BbL..ที่โรงเรียน


ดนตรี กับ BbL..เป็นเรื่องที่กล่าวถึง และให้ความสำคัญ ลำดับต้นๆ ที่มีส่วนตอบสนองการเจริญเติบโตของสมองในทางบวก ..ในความคิดของผม เพลงและดนตรี อยู่คู่กับโรงเรียน อยู่คู่กับครูไทย มาอย่างยาวนานมาก แต่ช่วงหลังเราละเลย ไปให้ความสำคัญกับสื่อICT และการประเมินความเป็นเลิศกัน..

ช่วงนี้ สพฐ. จะให้พลิกโฉมห้องเรียน ป.๑..โดยสั่งการลงมา แล้วจัดการอบรมกันทั่วประเทศ ให้พัฒนาการเรียนการสอนภาษาไทย ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับพัฒนาการทางสมอง เป็นที่รู้กันในชื่อ..BbL...Brain - based Learning

ขานรับนโยบายกันคึกคัก..ด้วยการทาสีโต๊ะนักเรียน เป็นสีที่สดใส ฉูดฉาด ฟ้า ส้ม ชมพู เขียว กันเป็นแถว ด้วยหวังว่า..สีจะช่วยให้เด็กอยากเรียน ช่วยกระตุ้นต่อมใต้สมอง ผมก็ว่าสวยดี แต่ที่โรงเรียนผมยังไม่ได้ทา ไม่มีภารโรงจะช่วยทา และเห็นว่าทำเรื่องอื่นจะดีกว่า..

เรื่องอื่นที่ว่า..มีอะไรบ้าง..ที่จะช่วยให้นักเรียนมีพัฒนาการทางการเรียน..ก็คงบอกให้ครูใช้สื่อการสอน ใช้ใบงานมากขึ้น ขณะเดียวกัน บรรยากาศห้องเรียนก็จะต้อง สะอาด เรียบร้อย และสดใสสวยงาม

คราวนี้..ทางต้นสังกัด จะเน้นให้มีสื่อ เทคโนโลยี่ ภายในห้องครบครัน..อันนี้ก็มองว่าคงพร้อมยากสักหน่อย เพราะเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่ได้มีคอมพิวเตอร์มากมาย ผมจึงพยายามมองว่า BbL เขาพูดถึงเรื่องอะไร และมีอะไรที่มีแล้ว ทำแล้ว..แบบไม่ต้องใช้งบมาก

เขาบอกว่า..ต้องให้เด็กเล่นและเล่นอย่างสร้างสรรค์ มีวัสดุอุปกรณ์ช่วย มีสนามเด็กเล่น ถ้าเด็กได้ออกกำลังกาย ได้ผ่อนคลาย จะช่วยให้สมองทำงานได้ดี ผมยังไม่มีสนามเด็กเล่นดีๆ จึงให้นักเรียนวิ่งเล่นด้วยกีฬาพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้าน ทั้งสนุกและได้ย้อนยุค บางวันก็สอดแทรก ให้นักเรียนทุกชั้น..ทำกายบริหารมือเปล่า ประกอบเพลงโรงเรียน

นักเรียนที่โตขึ้นมาหน่อยก็ฝึกกายบริหารแม่ไม้มวยไทย ประกอบเพลงลูกทุ่ง ให้ได้เหงื่อกันพอสมควร เขาบอกว่า..ถ้าเด็กได้เคลื่อนไหว จะช่วยให้ความคิดคล่องแคล่ว เรียนรู้ไม่ง่วงไม่ซึม

ถ้าใครยังจำได้.หลักสูตรเก่าๆ จะระบุ ให้มีการนำเข้าสู่บทเรียน ด้วย เพลง เกม นิทาน ร้องรำทำเพลง เพื่อให้เด็กเกิดความคิดรวมศูนย์ เตรียมความพร้อม ให้เกิดสมาธิ และเรียกร้องความสนใจให้เกิดขึ้น ระหว่างครูและนักเรียน..ขณะที่เรียนให้เด็กได้พูด อภิปราย ได้เคลื่อนไหวไปมา.ไม่นั่งอยู่กับที่ มีบทบาทสมมุติ.แบบนี้ครูเก่าๆ จะได้ทำมาก่อนหน้านี้นานแล้ว..

ที่ผมกล่าวมา ไม่มีใครพูดถึงมานาน วันนี้ BbL นำมากล่าวถึง และสานต่อ ผมจึงมองว่าไม่ใช่ของใหม่..แต่เอาทฤษฎีเก่ามาปัดฝุ่น ทำต่อยอด..ทำให้เป็นนโยบายที่จริงจังมากขึ้น

ดนตรี กับ BbL..เป็นเรื่องที่กล่าวถึง และให้ความสำคัญ ลำดับต้นๆ ที่มีส่วนตอบสนองการเจริญเติบโตของสมองในทางบวก ..ในความคิดของผม เพลงและดนตรี อยู่คู่กับโรงเรียน อยู่คู่กับครูไทย มาอย่างยาวนานมาก แต่ช่วงหลังเราละเลย ไปให้ความสำคัญกับสื่อICT และการประเมินความเป็นเลิศกัน..

มาถึงจุดนี้..ผมจึงไม่วิตกกังวล เพราะให้นักเรียนร้องเพลงกันทุกวัน และเล่นดนตรีกันทุกคน ได้อะไรดีๆกับดนตรีเยอะ ช่วยปรับบุคลิกและพฤติกรรมผู้เรียน ตลอดจน..ทำให้นักเรียนพร้อมที่จะเรียนรู้ และเรียนรู้ได้เร็วขึ้น

เอาเถอะ..BbL ..มาอีกแล้ว ก็ว่ากันไป..ให้ความสำคัญแก่ผู้เรียนน่ะดีอยู่แล้ว แต่ถ้ามีวิธีการดีๆออกมา แต่ครูไม่สอน ไม่ตระหนัก..วิธีสอนหรืกระบวนการใด ก็ช่วยไม่ได้ครับ

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘

</span></strong></strong>

หมายเลขบันทึก: 590654เขียนเมื่อ 30 พฤษภาคม 2015 20:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2015 20:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

Ummmh... Brain+Fun+X => learning X ; by this equation we could make Brain = 0 and Fun = 0 and still have X learned, could we not? ;-)

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท