ในมุมมองของ….ครูมะเดื่อ….ตอนที่ ๕ "ทฤษฎีบริหารการศึกษา : ตีให้แตกแล้วแยกปกครอง


ไม่มีโรงเรียนไหนดีถ้า...ผู้บริหาร..แย่ ไม่มีโรงเรียนไหน..แย่...ถ้าผู้บริหาร....ดี


อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญสำหรับการบริหารงานบุคคลก็คือ " คำพูด" ผู้บริหารที่มีภาวะผู้นำ

ย่อมรู้จักใช้คำพูดที่ก่อให้เกิดพลังและสร้างขวัญ กำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา

และระมัดระวังคำพูดที่จะใช้กับผู้ใต้บังคับบัญชา


ถึงแม้ระบบการบริหารองค์กรจะมีบรรยากาศที่เป็นประชาธิปไตย หรือแบบเครือญาติ

ก็ตามที แต่ผู้บริหารก็ต้องใช้คำพูดที่ผู้ใต้บังคับบัญชาให้ความเชื่อถือ เคารพ ยำเกรง

มิใช่จะใช้คำพูดตามใจ ตามอารมณ์ของตน จนบางครั้งอาจก่อให้เกิดผลเสียแก่องค์กร

และขาดความเคารพนับถือจากผู้ใต้บังคับบัญชาหรือบุคคลทั่วไปอย่างคาดไม่ถึง


คำพูดแบบเป็นกันเอง ก็ควรจะเป็นแบบผู้ใหญ่พูดกับเด็ก หรือไม่ล่วงเกินอีกฝ่าย

จนทำให้กลายเป็นลามปามเกิดพอดี โดยเฉพาะผู้บริหารที่เป็นชาย ก็ไม่ควรใช้

คำพูดที่เป็นแบบ " สองแง่สองง่าม" กับลูกน้องที่เป็นหญิง เพราะนอกจากจะไม่

เป็นการให้เกียรติกันแล้ว ยัง " ส่อถึงนิสัย" หรืออาจจะส่อถึง " นิสัยถาวร"

ของผู้บริหารอีกด้วย



มีกรณีศึกษาเกี่ยวคำพูดอยู่เรื่องหนึ่ง (เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย) เมื่อครูอัตราจ้าง

หญิงคนหนึ่ง ขออนุญาตผู้บริหารเพื่อพาแม่ไปโรงพยายาลตามที่หมอนัด เพื่อ

เจาะเลือดตรวจหาน้ำตาลในเลือด เมื่อเอ่ยปากขออนุญาต ท่านผู้บริหาร

ก็ตอบว่า.....

" ไปเจาะเลือดเหรอ เจาะมากไหม ต้องเจาะเลือดออกให้มาก ๆ นะ

ไม่งั้น ......เลือดชั่่ว....มันจะออกไม่หมด "............

มิตรรักแฟนเพลงของคุณมะเดื่อ อ่านกรณีศึกษานี้แล้ว ท่านคิดว่าอย่างไร....

แน่นอนผู้บริหารคนนี้พูดเล่น แต่ คำพูดแบบนี้สมควรที่จะพูดกับลูกน้อง

หรือคนทั่วไปหรือไม่.....สมควรไหมกับการล่วงเกินไปถึงบุพการีของผู้อื่น



อีกสักกรณีศึกษาหนึ่ง.......ผู้บริหารถามผู้ปกครองซึ่งเป็นแม่ของนักเรียนชาย

คนหนึ่งที่เป็นเด็กเรียนอ่อนที่สุดในชั้นว่า.......

............"เรียนหนังสือหรือเปล่า" ผู้ปกครองที่เป็นแม่ของเด็กตอบว่า

..........." เรียนสิ.....จบ ป.๔ แต่ เกือบไม่ได้เรียน เพราะครอบครัวยากจนมาก".......

ผู้บริหารคนนั้นพูดต่อความไปว่า.....

........." นั่นสิ.....ถึงได้โง่เหมือนลูก..." ...........................




ทั้งสองกรณีศึกษา.....มาจากเรื่องจริง.....ลองคิดดูสิว่า คำพูดแบบนี้สร้างศรัทธาหรือ

สร้างความ.......เสื่อมศรัทธา ..... ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา และบุคคลทั่วไป......

อย่าลืมว่า.....เรื่องอย่างนี้ คำพูดของคนที่เป็นถึงผู้บริหารองค์กรจะรู้กันเพียงสองคน

คือระหว่างผู้บริหาร กับลูกน้อง หรือผู้ปกครองที่สนทนาด้วยเท่านั้น.....แต่ย่อมจะ

กระจายไปถึงไหนต่อไหนรวดเร็วายิ่งกว่าไฟไหม้ฟางเสียอีก



ผู้บริหารพึงระลึกไว้เสมอว่า " คำพูด " ทุกคำของท่าน เป็นได้ทั้งการสร้างศรัทธา

และสร้างความ " เสื่อมศรัทธา" ได้ในเวลาเดียวกัน ขึ้นอยู่กับ ....ผู้บริหารจะมี"สติ"

ยังคิดได้มากน้อยเพียงใด......


โปรด......ติดตามตอนต่อไปจ้ะ


อันวาจา เรานั้น สำคัญนัก

สร้างคนรัก คนชัง ได้ดังว่า

บริหาร งานดี ด้วยวาจา

หรืองานพัง ไม่เป็นท่า....เพราะคำตน



หมายเลขบันทึก: 589061เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2015 22:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 ธันวาคม 2015 22:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

จริงครับครูมะเดื่อ...มีมากซะด้วยผอ.แบบนี้ อีโกพลัสไร้มารยาท แถมขาดจริยธรรม

หวัดดีจ้ะลุงวอ อย่าลืมแจ้งเวลา รถไฟจอดที่เมืองสามอ่าว ๑๙ เมษา เวลานัดหมายด้วยนะจ๊ะ

สวัสดีจ้ะอาจารย์ ส. ใช่จ้ะ ผู้บริหารแบบนี้ นับวันแต่จะขยายพันธุ์มากยิ่งขึ้น เมืองไทยจึงต้องปฏิรูปทุกระบบไงจ๊ะ....แต่จะได้ผลหรือไม่....ไม่มีใครตอบได้หรอกจ้ะ ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันจ้ะ

............"เรียนหนังสือหรือเปล่า" ผู้ปกครองที่เป็นแม่ของเด็กตอบว่า

..........." เรียนสิ.....จบ ป.๔ แต่ เกือบไม่ได้เรียน เพราะครอบครัวยากจนมาก".......

ผู้บริหารคนนั้นพูดต่อความไปว่า.....

........." นั่นสิ.....ถึงได้โง่เหมือนลูก..." ...........................


คำพูดแบบนี้ไม่น่าจะออกจากปากคนที่ได้ชื่อว่าเป็น"ผู้บริหาร" นะคะ

สวัสดีจ้ะคุณอร เป็นความจริงจากปากของผู้ปกครองคนนั้น ที่เล่าให้คุณมะเดื่อฟังเองจ้ะ หากได้ยินจากคนอื่น ก็คงไม่เชื่อเหมือนกันจ้ะ ขอบคุณที่มาทักทายและให้กำลังใจกันนะจ๊ะ

ไม่ใช่แค่เร็วเหมือนไฟไหม้ฟางอย่างเดียว...
หากแต่ทิ้งเป็นเถ้าถ่านประจานไว้ยาวนานไม่ใช่ย่อยเลยครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท