จากคำกล่าวของนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง (นพ.ยอร์น จิระนคร) หัวหน้าทีมไตรภาคีร่วมพัฒนาสุขภาพชุมชน และในฐานะนักวิจัยหลักของโครงการนี้ เพื่อเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาหมอนวดแผนไทยตามหลักเวชศาสตร์ฟื้นฟูฯ เมื่อวานนี้ (25 ตุลาคม 2548) ณ ห้องประชุมเทศบาลตะโหมด จังหวัดพัทลุง
โดยท่านได้อันเชิญพระราชดำรัสพระบาทมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้เคยพระราชทานแก่คณะกรรมการมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการไว้ ณ พระราชตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พุทธศักราช 2517 ดังนี้ขึ้นกล่าวนำ “งานช่วยคนพิการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะผู้พิการ ไม่ได้เป็น ผู้อยาก-พิการ ถ้าไม่ช่วยเขาให้สามารถที่จะปฏิบัติงานอะไรเพื่อชีวิตและมีเศรษฐกิจของครอบครัว จึงทำให้เกิด สิ่งที่หนักแก่ครอบครัว หนักแก่ส่วนรวม ฉะนั้นนโยบายที่จะทำ คือช่วยให้เขาช่วยเหลือตัวเอง เพื่อให้เขาสามารถเป็นประโยชน์ต่อสังคม” และให้ถือว่าเป็นแนวนโยบายที่เราจะใช้มาดำเนินการเพื่องานคนพิการ ท่านก็ได้กล่าวต่อว่า “จากที่ได้รับฟังจากการกล่าวรายงานจากท่านนายกเทศมนตรี เมื่อสักครู่ ก็พอจะสรุปได้ว่าพวกเราทั้งหลายที่ประชุมกันอยู่ ณ เวลานี้ ได้มีส่วนร่วมกันดำเนินงานสนองตามพระราชดำรัสดังกล่าวแล้วส่วนหนึ่ง
คำกล่าวต่อไปนี้จะเป็นการสรุปจากใจความสำคัญที่ท่านได้กล่าวถึงไว้นะครับ เช่น การดำเนินงานในวันนี้ก็ได้รับทราบมาว่าเกิดจากการร่วมคิด ร่วมวางแผน จนวันนี้ก็มาร่วมกันทำอีก จากทีมงานไตรภาคีร่วมพัฒนาสุขภาพชุมชน อันประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ 1) ราชการส่วนท้องถิ่น นั่นคือเทศบาลตะโหมด 2) ราชการส่วนภูมิภาค ก็เป็นสถานีอนามัยบ้านเกาะเรียน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอตะโหมด โรงพยาบาลตะโหมด และสำนักกงานสาธารณสุจจังหวัดพัทลุง ส่วนที่ 3) คือภาคเอกชนและประชาชน วันนี้ก็เห็นได้ชัดว่าท่านมีพลังในการดำเนินงานของท่านเองได้แล้วจริง ๆ ขอชื่นชมเครือข่ายหมอนวดแผนไทยอำเภอตะโหมด และที่มาจากอำเภอเขาชัยสน และขอชื่นชมกลุ่มองค์กรประชาชนของชุมชนเกาะเรียนที่เข้มแข็ง ซึ่งน่าจะใช้คำว่าพึ่งพา ดูแลตนเองได้แล้ว สิ่งใด ๆ ที่ท่านทำได้เอง ท้องถิ่นทำได้เอง เมื่อถึงเรื่องที่ท่านทำไม่ได้ ก็จะมีส่วนต่าง ๆ เข้ามาช่วย เพราะท่านได้แสดงออกมาถึงการช่วยตนเองก่อนแล้ว และเหลือปัญหาที่ท่านช่วยตนเองไม่ได้ จึงชัดขึ้น อันนี้ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความเข้มแข็ง
ที่สำคัญผมขอให้ชุมชนเกาะเรียนที่สามารถพึ่งพา ดูแลตนเองได้แล้ว ได้ผ่องถ่ายองค์ความรู้ที่ได้จากการทำงานเป็นทีม จากกระบวนการที่ผ่าน ๆ มาในการพัฒนาสุขภาพชุมชน แก่ชุมชนอื่น แก่เจ้าหน้าที่ และอย่าลืมแก่อนุเยาวชนรุ่นต่อ ๆ ไป ด้วย เพื่อเราจะได้เดินไปสู่สังคมสุขภาวะที่แท้จริงพร้อม ๆ กันต่อไป
สำหรับการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาหมอนวดแผนไทยฯ ในวันนี้ ก็คาดหวังว่าเราจะได้บุคลากรด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นมา และเมื่อผ่านการอบรมแล้วก็จะได้ออกไปช่วยเหลือคนพิการ “ให้ช่วยตัวเองได้” ซึ่งหากได้ประเมินผลหลักสูตรที่ได้จากที่นี่ นำไปปรับให้เหมาะสม ก็จะได้นำไปใช้ในพื้นที่อื่น เพื่อช่วยเหลือคนพิการคนอื่น ๆ ต่อไปอีก จึงถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี หากท่านว่าเรามาช่วยท่าน ก็ไม่ถูกทั้งหมด เพราะสิ่งที่ท่านคิดเป็นการช่วยระบบสาธารณสุข ช่วยสังคม ฉะนั้นเราจึงได้ร่วมกันช่วยสังคมมากกว่า ไม่มีใครช่วยใครกันเป็นส่วนตัวเลย
ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณ เทศบาลตะโหมด ทั้งนายกเทศมนตรี ทีมผู้บริหาร
สมาชิกสภาเทศบาลตะโหมด ผู้มีส่วนร่วมในการจัดการอบรมครั้งนี้ทุกภาคี
และทุกคน และที่สำคัญขอขอบคุณผู้เข้ารับการอบรมทุกท่าน
เพราะท่านคือคนสำคัญที่จะช่วยกันทำให้คนพิการเข้าถึงสิทธิในการรับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการได้อย่างถ้วนหน้ากัน
และขอให้การอบรมที่จะมีขึ้น 10 วัน นับวันนี้ถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน
2548 สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการครับ