อ่านฉลากสินค้าเป็น คิดก่อนซื้อ


สวัสดีครับ วันนี้ผม Mr.Bell มีความรู้ดีๆเกี่ยวกับเรื่องของฉลากสินค้ามาฝากเพื่อนๆผู้บริโภคครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราทุกคนอ่านฉลากสินค้าเป็น แน่นอนว่าจะสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ตรงความต้องการ และมีคุณภาพครับ ข้อมูลอย่างง่ายเลยครับที่เพื่อนๆทุกคนต้องรู้เกี่ยวกับสินค้าทุกชิ้นที่ คือ

1. วันผลิตสินค้า "MED"

2. วันหมดอายุ "EXP" (เป็นสิ่งที่ผมหาอ่านอันดับแรกๆของการซื้อสินค้าประเภททานได้เลยครับ)

3. ส่วนประกอบของสินค้า (หากมีส่วนผู้ที่ผู้บริโภคทานแล้วแพ้จะได้หลีกเลี่ยงได้ครับ)

4. ชื่อผู้ผลิตและจัดจำหน่าย (หากใช้หรือบริโภคแล้วเกิดปัญหาจะได้ตามหาผู้รับผิดชอบได้ครับ)

5. เลขทะเบียนการค้า

6. ปริมาณสุทธิของขนาดบรรจุ (ให้ดูที่ปริมาณสุทธิครับบ้างครั้งขวดหรอกตา)

แต่ก็มีสินค้าจำนวนไม่น้อยในชีวิตประจำวันของเราที่ไม่จำเป็นต้องติดฉลากสินค้า พูดง่ายๆครับเพื่อนๆ คือต้องอาศัยประสบการณ์ในการเลือกซื้อกันเอาเองครับ บ้างครั้งก็ได้ของสด บางครั้งก็ได้ของเกิบเน่า ลองใช้ไหวพริบกันเอาครับ สินค้าที่ไม่ต้องติดฉลากสินค้ามีดังนี้ ได้แก่ กับข้าวถุง ขนมหวาน ขนมไทย กุ้ง หอย ปู ปลา ผลไม้ ตามตลาดสด หรือพูดรวมๆคือสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้าสามารถให้ข้อมูลได้เลย ในขณะนั้นครับ

ปัจจุบันก็เบาใจไปได้เยอะครับเพื่อนๆ เพราะเรามี พรบ.คุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับเรื่องของฉลากสินค้า ไว้ครับ โดยมีเนื้อหาตามด้านล่างนี้

มาตรา 30-35 การคุ้มครองผู้บริโภคในด้านฉลาก

มาตรา 30 ให้สินค้าที่ผลิตเพื่อขายโดยโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานและสินค้าที่สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขายเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก

ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับกับสินค้าที่คณะกรรมการว่าด้วยฉลากกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ในกรณีที่ปรากฏว่ามีสินค้าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ ร่างกาย หรือจิตใจ เนื่องในการใช้สินค้าหรือโดยสภาพของสินค้านั้น หรือมีสินค้าที่ประชาชนทั่วไปใช้เป็นประจำ ซึ่งการกำหนดฉลากของสินค้านั้นจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคในการที่จะทราบข้อเท็จจริงในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้านั้น แต่สินค้าดังกล่าวไม่เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการว่าด้วยฉลากมีอำนาจกำหนดให้สินค้านั้นเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากได้ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา 31 ฉลากของสินค้าที่ควบคุมฉลาก จะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้

(1) ใช้ข้อความที่ตรงต่อความจริงและไม่มีข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า

(2) ต้องระบุข้อความดังต่อไปนี้

(ก) ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าของผู้ผลิตหรือของผู้นำเข้าเพื่อขาย แล้วแต่กรณี

(ข) สถานที่ผลิตหรือสถานที่ประกอบธุรกิจนำเข้า แล้วแต่กรณี

(ค) ระบุข้อความที่แสดงให้เข้าใจได้ว่าสินค้านั้นคืออะไร ในกรณีที่เป็นสินค้านำเข้าให้ระบุชื่อประเทศที่ผลิตด้วย

(3) ต้องระบุข้อความอันจำเป็น ได้แก่ ราคา ปริมาณ วิธีใช้ ข้อแนะนำ คำเตือน วัน เดือน ปีที่หมดอายุในกรณีเป็นสินค้าที่หมดอายุได้ หรือกรณีอื่น เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการว่าด้วยฉลากกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ให้ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตเพื่อขายหรือผู้สั่งหรือผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อขายซึ่งสินค้าที่ควบคุมฉลาก แล้วแต่กรณี เป็นผู้จัดทำฉลากก่อนขายและฉลากนั้นต้องมีข้อความดังกล่าวในวรรคหนึ่ง ในการนี้ ข้อความตามวรรคหนึ่ง (2) และ (3) ต้องจัดทำตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการว่าด้วยฉลากกำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา 32 การกำหนดข้อความของฉลากตามมาตรา 30 ต้องไม่เป็นการบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องเปิดเผยความลับทางการผลิต เว้นแต่ข้อความดังกล่าวจะเป็นสิ่งจำเป็นที่เกี่ยวกับสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของผู้บริโภค

มาตรา 33 เมื่อคณะกรรมการว่าด้วยฉลากเห็นว่าฉลากใดไม่เป็นไปตามมาตรา 31 คณะกรรมการว่าด้วยฉลากมีอำนาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจเลิกใช้ฉลากดังกล่าวหรือดำเนินการแก้ไขฉลากนั้นให้ถูกต้อง

มาตรา 34 ผู้ประกอบธุรกิจผู้ใดสงสัยว่าฉลากของตนจะเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามมาตรา 31 ผู้ประกอบธุรกิจผู้นั้นอาจขอให้คณะกรรมการว่าด้วยฉลากพิจารณาให้ความเห็นในฉลากนั้นก่อนได้ ในกรณีนี้ให้นำมาตรา 29 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา 35 เพื่อประโยชน์ในการควบคุมและการตรวจสอบการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าที่ควบคุมฉลาก รัฐมนตรีมีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจในสินค้าดังกล่าวต้องจัดทำและเก็บรักษาบัญชีเอกสารและหลักฐานเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบได้

ได้อ่าน พรบ. แล้วก็มั่นใจได้ระดับหนึ่งครับเพื่อนๆว่าหากเราเลือกซื้อสินค้าตามแหล่งค้าขายที่ได้มาตรฐานเช่น ห้างสรรพสิ้นค้า ร้านสะดวกซื้อ ต่างๆ เราน่าจะได้รับสินค้าที่มีฉลากถูกต้องผลิตภัณฑ์น่าจะมีคุณภาพที่สุดครับ เพราะร้านพวกนี้จะไม่รับผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีฉลากสินค้าเข้ามาขายเป็นอันขาดครับ เนื่องด้วยภาพลักษณะและชื่อเสียงครับหากมีลูกค้าร้องเรียนขึ้นมาร้านค้าจัดจำหน่ายเหล่านี้จะเสียชื่อไปด้วยครับ ทีนี้ก็เหลือแต่เพื่อนๆแล้วหล่ะครับว่าจะคัดเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อย่างไรให้คุ้มค่ามากที่สุดกันเงินที่เราต้องจ่ายไป

หวังว่าเพื่อนๆทั้งผู้บริโภคทุกท่านคงจะได้รับความรู้เกี่ยวกับฉลากสินค้าและสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปเลือกใช้และอ่านฉลากสินค้า คิดก่อนซื้อทุกครั้งที่จะหยิบของใส่ตะกร้านะครับ สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณความรู้เรื่องฉลากสินค้าบางส่วนจาก http://www.seasongroup.co.th/label-price-tag.html

ขอบคุณครับ

Mr.Bell

คำสำคัญ (Tags): #ฉลากสินค้า
หมายเลขบันทึก: 594583เขียนเมื่อ 9 กันยายน 2015 17:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 กันยายน 2015 17:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านบันทึกนี้ค่ะ

พร้อมกับมาเรียนรู้ด้วยค่ะ

ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้นะคะ

ขอบคุณค่ะ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท