...............เมื่อเล่าถึงกลุ่มเยาวชนฮักนะเชียงยืน ปีที่ 3 ซึ่งผมในบทบาทของ Coach คนหนึ่ง ในโครงการของเด็กๆ ผมเองได้คอยเสริมศักยภาพในตัวของเด็กมาตั้งเเต่ฮักนะเียงยืนปีที่ 2 ซึ่งในช่วงปีที่ 1 เเละปีที่ 2 นั้น เราใช้ชื่อโครงการลดมลพิษ ฟื้นชีวิตดิน ต่อมาในปีที่ 3 นี้ได้เปลี่ยนเป็นโครงการสองวัย ใส่ใจสิ่งเเวดล้อม เพราะเสียงสะท้อนจากการคุยกัน เห็นว่าเป้าหมายในช่วงปีนี้ต้องปรับให้เล็กลงเเล้วสามารถทำได้จริง
...............เมื่อได้กำหนดเป้าหมายโครงการ คือ เน้นการให้เด็กๆเเละผู้ปกครองเรียนรู้ร่วมกัน จากภูมิปัญญาชุมชนดั้งเดิมของตนเอง (ส่วนทางพี่ๆเเละโครงการคอยเสริมศักยภาพเด้กอีกเเรงอยู่วงนอก) กำหนดเป้าหมายเเล้ว กำหนดจุดประสงค์ที่ร้อยเรียงกัน เเล้วเขาก็ระดมความคิดเห็นกันออกเเบบกิจกรรมที่เขาพอสามารถทำได้ ซึ่งก็ผ่านวงคุยที่ประกอบด้วย น้องๆแกนนำ พี่ๆ เเละครูเพ็ญศรี ซึ่งมีวิธีการดำเนินงาน คือ การศึกษาข้อมูลภูมิปัญญาชุมชน การจัดตั้งกลุ่มครอบครัวเกษตรปลอดภัย การการจัดสองวัยใส่ใจสิ่งเเวดล้อม เเละการเปิดตลาดเขียวในชุมชน ซึ่งจากกระบวนการต่างๆนั้น มีเเกนนำในการขับเคลื่อนหลักในปี 3 ได้เเก่ โย ทราย เเฟ้ม เกมส์ โอ วิน ฯ ซึ่งผมเองในบทบาของโค้ชคนนึงเห็นการเปลี่ยนแปลงของเขาอีกทรรศนะ
...............เด็กกลุ่มนี้ เเต่ก่อนเป็นคนที่ไม่กล้าเเสดงออกทางการพูด ทางความคิด เเละการกระทำ ต่อเวทีสาธารณะ มักเขินอาย เป็นส่วนใหญ่ ในด้านของทักษะทางด้านการทำงาน ทักษะการดำเนินชีวิต ทักษะการเเก้ปัญหา ทักษะการเรียนรู้ บางคนยังน้อย เเละในด้านของความรู้ เรื่องบ้นตนเอง เเละความรู้ในเชิงการเกษตรยังมีน้อย เมื่อพวกเขาผ่านกระบวนการทางโครงการปลูกใจ รักษ์โลก เเละกระบวนการในโครงการสองวัยใส่ใจสิ่งเเวดล้อม เห็นผลดังนี้
1.ด้านทักษะ ข้อนี้เห็นชัดที่สุดจากการทำงาน จากที่เขาจัดค่ายด้วยตนเอง พบว่าเขามี ทักษะได้เเก่
2.ด้านความรู้ ข้อนี้ เป็นสิ่งที่ระหว่างการทำโครงการเขาได้เรียนรู้ความรู้ที่จำเป็นต่อการพัฒนางานไปร่วมด้วย ได้เเก่
3.ด้านพฤติกรรม ข้อนี้เป็นข้อสังเกตจากผมเอง ที่คอยติดตาม พวกเขาอยู่ห่างๆ
...............ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมาในช่วงปีที่ 3 นี้ ผลที่เกิดขึ้นต่อตัวของชุมชน สำคัญ คือ ผู้ปกครองอย่างน้อย 8-15 คนอยากให้เด็กๆทำโครงการนี้ต่อไปเเละจะคอยสนับสนุนอีกเเรง ส่วนผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน ก็มีความหวังอยากให้ลูกของตนเองมีความรู้ ทักษะเเละกระบวนการ เเบบนี้ ช่วงปีนี้เป็นรุ่นที่ 3 สำหรับ กลุ่มเยาวชนฮักนะเชียงยืน ซึ่งจะเดินต่อไปหรือไม่นั้น "ข้อนี้เป็นโจทย์ ให้เด็กๆใคร่ครวญกันต่อไป" ...
ชื่นชมครับ... ระยะทาง ระยะเวลา คือบทพิสูจน์ที่น่าชื่นใจ
ความเป็น Coach ถือเป็นปัจจัยสำคัญมากๆ ครับในการสร้างและหล่อหลอมสิ่งอันดีงามให้กับผู้คนในองค์กร-ชุมชน
ให้กำลังใจครับ