ครู..กับห้องเรียนคุณภาพ....


ครูป.๓ ป.๔ ของเรา..ไม่ได้สอนดีสอนเก่งกว่าพวกเราเลย..เรื่องไอซีทีก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกเราด้วยซ้ำ...พวกเรามองเห็นอะไรไหม..ปัจจัยหลักอยู่ที่..ครูอยู่กับเด็กตลอดเวลาใช่หรือไม่...และใช้โทรศัพท์เพื่อการสื่อสารเท่านั้น..รับและโทรออกก็เพียงพอ..ไม่เคยมีเฟสมีไลน์กับใคร..เวลาส่วนที่จะหายไป นำไปใช้สอนหนังสือและตรวจงานนักเรียน..."

ในขณะที่เขตพื้นที่ฯนิเทศติดตาม.."การอ่าน" อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง...เป็นอีกปีการศึกษาหนึ่ง..ที่มองเห็นการเอาจริงเอาจริง เพื่อตอบโจทย์ตัวชี้วัด..คุณภาพทางการศึกษา และเป็นไปเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ..ที่ต้องการจะเห็น..การอ่านไม่ออก..เขียนไม่ได้..ต้องหมดไป..

สพฐ.กำหนดชัดเจน..ว่าชั้น ป.๑..ไม่ใช่แค่เตรียมความพร้อม..แต่ต้องอ่านหนังสือได้ทุกคน และจะต้องอ่านคำพื้นฐานได้คล่องด้วย..จะด้วยกระบวนวิธีการสอนใดก็แล้วแต่..จะใช้แพ๊คเก็ตของ สพฐ.ก็ได้ มีขั้นตอนและสีสันพอสมควร จะทำขั้นตอนไหนก่อนก็ได้ อบรมกันไปแล้ว..เหลือเพียงใส่ใจและใช้จริงก็พอ..

แต่..ก็ยังมีนักคิดนักเขียน และนักการศึกษาบางคน..ศึกษาหาข้อมูล และพบว่า..ณ วันนี้..นโยบายการศึกษาของชาติ ยังลอยไปลอยมา ไม่ชัดเจน จับต้องยาก..ต้นสังกัด..ยังทำงานแบบเดิม ต้องการเอกสาร รายงาน..มากกว่า..จะดำเนินการให้ครูที่โรงเรียน..ตระหนัก มีความรู้ความเข้าใจ..และสอนได้จริง..

ถึงขนาดฟันธงลงไปว่า...การอ่านไม่ออก..ปลอด..ยาก เพราะครูป.๑..ส่วนใหญ่..ยังไม่เข้าใจการสอนภาษาไทย..ยังไม่ใช้การสะกดตัวผสมคำ..และท้ายที่สุด..คาดเดาว่า..โรงเรียนเปิดมาสองเดือนแล้ว ครูบางโรงเรียน..ยังไม่ได้ลงมือสอนหนังสือด้วยซ้ำ..เวลาส่วนใหญ่..หมดไปกับการ เตรียมวัสดุอุปกรณ์ ทาสีทั้งภายนอกภายใน(ด้วยตนเอง)..อย่างสนุกสนานและเจ็บช้ำระกำใจไปพร้อมๆกัน..

ถ้อยคำสำคัญ..ที่น่าสนใจ..ของนักวิจารณ์..มองว่า..คุณภาพการอ่านของนักเรียน..จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อครูยังไม่ใส่ใจในการสอน..ว่างเป็นเล่นเฟส เล่นไลน์..

เรื่องนี้จึงเป็นประเด็น..น่าคิด..ผมบอกครูในที่ประชุมว่า...เรื่องเฟส เรื่องไลน์..ผมไม่มี มาตรการ..ห้าม..เหมือนผู้บริหารบางคน..เพราะผมเองก็เล่น..เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสาร เพื่อติดต่อประสานงานกับหน่วยงานและบุคคล..ครูเอง..ก็ต้องใช้สื่อหรือช่องทางนี้..ให้เกิดประโยชน์ต่องาน..ต่อการเรียนการสอน..หากเล่นเพื่อความสุขส่วนตัว พร่ำเพรื่อ..จนเพลิดเพลิน..ลืมงานในหน้าที่ราชการ..จะเกิดผลเสียในระยะยาว...อาจไม่สำนึก..หรือไม่รู้ตัว..แต่..ชื่อ..มันจะปรากฎให้คนอื่นเห็นว่า...ครูในองค์กรของเรา..ไม่รับผิดชอบการสอนเท่าที่ควร..

ครับ..นักการศึกษาก็ห่วงใย นักวิจารณ์ก็ว่าไป..แต่ผมคิดว่า..คุณภาพของการเรียนการสอนในห้องเรียน มันอยู่ในห้องเรียนนั่นแหละ ที่มีครู..รู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบ มุ่งมั่นทุ่มเท..ให้กับการสอน..คุณภาพจะเกิดจากตรงนี้ มากกว่า..คำวิจารณ์ใดๆ หรือนโยบายมากมายที่ไกลตัว..แต่จงมองปัญหาในห้องเรียนสี่เหลี่ยม แก้ไขและพัฒนา..ลดละ..เฟสและไลน์ลงบ้าง..ก็เท่านั้น...

ผมมีวิธีปลุกจิตสำนึกเพื่อนครู..ให้ดูตัวอย่างที่ดี(มีค่ากว่าคำสอน) ภาพเชิงประจักษ์ ที่เห็นอยู่ใกล้ตัว..โดยให้ดูจาก..ครู..ที่เป็น..พี่..เป็นเพื่อนครูในโรงเรียนของเรา..ถ้าเรารักและเคารพศรัทธากันจริง..พวกเราจงมอง..และนำส่วนดีไปเป็นแบบอย่าง..ผมบอกว่า...

"...ท่านผู้อำนวยการเขตพื้นที่มาเห็นแล้ว..พูดไม่ออก..เมื่อเห็นนักเรียน ป.๓ - ๔ เรียนรวมกันเกือบยี่สิบคน...มีครูคนเดียว..ไม่มีการกั้นห้อง..ใช้ทีวีอย่างมีประสิทธภาพ..นักเรียนมีระเบียบวินัย ใช้ข้อตกลงร่วมกัน ที่สำคัญ..อ่านคล่องเขียนคล่อง ลายมือสวย..ผลการคัดกรองการอ่านก็ออกมาดี NT..ไม่มีปัญหา เรียนรวมในโรงเรียนขนาดเล็กของเรา ที่ครูไม่ครบชั้น..เขตพื้นที่เริ่มสนใจ เมื่อผลสัมฤทธิ์ไม่ได้แตกต่างกันมากมายกับโรงเรียนต้นแบบ..DLTV..ที่มีครูครบชั้นและได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากเขตพื้นที่...."

"...ครูครับ...ครูป.๓ ป.๔ ของเรา..ไม่ได้สอนดีสอนเก่งกว่าพวกเราเลย..เรื่องไอซีทีก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกเราด้วยซ้ำ...พวกเรามองเห็นอะไรไหม..ปัจจัยหลักอยู่ที่..ครูอยู่กับเด็กตลอดเวลาใช่หรือไม่...และใช้โทรศัพท์เพื่อการสื่อสารเท่านั้น..รับและโทรออกก็เพียงพอ..ไม่เคยมีเฟสมีไลน์กับใคร..เวลาส่วนที่จะหายไป นำไปใช้สอนหนังสือและตรวจงานนักเรียน..."

ครับ...ครูกับห้องเรียนคุณภาพ..ทำอย่างไรก็ได้..ที่จะต้องไม่สวนทางกัน..นะครับ

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๘




หมายเลขบันทึก: 592287เขียนเมื่อ 12 กรกฎาคม 2015 19:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กรกฎาคม 2015 19:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ทั้งหลายทั้งหมดอยู่ที่สำนึกและจิตวิญญาณของครู แต่ตัวแปรสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของเด็กคือหน่วยเหนือที่มีงบประมาณอันมหาศาลนั่นแหละ (เหนื่อยครับกับการศึกษาที่งบฯมาก แต่งบฯนั้นไม่ถึงหน่วยปฏิบัติระดับโรงเรียน)

Love this bit "...ใช้โทรศัพท์เพื่อการสื่อสารเท่านั้น..รับและโทรออกก็เพียงพอ..ไม่เคยมีเฟสมีไลน์กับใคร...", it goes right into the responsibility of assigned duty. If our public servants can maintain thsi responsible attitude. Go Thailand Go!

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท