สุขจากความพอเพียง


คนเราถ้ามีความพอ เราจะไม่มีทุกข์ เพราะทุกข์ของคนส่วนใหญ่ทุกวันนี้ไม่ใช "ทุกข์จากการไม่มี" แต่เป็น "ทุกข์จากการไม่พอ"

เมื่อไม่พอก็ต่างดิ้นรนขวนขวาย แสวงหา เมื่อไม่มีแต่อยากได้ก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามา อันเป็นต้นเหตุของปัญหาที่เรื้อรัง

เศรษฐกิจพอเพียง เริ่มต้นจากจิตใจที่เพียงพอ

เป็นผู้ชายก็พอใจในความเป็นผู้ชาย เป็นผู้หญิงก็พอใจในความเป็นผู้หญิง ไม่ต้องไปขวนขวายเปลี่ยนแปลงเพศตนเองแต่อย่างใด

หน้าตาหล่อเท่านี้ก็พอ รูปร่างสวยเท่านี้ก็พอ ไม่ต้องขวนขวายไปแต่งแต้ม ต่อเติม เพิ่มเติมด้วย "ศัลยกรรม"

ถ้าเราไม่รู้จักพอก็เจ็บแล้ว เจ็บอีก เจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ

มีรถคันหนึ่งพอขับได้และปลอดภัย เท่านี้ก็พอ ไม่ต้องตั้งตารอรถคันใหม่ ที่จะไปขับอวดโฉบเฉี่ยว โชว์ฐานะ ความภูมิฐาน

คนเรามันมีแต่ที่จะแข่งขันกัน แข่งในลาภ ยศ สรรเสริญ อำนาจ วาสนา ไม่มีก็ขวนขวายให้ได้มา เพื่อความเชิดหน้าชูตาของตนเอง

ทำอย่างไรจิตใจถึงจะพอเพียง..?

เริ่มต้นจากความคิด จิตใจต้องไม่มีความหลงและความโลภ เพราะเมื่อหลง เมื่อโลภแล้ว ไม่ได้ตามความปรารถนาก็จะมีความโกรธตามมาเป็นเงาตามตัว

ทำอย่างไรที่จะไม่หลง ไม่โลภ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโกรธ

เราต้องมีสติสัมปชัญญะที่เข้มแข็ง ต้องมีสมาธิที่แข็ง

"สติสัมปชัญญะ เป็นสิ่งที่ต้องสร้าง สมาธิเป็นสิ่งที่ต้องฝึก"

ฝึกหายใจเข้าสบาย หายใจออกสบาย มีสติสัมปชัญญะอยู่กับลมหายใจ

เมื่อเรามีอะไรมากระทบแล้ว "อยาก" ที่จะได้ ต้องกลับสติกลับมาอยู่กับกาย นำสัมปชัญญะกลับมาอยู่กับลมหายใจ

ให้ใจเย็นก่อน แล้วค่อยคิด ค่อยพิจารณา อย่าทำตามสัญชาตญาณ

สัญชาตญาณของคนเรามันมักฉุดลงไปในทางต่ำ ตอบสนองกิเลส ตัณหา และราคา

เราต้องฝึกสมาธิในทุก ๆ อิริยาบถ ไม่ว่าจะเดิน ยืน นั่ง นอน ต้องฝึกหายใจเข้าออกให้สบาย มีความสุขอยู่กับลมหายใจ อย่าไปมีความสุขอยู่กับการได้มาซึ่ง "วัตถุ"

ถ้าเราวิ่งตามวัตถุ วิ่งตามเท่าไหร่ก็ไม่มีวันพอ เพราะกิเลสมันจะสานต่อความอยากไปเรื่อย ๆ

สมาธิเป็นสิ่งที่จำเป็น เป็นบาทฐานสำคัญของความพอเพียง

ถ้ามีสมาธิเราจะมีความสุข เพราะเรามีเครื่องป้องกันใจไม่ให้ไหลไปตามความอยาก...

หมายเลขบันทึก: 589290เขียนเมื่อ 24 เมษายน 2015 13:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน 2015 13:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

มีสมาธิ....เราจะมี ความสุข เพราะเรามีเครื่องป้องกันใจไม่ให้ไหลไปตามความอยาก ... เป็นความจริง ค่ะ

พอเพียงในความสุข...

มีความสุขเท่านี้ก็พอแล้ว ได้กินข้าวให้อิ่มท้อง ไม่ได้กินของแพง ของมีราคา กินของที่ใช้เชิดหน้าชูตา

มีบ้านสักหลัง ที่มีความรัก ความเมตตา ความอบอุ่น ให้แก่กันและกัน

ทายกายภาพของบ้าน ป้องกันแดด กันฝน กันภัยอันตรายต่าง ๆ ได้

ถ้าจิตใจของคนรู้จัก "พอ" อยู่ที่ไหนก็มีความสุข

ที่เราไม่พอ เพราะชอบจับจ้องมองดูผู้อื่น คนดีกว่า รวยกว่า สวยกว่า ดีกว่า เมื่อเรานำเราไปเปรียบเทียบ ความสุขก็เกิดทุกข์

คิดว่าเราดีกว่าเขาก็หลง คิดว่าเราด้อยกว่าเขาก็ทุกข์ หรือแม้แต่คิดว่าเสมอเขาก็ยังอยากจะดีจะเด่นกว่า

การแสวงหาวัตถุ หาเท่าไหร่ก็ไม่พอ ถมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม

เราต้องนำสมาธิมาถมใจของเรา ใจของเราถึงจะเต็ม เต็มอิ่มด้วยความพอ แล้วเราจะมีความสุขที่ "พอเพียง"

สมาธิต้องฝึกทุกวัน ในหนึ่งวันต้องฝึกหลาย ๆ ครั้ง แต่ทุก ๆ ครั้งต้องตั้งใจ

การเจริญสติสัมปชัญญะเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เพราะเราจะไปปฏิเสธสิ่งแวดล้อมไม่ได้ ปฏิเสธสังคมไม่ได้

รูป เสียง กลิ่น รส ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นสิ่งธรรมดาของโลก เมื่อเราอยู่ในโลกมันก็ต้องเจออย่างนี้ จุดสำคัญก็คือ เราจะอยู่ในโลกนี้อย่างไร ไม่ให้โลกนี้ทำร้าย ทำลายเราได้

สิ่งภายนอกทุกอย่างนั้นไม่มีปัญหา ถ้าใจของเราไม่มีปัญหา

ต้องฝึกใจ พัฒนาใจ ใช้สติ ใช้สมาธิ ที่แข็งแกร่ง แข็งแรง แล้วเราจะอยู่ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุข

สาธุ...

คนเราถ้ามีความพอ เราจะไม่มีทุกข์ เพราะทุกข์ของคนส่วนใหญ่ทุกวันนี้ไม่ใช "ทุกข์จากการไม่มี" แต่เป็น "ทุกข์จากการไม่พอ".....

ชอบใจการได้ฝึกตนของเยาวชนครับ

ขอบคุณมากๆครับ

สบายดีไหมตอนนี้อยู่เชียงใหม่ใช่ไหมครับ

ไม่ได้ข่าวนานมากๆครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท