อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญสำหรับการบริหารงานบุคคลก็คือ " คำพูด" ผู้บริหารที่มีภาวะผู้นำ
ย่อมรู้จักใช้คำพูดที่ก่อให้เกิดพลังและสร้างขวัญ กำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
และระมัดระวังคำพูดที่จะใช้กับผู้ใต้บังคับบัญชา
ถึงแม้ระบบการบริหารองค์กรจะมีบรรยากาศที่เป็นประชาธิปไตย หรือแบบเครือญาติ
ก็ตามที แต่ผู้บริหารก็ต้องใช้คำพูดที่ผู้ใต้บังคับบัญชาให้ความเชื่อถือ เคารพ ยำเกรง
มิใช่จะใช้คำพูดตามใจ ตามอารมณ์ของตน จนบางครั้งอาจก่อให้เกิดผลเสียแก่องค์กร
และขาดความเคารพนับถือจากผู้ใต้บังคับบัญชาหรือบุคคลทั่วไปอย่างคาดไม่ถึง
คำพูดแบบเป็นกันเอง ก็ควรจะเป็นแบบผู้ใหญ่พูดกับเด็ก หรือไม่ล่วงเกินอีกฝ่าย
จนทำให้กลายเป็นลามปามเกิดพอดี โดยเฉพาะผู้บริหารที่เป็นชาย ก็ไม่ควรใช้
คำพูดที่เป็นแบบ " สองแง่สองง่าม" กับลูกน้องที่เป็นหญิง เพราะนอกจากจะไม่
เป็นการให้เกียรติกันแล้ว ยัง " ส่อถึงนิสัย" หรืออาจจะส่อถึง " นิสัยถาวร"
ของผู้บริหารอีกด้วย
มีกรณีศึกษาเกี่ยวคำพูดอยู่เรื่องหนึ่ง (เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย) เมื่อครูอัตราจ้าง
หญิงคนหนึ่ง ขออนุญาตผู้บริหารเพื่อพาแม่ไปโรงพยายาลตามที่หมอนัด เพื่อ
เจาะเลือดตรวจหาน้ำตาลในเลือด เมื่อเอ่ยปากขออนุญาต ท่านผู้บริหาร
ก็ตอบว่า.....
" ไปเจาะเลือดเหรอ เจาะมากไหม ต้องเจาะเลือดออกให้มาก ๆ นะ
ไม่งั้น ......เลือดชั่่ว....มันจะออกไม่หมด "............
มิตรรักแฟนเพลงของคุณมะเดื่อ อ่านกรณีศึกษานี้แล้ว ท่านคิดว่าอย่างไร....
แน่นอนผู้บริหารคนนี้พูดเล่น แต่ คำพูดแบบนี้สมควรที่จะพูดกับลูกน้อง
หรือคนทั่วไปหรือไม่.....สมควรไหมกับการล่วงเกินไปถึงบุพการีของผู้อื่น
อีกสักกรณีศึกษาหนึ่ง.......ผู้บริหารถามผู้ปกครองซึ่งเป็นแม่ของนักเรียนชาย
คนหนึ่งที่เป็นเด็กเรียนอ่อนที่สุดในชั้นว่า.......
............"เรียนหนังสือหรือเปล่า" ผู้ปกครองที่เป็นแม่ของเด็กตอบว่า
..........." เรียนสิ.....จบ ป.๔ แต่ เกือบไม่ได้เรียน เพราะครอบครัวยากจนมาก".......
ผู้บริหารคนนั้นพูดต่อความไปว่า.....
........." นั่นสิ.....ถึงได้โง่เหมือนลูก..." ...........................
ทั้งสองกรณีศึกษา.....มาจากเรื่องจริง.....ลองคิดดูสิว่า คำพูดแบบนี้สร้างศรัทธาหรือ
สร้างความ.......เสื่อมศรัทธา ..... ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา และบุคคลทั่วไป......
อย่าลืมว่า.....เรื่องอย่างนี้ คำพูดของคนที่เป็นถึงผู้บริหารองค์กรจะรู้กันเพียงสองคน
คือระหว่างผู้บริหาร กับลูกน้อง หรือผู้ปกครองที่สนทนาด้วยเท่านั้น.....แต่ย่อมจะ
กระจายไปถึงไหนต่อไหนรวดเร็วายิ่งกว่าไฟไหม้ฟางเสียอีก
ผู้บริหารพึงระลึกไว้เสมอว่า " คำพูด " ทุกคำของท่าน เป็นได้ทั้งการสร้างศรัทธา
และสร้างความ " เสื่อมศรัทธา" ได้ในเวลาเดียวกัน ขึ้นอยู่กับ ....ผู้บริหารจะมี"สติ"
ยังคิดได้มากน้อยเพียงใด......
โปรด......ติดตามตอนต่อไปจ้ะ
อันวาจา เรานั้น สำคัญนัก
สร้างคนรัก คนชัง ได้ดังว่า
บริหาร งานดี ด้วยวาจา
หรืองานพัง ไม่เป็นท่า....เพราะคำตน
ผู้บริหารโปรดฟังอีกครั้ง
จริงครับครูมะเดื่อ...มีมากซะด้วยผอ.แบบนี้ อีโกพลัสไร้มารยาท แถมขาดจริยธรรม
หวัดดีจ้ะลุงวอ อย่าลืมแจ้งเวลา รถไฟจอดที่เมืองสามอ่าว ๑๙ เมษา เวลานัดหมายด้วยนะจ๊ะ
สวัสดีจ้ะอาจารย์ ส. ใช่จ้ะ ผู้บริหารแบบนี้ นับวันแต่จะขยายพันธุ์มากยิ่งขึ้น เมืองไทยจึงต้องปฏิรูปทุกระบบไงจ๊ะ....แต่จะได้ผลหรือไม่....ไม่มีใครตอบได้หรอกจ้ะ ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันจ้ะ
............"เรียนหนังสือหรือเปล่า" ผู้ปกครองที่เป็นแม่ของเด็กตอบว่า
..........." เรียนสิ.....จบ ป.๔ แต่ เกือบไม่ได้เรียน เพราะครอบครัวยากจนมาก".......
ผู้บริหารคนนั้นพูดต่อความไปว่า.....
........." นั่นสิ.....ถึงได้โง่เหมือนลูก..." ...........................
คำพูดแบบนี้ไม่น่าจะออกจากปากคนที่ได้ชื่อว่าเป็น"ผู้บริหาร" นะคะ
สวัสดีจ้ะคุณอร เป็นความจริงจากปากของผู้ปกครองคนนั้น ที่เล่าให้คุณมะเดื่อฟังเองจ้ะ หากได้ยินจากคนอื่น ก็คงไม่เชื่อเหมือนกันจ้ะ ขอบคุณที่มาทักทายและให้กำลังใจกันนะจ๊ะ
ไม่ใช่แค่เร็วเหมือนไฟไหม้ฟางอย่างเดียว...
หากแต่ทิ้งเป็นเถ้าถ่านประจานไว้ยาวนานไม่ใช่ย่อยเลยครับ