ความผูกพัน

หากถามว่า ชีวิตต้องการอะไรมากที่สุด ?

คำตอบคงแตกต่างกันไป บางคนอาจจะบอกว่าเงิน บ้าน งาน ความมั่นคงของชีวิตและความผูกพันในองค์กร

วันนี้ได้มีโอกาสเป็นกรรมการสอบสัมภาษณ์ข้าราชการ ซึ่งเป็นบุคลากรภายในจำนวนหนึ่ง เพื่อสอบคัดเลือกเข้ารับราชการ

มีหลายประเด็นที่น่าสนใจและน่าพิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง

ประเด็นแรก คือการศึกษา บุคลากรส่วนใหญ่ที่มาสมัคร ศึกษาจบปริญญาตรีเป็นส่วนใหญ่ แต่ตำแหน่งที่มาสมัครสอบ แต่กลับใช้วุฒิประกาศนียบัตร(ปวช./ปวส.)มาสมัคร ในตำแหน่ง เจ้าพนักงานธุรการ เมื่อสอบถามว่าทำไมไม่ไปสมัครตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิปริญญาตรี จะได้รับคำตอบว่า มีคนสอบมาก ไม่มีความมั่นใจว่าจะสอบผ่าน ถึงแม้ว่าตำแหน่งที่สมัครสอบจะเงินเดือนน้อยกว่าแต่มีความมั่นคงมากกว่า หากสอบได้แล้วค่อยมาปรับวุฒิเอาภายหลัง

ประเด็นที่สอง ความผูกพันต่อองค์กร จากที่ได้สัมภาษณ์บุคลากรดังกล่าว มีหลายคนที่ทำงานอยู่กับองค์กรมาเป็นเวลานาน ทั้ง ๆ ที่มีค่าตอบแทนน้อยกว่าไปทำงานที่อื่น สาเหตุที่อยู่ไม่ยอมย้ายไปที่อื่น จะได้รับคำตอบว่า หน่วยงานนี้มีความรัก ความสามัคคี และวัฒนธรรมองค์กรอยู่กันอย่างพี่อย่างน้อง แม้จะมีค่าตอบแทนน้อย แต่ก็มีความสุขในการทำงาน

ประเด็นที่สาม การพัฒนาตนเอง บุคลากรส่วนใหญ่กำลังอยู่ในระหว่างศึกษาต่อเป็นส่วนมาก บางคนกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี และบางคนกำลังศึกษาระดับปริญญาโท โดยใช้ทุนส่วนตัวในการพัฒนาตนเอง จึงเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ และองค์กรน่าจะมีทุนการศึกษาให้บุคลากรเหล่านี้ไปศึกษาต่อ ก็จะเป็นการพัฒนาบุคลากรและสร้างความผูกพันให้กับบุคลากรไม่น้อย

มีผู้เข้าสัมภาษณ์คนหนึ่งเรียนจบระดับปริญญาโท ปัจจุบันทำงานตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารทั่วไป แต่กลับมาใช้วุฒิประกาศนียบัตร(ปวช.) มาสมัครสอบในตำแหน่ง เจ้าพนักงานธุรการ

จึงถามว่า เพราะเหตุใดจึงมาสมัครสอบในตำแหน่งดังกล่าว คำตอบที่ได้คือ..มีความมั่นใจว่าจะสอบตำแหน่งนี้ได้...หากไปสอบตำแหน่งที่ใช้วุฒิปริญญาตรี ขาดความั่นใจ และโอกาสสอบตกมีมากกว่า

และถามว่าทำไมไม่ไปสอบปลัดออำภอ หรือปลัดอบต./ปลัดเทศบาล คำตอบที่ได้คือ...ชอบงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันมากกว่า

และมีความสุขในการทำงาน นอกจากนี้ยังมีความผูกพันกับเพื่อนร่วมงานและชอบวัฒนธรรมองค์กรที่ปฏิบัติงานอยู่

จึงทำให้เห็นว่า...ความมั่นคง ความผูกพันต่อองค์กร และวัฒนธรรมองค์กร มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเข้าทำงานของ

คนรุ่นใหม่...น่าคิด!!!!