วันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๘ ผมไปเป็นวิทยากรขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา ณ โรงเรียนเทศบาลโพธิ์ศรี ตามคำเชิญของ ผอ.ดารณี ท่านกำลังขับเคลื่อนฯ โรงเรียนสู่ โรงเรียนวิถีพุทธ ผมเตรียมตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่นาน ก็มั่นใจที่จะทำงานนี้ได้ เหมือนกับที่ ผอ. ท่านให้โอกาส ผมตีความว่าสิ่งที่ผมขับเคลื่อนฯ ผ่านมานั้นมีรากฐานเดียวกัน...
จากการอ่านและตีคววาม ผมสรุปว่า โรงเรียนวิถีพุทธคือโรงเรียนใดๆ ที่นำเอาหลักพุทธธรรม โดยเฉพาะไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) มาใช้ในทุกๆ ด้านในโรงเรียนทั้งบริหารจัดการ การจัดการเรียนการสอน และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งในและนอกโรงเรียน
หลักธรรมสำคัญที่ผู้บริหารและครูทุกคนต้องรู้คือ
จากการสนทนาและศึกษาข้อมูลฑุติยภูมิ ดูเหมือนว่าบุคลากรด้านการศึกษาในโรงเรียน จะชินกับการกระบวนทัศน์การขับเคลื่อนด้วยวิธี "สร้างเกณฑ์" และ "ประเมินตามเกณฑ์" ของ สพฐ. สังเกตจากแนวทางการขับเคลื่อนฯ ที่เริ่มต้นจากการเอา "เกณฑ์" ๒๙ ตัวชี้วัด มาจัดแบ่งมอบหมายเป็นหน้าที่และวิถีในการปฏิบัติ .... ผมตีความว่าวิธีการขับเคลื่อนแบบนี้ ก็ไม่เสียหายใดๆ หากแต่ต้องทำให้ผู้บริหารและครูทุกคนเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริงและความเชื่อมโยงของเกณฑ์แต่ละข้อกับชีวิต "วิถีพุทธ" จริงๆ ... ผมตีความว่า นี่คือหน้าที่ของผมในการเป็น "วิทยากร" ในวันนั้น
เกณฑ์ ๒๙ ตัวชี้วัด สู่โรงเรียนวิถีพุทธ
เกณฑ์ทั้งหมด ๒๙ ตัวชี้วัด แบ่งเป็น ๕ ด้าน ได้แก่ ด้านกายภาพ ด้านพฤติกรรมครูและนักเรียน ด้านการเรียนการสอน ด้านกิจกรรมวันพระ และด้านกิจกรรมเสริมวิถีพุทธ แต่ละด้านมีเกณฑ์ย่อยๆ แตกออกไป ดังแผนผังด้านล่าง ซึ่งคัดลอกจากผลการสังเคราะห์จากโรงเรียนวิถีพุทธ ๑๐๐ แห่ง ที่ทางโครงการฯ นำออกเผยแพร่เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนโรงเรียนวิถีพุทธ (คลิก ที่นี่)
หากมองใหม่ ในแว่นของ "เหตุ" และ "ผล" ผมตีความว่าสมมติฐานของการขับเคลื่อนฯ ที่สอดคล้องกับทฤษฎีการเรียนรู้สำคัญๆ ที่ถือเป็น "เหตุ" ที่จะทำให้ "ผล" เป็นคนดี น่าจะมี ๕ ประการดังนี้
คำว่า "คนดี" ในที่นี้คือคนที่มีคุณลักษณะดังต่อไปนี้
ผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ของโรงเรียนวิถีพุทธ
การศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์ขอโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ (คลิก ที่นี่) ผมพบว่า ผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ของโครงการโรงเรียนวิถีพุทธนั้น มีขอบเขตกว้างขวางและลึกซึ้งกว่า "เกณฑ์ ๒๙ ตัวชี้วัด" ที่กล่าวมาพอสมควร ดังจะขอตีความเป็นข้อๆ ตามหลักการขับเคลื่อนของโครงการ ต่อไปนี้
ผลลัพธ์ที่แท้จริงของโครงการฯ คือ การปลูกฝังบ่มเพาะให้นักเรียนเป็น "คนดี" ในที่นี้คือคนดีวิถีพุทธ นั่นคือ คนที่มี "ศีล สมาธิ และปัญญา" ซึ่งทางผู้บุกเบิกนำเสนอไว้ที่ www.vitheebuddha.com/files/download/vitheebud.ppt ดังนี้
ผมพิจาณาว่า "เกณฑ์ ๒๙ ข้อ" ส่งเสริมให้เกิดเพียง "ศีล" และประเมินได้เฉพาะบางมิติของ "ศีล" และ "สมาธิ" เท่านั้น ในด้าน "ปัญญา" การขับเคลื่อนฯ ตามเกณฑ์ธรรมดา หรือที่รู้กันอยู่ว่า "ขับเคลื่อนเพื่อประเมิน" นั้น ไม่สามารถจะทำให้เกิดผลลัพธ์ขึ้นได้ครบถ้วน
อย่างไรก็ดี ผมคิดว่า เกณ์นี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ สำหรับการปลูกฝังและบ่มเพาะลูกหลานให้สั่งสมบุญซึ่งจะเป็นทุนให้พวกเขาค่อยเข้าใจว่า พระพทธศาสนาสอนอะไร การเป็นพุทธศาสนิกชนจะต้องทำตนหรือฝึกฝนให้เป็นคนอย่างไร...ขอบูชาและอนุโมทนาบุญกับท่านที่บุกเบิกและทำโครงการนี้ครับ ...
การขับเคลื่อนโรงเรียนวิถีพุทธที่ถูกวิธี
ต่อไปนี้เป็นเพียงความเห็นความคิด จากประสบการณ์ชีวิตของผมเท่านั้นนะครับ ผมเสนอว่า การขับเคลื่อนควรจะคำนึงถึงจุดเริ่มต้นหรือปัจจัยที่จำเป็นต่อไปนี้
ในการฝึกอบรมครั้งนี้ ผมใช้วิธีชวนคุย และอภิปรายกันในประเด็นต่างๆ เพื่อให้ผู้บริหารและครูรู้และเข้าใจ เรื่องศีล สมาธิ ปัญญา (อันหลังวิเคราะห์ตามตำรา) สลับกับการเล่าเรื่องชาดกเพื่อยกตัวอย่างต่างๆ จากที่ได้เคยฟังมาจากเทปธรรมะของพ่อแม่ครูอาจารย์ต่างๆ เช่น
ขอจบฮ้วนๆ เท่านี้นะครับ
ดูรูปทั้งหมด ที่นี่
บันทึกดีมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ ที่นำมาแบ่งปัน