(บันทึก)..ประสพการณ์..ในต่างแดน..ยายธี ๕...ในแกลลอลี่ชีวิตวันนี้


ภาพนี้ที่เอามาลง...อาจจะเรียกมันว่า..ประตูผีสู่จิตวิญญาณ ที่ดีๆ..แล้วกัน...

ทำไมจึงจะเรียกมันว่าอย่างนั้น...เพราะมันเป็นสิ่งสังวรให้กับ "ตัวตน" ครั้งหนึ่งใน...ชีวิต..ว่า...ได้

รอดออกไป..จากวังวน..ของ มายา อารมณ์..ที่มันแนบแน่นอยู่ใน จิต วิญญาณ...ผี สี่ตัว..ที่สิงสู่อยู่ในตัวตน..ที่ไม่เคย ยอมรับรู้..มาเลยตลอดเวลา....รักโลภโกธรหลง..

วัฏรสงสารแห่งอารมณ์...จุดเกิดจุบดับ..สลับกันอยู่ ชั่วกาลนาน...

พุทธวิถี..พุทธวิธี...

หลุดพ้น..ผ่านประตูผี ทั้งสี่..รัก โลภ โกธร หลง ได้...พบแน่แท้ "อิสระสุข"

(สิ่งที่เป็นประสพการณ์หนึ่งในชีวิต..โกธรเป็นภัยมหันต์..รักไม่ลืมหูลืมตา..ก็แย่..ถ้าโลภด้วย..ไปกันใหญ่..หลงยิ่งแล้ว..ใหญ่ลงหลุมได้เร็วยิ่งกว่า..ใช้ยานพาหะสากล ..)

ภาพนี้ขอเขาถ่ายรูปมา ที่ จตุรัส ถนนที่ผ่านจตุรัตนี้มีชื่อแปลเป็นไทยว่า"ประชาชื่น"..

เลยเอาลงเอาไว้ให้ดูเล่นกันว่า

ความสุขที่ "อิสระ "...ใน ต่างแดน ก็มีอีก รูปแบบหนึ่ง...

(หมายเหตุ?.ห้ามก้อปปี้รูปนี้อย่างเด็ดขาด..เพราะไม่ทราบกฎที่ในประเทศไทยว่าจะเป็นการอนาจารรึเปล่า...)..

หมายเลขบันทึก: 591692เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2015 18:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มิถุนายน 2015 18:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ชายคนนี้..มาจากบาเซลโลนา เสปญ..ดูเขามีความสุขดี..เขานั่งตัดกระป๋องเบียร์ง่าวนอยู่..ข้างถนน..ยูงแฟนสตีค..

เขาตัดเสร็จ..ขายในราคา 1.50 €.ยายธี อุดหนุนเขา แล้วชวนเขาคุยและขอถ่ายรูป....คุยกันว่าเขามาแต่ไหน...ได้คำตอบมาในเบื้องต้น...เขาบอกว่า พอหนาวเขาก็จะไปอยู่ เทเรียนิฟฟา ซึ่งมีอากาศอุ่นกว่า..เขาเล่าว่าเคยไปฮ่องกงสิงค์โปร์ฟิลิปปินท์.. มันเป็นความสุขอิสระ..ชนิดอีกชนิดหนึ่งผู้ใช้ชีวิตอย่างนี้ได้ ย่อมมี

ความสุขสงบในจิตใจ..

'Death Gate' (or 'Trap' that many people can't find their way out -- and commit suicide) is just a little part in the BIG picture. When we stand back and widen our view there are more ways to go on. Thanks I got that.

And 'independence' from 'systems' is almost like 'nibbaana' from 'dukkha, anicca, anatta'. 'Almost' I said ;-)

ได้คติดี ๆ ไว้เตือนตัวเองเสมอเมื่อเข้ามาอ่านแกลลอลี่ชีวิตของคุณยายธี ภาพก็สวยงามและแปลกตาจริง ๆ ขอบคุณมากนะคะ

สวัสดีค่ะคุณ กุหลาบ มัทนา..ไหนๆได้รับคำชมกับภาพประกอบ..เลยอยากจะเล่าอีกนิดนึงกับภาพประกอบด้านบน..ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นภาพเขียนน้ำเคลือบและเขียนด้วยทอง..งานชิ้นนี้เกือบถูกทิ้งเป็นขยะ..เพราะจบงานในเบอรลิน..ต้องย้ายไป บราวชวัยก์( ไม่มีปัญญา ขน)..คุณ ฮันส์(ชู้รัก)..เป็นผู้ขอไว้..เลยไม่ได้ทิ้งแถมซ่อมเผาแต่งด้วยทองให้ดูมีค่า ขึ้นมา จากความเป็น(ขยะที่จะทิ้ง)....และชิ้นงานนี้มีโอกาศไปท้าชิงรางวัลกับเขามา..ในหัวข้อเรื่อง"ทอง"กับบริษัทผลิต บุหรี่แห่งหนึ่ง..(ไม่ได้รางวัลหลอกเจ้าค่ะ)..แถมตอนส่งกลับมาแตกหักเสียหาย..เลยได้เงินค่ะประกันมา สี่พันเหรียญ...

ขยะสีทอง...เจ้าค่ะ

(VIMUTTI SUK..go on..คุณsr..สวัสดีเจ้าค่ะ...ความสุข อยู่ที่ใจ..เจ้าค่ะ...วิมุตติสุข..คือ..ความสงบเย็น...)

มีผู้จะให้คำวิจารณ์..กับภาพที่ล่อแหลม...กับสังคมไทย.ไหม.เจ้าคะ...(คุณnui คะ มีความเห็นไหม..คุณหมอเปิ้ลคุณหมอ สมพนธ์..ค่ะ..ต้องการเสียงสะท้อนจากสังคมไทย..เจ้าค่ะ...แสดงความเห็นมากันหน่อย..ที่จริงเป็นปัญหาใหญ่เหมือนกันเรื่องเพศ..ในไทยและอาจจะ.เป็นปัญหา ที่ภาษาไทยน่าจะเรียก ได้ว่า "น้ำนิ่งไหลลึก"...อ้ะะ(คิดเอาเอง)...).....

ลุงคนสุดท้ายฝีมือดีนะครับ

ทำได้สวยมาก

ภาพบนเป็นรณรงค์การคุมกำเนิดหรือครับ

เอหรือชอบใส่เล่นเฉยๆๆ

เห็นภาพชายคน.ชูชาติ เลยจ้า ยายธี

นี่คือ ผอ. ชูชาติ พรหมพันธุ์ อดีต ผอ.โรงเรียนที่อำลาวงการศึกษา

หันหาชีวิตติดปีกตามฝันในวันนี้จ้าา

สวัสดีค่ะ อาจารย์ขจิต..มุมนี้..จึงถูกเรียกว่าประชาชื่น..เจ้าคะ..ก็ถามเขาเหมือนกันว่าทำไมแต่งตัวแบบนี้เพราะอะไรแต่เขากลับ ชูกระดาษให้ดูที่มีตัวเลขและคำถามเต็มไปหมด..ยายธีงงๆๆๆเลยเดินกลับบ้านหลังจากเขาให้ถ่ายรูป..เอาไว้...(ที่เอามาลงก็สองจิตสองใจ...อยากรู้..คนดูรูปแบบนี้..อยู่กันคนละซีกโลก..จะรู้สึก อย่างไร..

ทั้งๆที่มีอะไรๆที่เหมือนกันทั้งโลก.)..ยายธีสมัยนึงโดนนักเรียนชาย ล้อเรียนเอาเวลาเดินเข้า รร.มา ว่า ยายคนฟังไม่ได้มาแล้ว โว้ย!...ตอนนั้นเพิ่งเข้า รร.ที่เรียกว่า สหศึกษาใหม่ๆ..ก็คงจะพอเดาได้..ว่าสังคม เรื่องเพศ ในมุมหนึ่ง..เป็นอย่างไร...

ในสวีเดน ฟินแลนด์ มีโมเดล รร. สอนเรื่องเพศ ตั้งแต่อนุบาล และประถม..เคยเห็นในหนังสารคดี ที่นี่เจ้าค่ะ

หากมีการให้การศึกษาอย่างถูกต้อง..(เรื่องเพศสัมพันธุ์..เราคงลดปัญหาสังคมและอาชญากรรมได้ไม่มากก็น้อย...รวมถึงเรื่องโรคที่เกิดจากความสำส่อนทางเพศ..หรือความเข้าใจเรื่องของสรีระกับ..ความรัก..มันคือ..อะไรกันแน่...(ตรงนี้ คิดเอาเองเหมือนกัน คงไม่ใช่คำตอบ)...

สวัสดีค่ะ คุณ มะเดื่อ.เหมือนกันจังเลยนะคะ..

คุณมะเดื่อมีควา มเห็นเรื่องว่าควรกำหนดให้...เด็กควรเรียนเรื่อง สรีภาพทางเพศ..เรื่องของสุขศึกษา..เป็นวิชาหนึ่งที่เลือกเรียนได้ ใน รร. ไหมคะ ...

หากถามความเห็นคุณมะเดื่อเรื่องเสรีภาพทางเพศ

เรื่องของวิชาสุขศึกษา ว่าเป็นวิชาที่เลือกเรียนได้ใน โรงเรียนไหม ??

จริง ๆ แล้ว เรื่องของเพศศึกษา ก็บรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียน

ในวิชาสุขศึกษาแล้ว ตั้งแต่ ระดับประถม แต่ก็นั่นแหละ...

จะสอนกันจริงจังแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับครูผู้สอน..รวมทั้งเรื่อง

เสรีภาพทางเพศ นั้น หากจัดเป็นวิชาเลือก ก็ต้องตีกรอบ

ของหลักสูตรให้ชัดเจน ครูจะต้องตระหนักถึงผลที่จะเกิดแก่ผู้เรียน

ให้มาก แม้ยุคสมัยนี้ เรื่องเพศจะเปิดกว้าง และยอมรับในสังคมไทย

ไปมากมายแล้ว แต่วัฒนธรรมไทยก็ยังไม่เปิดกว้างเหมือนทางตะวันตก

หากครูผู้สอนวิชา เพศศึกษาในโรงเรียน จะนำเรื่องของเพศในสังคมโลก

มาพูด มาสอน ให้เกิดความตระหนัก ถึงผลดี ผลเสีย และความเหมาะสม

แก่ผู้เรียนแล้ว คงไม่จำเป็นต้องเป็นวิชาเลือกหรอกจ้ะยายธี วิชาปกตินี่แหละ

ก็ได้ผลแล้ว


555 เขา Creativity ...ถ้าทำในไทยโดน แน่นๆ ... หมอเปิ้น ..เคยไปสอน การใช้ถุงยาง ... เคยมีผู้ใหญ่ ว่ามา ว่าไม่เหมาะสม ..... "แล้ว ดญ.แม่ ... ก็ตั้งครรภ์" ..... พ่อแม่ แทบบ้าตาย


สวัสดีค่ะ ดร เปิ้ล (ส่วนใหญ่ ยายธี ก็ทึ่ง ชีวิต ความเป็นอยู่ ของคนที่นี่..เจ้าค่ะ)..โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่กับการแสดงออก..ซึ่งก็เหมือนๆกันทั้งโลก..ช่วงที่ยายธีเข้าเบอร์ลิน..เป็นช่วงของการ รนณรงค์ต่อสู้กับคำว่าเสรีภาพกันอย่างกว้างขวางในหมู่นักศึกษา...และมีฮิปปี้ เกิดขึ้น... ในอเมริกา...หากแต่บ้านเรา..มีพัทยาเป็นที่พักผ่อนของจีไอทหารอเมริกัน..ต่อมาก็นักท่องเที่ยวเยอรมันและต่างชาติหลายหลาก.. ในสมัยสงครามเวียตนาม...อาชีพขายตัว เป็นแม่บ้าน ทางอ้อมเกิดขึ้นมากมาย...

สำหรับเมืองไทยทีมีชนหลายหลากปะปนกันมาแต่เดิม..ภาคเหนือ ชนเผ่าภูเขาดั้งเดิม ก็ฟรีเซ้กส์กันมาแต่ดึกดำบรรพ์..อินเดียเริ่มส่งเด็กให้รู้จักวิธีสืบพันธุ์กับหมอผีประจำหมู่บ้านตั้งแต่เจ็ดขวบ(เคยอ่านพบมานานมาแล้วเรื่องนี้เดี๋ยวนี้คงไม่มี...)

จำได้ว่าดูหนังสารคดีเกี่ยวกับเรื่องการเรียนของเด็กเรื่องนี้ในฟินแลนด์ในรร.อนุบาล..ยายธีเห็นแล้วชอบมาก..เขาใช้ระบบคอมพิวเตอร์ผนัง แบบจอสัมผัส..เด็กเล็กใช้มือสัมผัสก็จะเห็นความเป็นไปในธรรมชาติของสัตว์ทั่วไป..ทำได้และมีการใช้จิตวิทยาในการเชื่อมโยงการสอน..ความอยากรู้อยากเห็น ของเด็กๆ..ว่าเขามาจากไหน..เกิดขึ้นมาได้อย่างไร...

ยายธีจำได้ว่าเมื่อเด็กๆเคยใช้คำถามกับแม่ว่าตัวเองมาจากไหน..ช่วงที่แม่มีน้องอยู่ในท้อง..."แม่ตอบว่า ...แกมาจากรูกระบอกไม้ไผ่...5555...."





พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท