รัฐบาลทหาร ที่เข้ามาควบคุมอำนาจตั้งแต่พฤษภาคม ปี 2014 (พ.ศ.2557) ก็ทำเหมือนอย่างที่เกิดเหตุการณ์ประท้วงทางการเมือง ตามการประกาศของรัฐบาล หน้าที่ก็คือคืนความสุขให้แก่ประชาชน เพื่อที่จะคนไทยก็ได้ยิ้มอีกครั้งหนึ่ง หากรู้อุดมการณ์ของสงครามเย็น หน้าที่ของรัฐบาลก็คือทำให้หน้าตาของประเทศงดงามที่สุดในสายตาคนต่างชาติภายใต้การควบคุมของทหาร การมีความสุขมิใช่ความมุ่งมาดปรารถนา แต่เป็นคำสั่ง การประท้วงในตอนนี้เกิดขึ้นไม่ได้ องค์กรสื่อทั้งหมดถูกบังคับให้สนับสนุนรัฐบาลทหาร การโต้เถียงทางวิชาการก็ถูกปิด คนไทยหลายคนจะไม่อยู่ในประเทศ คนไทยหลายคนต้องถูกจับและอยู่ในคุกเป็นเวลานาน เพราะพวกเขาวิพากษ์สังคม แต่ในโลกภายนอกแล้ว ความสงบยังคงมีอยู่ หลังจากครึ่งปีของความขัดแย้ง
ตั้งแต่รัฐประหาร คนไทยไม่สามารถพูดอย่างเปิดใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในสาธารณะ ประชาชนดูเหมือนว่าจะไม่มีอารมณ์เกี่ยวกับสิ่งต่างๆเลย ความคิดเรื่องประชาธิปไตยและความยุติธรรมทางสังคมเริ่มหายไปจากความทะเยอทะยานทางการเมือง คนไทยเริ่มคุ้นเคยกับการสร้างทางการเมือง ซึ่งดูเหมือนว่าจะจดจ่ออยู่แต่เรื่องการจัดลำดับ หลายคนยังคงมีสมาธิอยู่กับทางเดินของประเทศ แต่ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากจะคอยและมุ่งหวัง
อย่างไรก็ตาม ระเบิดที่เกิดขึ้นที่ศาลเอราวัณในวันจันทร์ได้ตั้งคำถามถึงระบบใหม่ในการจัดการ สำคัญเหนืออื่นใด ระเบิดไม่ใช่เป็นระเบิดในชาติ แต่เป็นการระเบิดนาๆชาติ การทำความสะอาดศาลนำประเทศไปสู่ความปกติทีผิดปกติ (abnormal normality) แต่การตัดสินใจเรื่องดังกล่าวจะต้องอธิบายให้แก่เหยื่อได้ ความยุติธรรมไม่ใช่เพียงถูกคาดหวัง แต่ยังเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งยวด การจะหวังความยุติธรรมให้เกิดขึ้นได้นั้น การตรวจสอบอย่างละเอียดที่สุดจะต้องถูกนำมาใช้ คำถามที่ต้องตอบนั้นเป็นเรื่องของการหาข่าวที่ผิดพลาด และเมื่อการตรวจสอบเริ่มดำเนินไป เราจะค้นพบหลักฐานต่างๆ ถ้าความโหดร้ายนั้นเป็นงานของต่างชาติ คำสั่งขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต้องถูกนำมาใช้ แต่การรักษาหน้าของประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างถึงที่สุด
แปลและเรียบเรียงจาก
Matthew Phillip. Analysis: Transparency is essential in
http://asiancorrespondent.com/134992/analysis-transparency-essential-in-bangkok-bombings-probe/
ดิฉันคิดว่าการที่สื่อต่างชาติสงสัยเรื่องกระบวนการยุติธรรมไทย ไม่เหนือความคาดหมาย