.. ตะวันแรงแสงสุรีย์ที่แผดจ้า
มันเพิ่มพาทุกข์ยากลำบากแสน
นาที่ดำซ้ำสองต้องวายแทน
เหมือนตอกแน่นความยับเยินที่เกินมอง
.. นาที่แล้งแห้งผากตากเปลวแดด
ที่รุมแผดเผากล้าย้ำคราสอง
แรกนาปีที่ตายหมดน้ำลดคลอง
ไม่พอต้องจำปล่อยพลอยหมดตัว
.. คิดลองทำซ้ำอีกคราต้องหาทุน
เอามาหนุนลุ้นกู้รู้ดีชั่ว
ได้ข้าวมาราคาดีหนี้พ้นครัว
คงไม่กลัวยึดนาหาไถ่คืน
.. ต้องระกำข้ำเหลือเมื่อแล้งอีก
เหมือนถูกฉีกอกหล่นสุดทนฝืน
น้ำตาหยดรดไหลใจเต็มกลืน
กลั้นสะอื้นมิให้ใครเวทนา
.. จะพึ่งพาอาศัยใครเยียวยา
ทุกคนพากันถลำช้ำยิ่งกว่า
หัวอกเดียวเกี่ยวก้อยซ้ำรอยครา
ยากจะมาช่วยเกื้อไม่เหลือใคร
.. เหลือเพียงวัวตัวสุดท้ายจำขายทิ้ง
ต้องการยิ่งเงินตราไว้ยาไส้
แบ่งเป็นทุนหนุนเนิ่นเดินทางไกล
บากหน้าไปหางานย่านเมืองกรุง
ผู้ประพันธ์ : วันปีย์
...เห็นภาพพื้นดินแตกระแหง แห้งแล้งมานานมาก...ตั้งแต่เริ่มเรียนหนังสือ...ผ่านมาจนถึงเดี๋ยวนี้อายุ60 ปี ก็ยังเห็นอยู่นะคะ...นวัตกรรมทางการเกษตรในโลกเกิดขึ้นมากมาย...บางประเทศไม่มีที่ดินเขาปลูกข้าวกันบนน้ำก็เคยเห็น...บางประเทศทำนาบนเขาเป็นขั้นบันไดสวยงามได้ผลดีเป็นที่รู้จักทั่วโลก...บางประเทศหิมะตกเกือบทั้งปีก็ยังปลูกข้าวมาทำขนมปังกินได้...บางประเทศแห้งแล้งเป็นทะเลทรายเขาก็สามารถทำการเกษตรได้นะคะ...หากจะรอให้เป็นไปตามธรรมชาติคงไม่ได้แล้ว เพราะธรรมชาติถูกทำร้ายและทำลายนะคะ
ขอบคุณ ครับผม ความแห้งแล้งของผืนนาเพราะขาดน้ำ ก็คงมาการบริหารจัดการน้ำที่น่าจะไร้ประสิทธิภาพของชลประทานมากกว่า ชาวนาก็ได้อาศัยแต่น้ำฝนเป็นหลัก ปีไหนฝนฟ้าดีก็รอดตัวไป ปีไหนแล้งจัดเหมือนปีปัจจุบันนี้ก็ต้องมีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละครับ ก็น่าเห็นใจกระดูกสันหลังของประเทศ ครับผม
เมื่อก่อนชาวนามีอาชีพเสริมคือค้าล็อตเตอรี ทำกำไรใบละ 10 บาท เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้แล้ว
หวังว่า...ข้าว..ที่ยึดไว้หลายล้านตัน...คงเอามาแบ่งให้..คนไทย..ยามยาก..ได้กิน กัน..ละ คราว นี้...
คุณยายธี ครับ ข้าวที่ว่ารับประทานได้หรือครับ เห็นตามข่าวปุ๋ยก็ทำไม่ได้ น่าเสียดายจริงๆ ครับผม