abacus
นางอาพร อาร์ ประทุมทอง มณีนิล

บัวบก แก้ผิวลาย ลบเลือนตีนกา


มีคนบอกว่า เมื่ออกหักรักคุดให้ไปกินน้ำบัวบกแก้ช้ำใน ในความเป็นจริงนั้นบัวบกสามารถแก้ช้ำในได้จริง แต่เป็นช้ำในจากการบาดเจ็บ แต่อาการอกหักนั้นเป็นการช้ำในของจิตใจ ซึ่งบัวบกไม่สามารถแก้ได้ ต้องแก้ด้วยการทำใจ มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า ทำไมคนโบราณถึงแนะนำคนอกหักให้ดื่มน้ำบัวบก เพราะมีสรรพคุณบำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง และลดอาการเครียดจากภาวะซึมเศร้าได้ ดังนั้นเมื่อคนอกหักดื่มจึงรู้สึกสดชื่น นับเป็นความฉลาดของบรรพบุรุษนั่นเอง

คนไทยคุ้นเคยกับบัวบก เพราะใช้เป็นผักสดได้โดยกินคู่กับผัดไทย ลาบ เป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือนำไปคั้นเป็นน้ำบัวบกใส่น้ำแข็งเติมน้ำตาลนิดหน่อย อร่อยอย่าบอกใครเลย บัวบกกลับมามีบทบาทอีกครั้ง เรื่องการรักษาแผลต่าง ๆ และลดรอยแผลเป็น ผลิตเป็นครีมโดยได้มีการศึกษาวิจัยในผู้ป่วยที่มีแผล พบว่าสามารถสมานแผล ทำให้แผลหายเร็ว จึงมีการใช้บัวบกกันอย่างแพร่หลาย ครีมบัวบกหรือมีต้นบัวบกอยู่ที่บ้านสามารถใช้ได้หากโดนท่อไอเสียหรือมีบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เพราะบัวบกมีสรรพคุณรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้ วิธีใช้ คือ นำต้นสดมาล้างให้สะอาด ต้องล้างหลาย ๆ ครั้งเพราะบัวบกเป็นพืชที่อยู่ติดดิน จากนั้นนำไปตำให้ละเอียดและโปะบนบาดแผล นอกจากช่วยลดรอยแผลเป็นแล้วยังช่วยสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย นอกจากนี้บัวบกยังช่วยกระตุ้นความจำได้เป็นอย่างดี เพราะเกิดจากสรรพคุณที่ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดี จึงเหมาะสำหรับท่านที่ต้องใช้สมองมากหรือที่กำลังอยู่ในวัยทอง แต่มีข้อควรระวังคือ ถ้าเป็นคนธาตุเย็นไม่ควรกิน เนื่องจากบัวบกเป็นยาเย็น แต่มีบางตำรากล่าวไว้ว่า ให้กินบัวบกกับพริกไทย เท่านี้ก็จะไม่เกิดผลข้างเคียงอะไรต่อคนธาตุเย็น อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรกินบัวบกติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะมีผลต่อตับได้ และไม่ควรกินร่วมกับยาขับปัสสาวะหรือยาที่มีผลข้างเคียงทำให้ง่วงนอน เพราะจะเสริมฤทธิ์กันได้ ที่สำคัญ บัวบกเพิ่มระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือด ทำให้ประสิทธิภาพของยารักษาเบาหวานและไขมันในเลือดลดลง ดังนั้นคนไข้เบาหวานและไขมันในเลือดสูงจึงไม่ควรกินบัวบก

การนำน้ำบัวบกมาเช็ดที่ใบหน้าเช้าและก่อนนอน ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก เชื่อว่าช่วยลดรอยเหี่ยวย่นและรอยตีนกาได้ เนื่องจากบัวบกมีสรรพคุณกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สวยด้วยสมุนไพรไทย ทั้งประหยัด ปลอดภัย และได้ผลดี

คำสำคัญ (Tags): #anw
หมายเลขบันทึก: 590240เขียนเมื่อ 15 พฤษภาคม 2015 13:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2015 13:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท