทนยอดตำลึง บางคนที่เคยทานมาบ้างแล้ว ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ..รสชาติดีพอๆกับผักคะน้าเลยล่ะ...
แต่นักเรียน ป.๕..ไม่มีใครเลยที่เคยทานผักโสมไทย เพียงแต่บอกว่า เห็นพี่ ป.๖ ขอครูไปทานที่บ้าน..อยากลองบ้าง ครูก็เลยจัดให้ แต่ต้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันก่อน เริ่มจาก..ครูพาทัวร์ไปรอบรั้วโรงเรียน ปลายทางคือสวนสมุนไพร..ระหว่างทางจะใช้การสนทนาแทนการสอน ซักถามให้นักเรียนตอบ ชวนคุย..เปิดโอกาสให้นักเรียนพูดแสดงความคิดเห็น..ไม่เน้นจดบันทึก เพราะช่วงเวลาแห่งการค้นคว้า เพิ่มเติม..ยังรออยู่ข้างหน้า..หลังอาหาร
ครูบอกนักเรียน...เจอโสมที่ไหน เด็ดยอดอ่อนได้ทันที ..พอถึงที่อยู่ของโสมที่แท้จริง ในสวนสมุนไพร ยอดโสมที่นักเรียนเด็ดสะสมก็เกือบพอเพียง ..ถึงเวลาเข้าไปหาแม่ครัว เพื่อขอความอนุเคราะห์ ใช้ครัวเป็นที่ปรุงอาหาร..เมนูใหม่ในรอบปี ..อ้อ..เกือบลืมไป แวะดูป้ายนิเทศเสียหน่อย ที่บอกเล่าเรื่องราว สรรพคุณของโสมไทยไว้อย่างครบครัน
โก้..หัวหน้าห้อง ป.๕ รีบไปประสานแม่ครัว พร้อมคำพูดที่ซักซ้อมกันไว้แล้วว่า ต้องผัดน้ำมันหอยเท่านั้น และใส่กระเทียมเยอะๆ..สิ่งที่ครูไม่ได้ยิน และครูก็ไม่กล้าบอกแม่ครัว..ก็คือ..อย่าผัดนานเกินไปนะครับ ผักจะเหนียวทานไม่อร่อย ..เมื่อน้ำมันร้อน กระเทียมเหลือง เนื้อหมูได้ที่ ใส่ผักโสมลงไป คลุกเคล้าน้ำมัน ..๑๐ - ๑๕ วินาที ตักใส่จานได้เลย..
สำเร็จพร้อมรับประทาน..ได้โสมผัดน้ำมันหอยสองจาน แบ่งให้พี่ ป.๖ จานหนึ่ง ในฐานะที่เป็นผู้จุดประกายโครงการอาหารกลางวันในวันนี้...ที่ทุกคนต่างบอก(ให้แม่ครัวได้ยิน) เหมือนกันว่า..อร่อยมากๆ หวานกรอบดีจริงๆ...
อิ่มอร่อยกันแล้ว แต่การเรียนรู้นั้นยังไม่จบสิ้น งานนี้..ต้องให้ฝังลึกอยู่ในความทรงจำ..ทั้งระบบ..ด้วยการเขียนบอกเล่าเรื่องราว ที่ได้ร่วมกิจกรรม..การแปรรูปสมุนไพร ให้ไปอยู่ในครัว กลายเป็นเมนูเด็ด..แต่นักเรียนจะต้องค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม..จากป้ายไวนิลภายในอาคาร จากป้ายนิเทศตามแหล่งเรียนรู้ ที่บอกความเป็นมาของโสมไทย..ทั้งวิธีปลูก สรรพคุณ..ที่มีประโยชน์ในทุกส่วน ทั้ง ราก หัว และใบโสม
ใบงานของครู..ก็ไม่ยาก..ให้นักเรียนเขียนแผนภูมิความคิด เชื่อมโยง..ความพอประมาณ (ทำอะไร/ อย่างไร) เหตุผล (ทำไมถึงทำ) ผลที่ได้เป็นอย่างไร (ภูมิคุ้มกัน) ท้ายที่สุด..นักเรียนต้องสรุปเป็นองค์ความรู้และ..คุณธรรม..ที่ได้จากกระบวนการเรียนรู้นี้ด้วย
ครับ..การปฏิบัติจริง..ควบคู่กับการอ่านและเขียน จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจ จดจำไม่รู้ลืม..และไม่ต้องรอตอนบ่ายสอง..ก็เรียนรู้ได้..ใบโสมไทย..ผัดน้ำมันหอย..ช่วยลดอาการปวดบวมอักเสบ..นะครับ
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๙ กันยายน ๒๕๕๘
จะลองทำโสมผัดน้ำมันหอยสักจาน ที่บ้านมีต้นโสมอยู่แต่ไม่เคยรับประทานเลย
เรียนไปทำกิจกรรมไป เด็ก ๆ ชอบมากค่ะ การเรียนรู้ที่ทำไปอิ่มท้องไป สบายพุง สบายใจค่ะ
เห็นแล้วอิ่มตาอิ่มใจครับ
ผมเคยเอาไปผักน้ำมัน
จะลื่นๆ
เอาไปจิ้มน้ำพริกอร่อยมากๆครับ
ผัดน้ำมันครับ
พิมพ์ผิด 555