ช่วงนี้ตั้งใจตื่นแต่เช้า(ตีห้าครึ่ง)และลุกขึ้นไปเดินออกกำลังกายในกระทรวงฯ.มีคนไปออกกำลังตั้งแต่ยามเช้าเยอะมากเลยดูแล้วไม่น่ากลัว...ขอบคุณผู้ที่คิดให้มีการจัดทำสวนสาธารณะและมีการทำกิจกรรมการออกกำลังกายประเภทต่างๆ อาทิ..โยคะ.รำไทเก็ก -ไม้พลอง...ฉันสนใจกลุ่มรำดอกบัวเพราะชอบดูท่าทางการรำที่อ่อนช้อยเพลงก็เพราะดี..ไม่กระตุกหรือกระตุ้นหัวใจมากเหมือนดนตรีแอโรบิกที่เปิดให้เต้นในบางที่...ที่ในกระทรวงมีกลุ่มรำดอกบัวอยู่สองแห่งด้วยกัน..
กลุ่มที่หนึ่งอยู่ทางด้านที่จอดรถข้างสวนสุขภาพฝั่งติดกับคอร์ดแบดมินตันจะมีอาจารย์ของกรมอนามัยมาเป็นผู้สอนและผู้นำจะรำทุกเช้าตั้งแต่หกโมงเช้าถึงแปดโมงแปดโมงครึ่งเหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการรู้จักเบสิคของการรำดอกบัวเพราะเขาจะเริ่มจากท่าวอร์มอัพจากท่าง่ายไปสู่ท่าที่ซับซ้อนมากขึ้นมีท่าวอร์มอัพเหมือนออกกำลังกายได้เหงื่อเยอะมากและก็ได้สมาธิดีด้วย.
..กลุ่มที่สองจะอยู่ค่อนมาทางประตูที่สี่อยู่ระหว่างกรมสุขภาพจิตกับสภาการพยาบาลมีอาจารย์เด่นและอาจารย์เครือเป็นผู้นำกลุ่ม..กลุ่มนี้ก็เริ่มตั้งแต่เช้าเช่นกันแต่เดิมก็มีสอนก้าวจังหวะเท้าเป็นแบบสี่ทิศ(เบสิคสเต็ป)คล้ายกลุ่มที่หนึ่งอยู่เหมือนกัน แต่เนื่องจากกลุ่มที่สองนี้ส่วนใหญ่สมาชิกจะเป็นผู้เกษียณอายุแล้วและพอที่จะมีพื้นฐานในการรำดอกบัวมาบ้างจึงชอบที่จะฝึกเก็ก(ท่าการรำ)แบบใหม่ๆ.
.ฉันเองเดิมก็จะไปๆมาๆระหว่างรำดอกบัวกลุ่มที่หนึ่งและกลุ่มที่สองแต่ตอนหลังๆนี่จะมารำกับกลุ่มที่สองมากกว่าเพราะคุณพี่ลุงป้าน้าอากลุ่มที่สองนี่หลายคนจะรู้จักมักคุ้นกันดีและตัวอาจารย์เองเวลาที่ไม่มาก็จะฝากถามไถ่ติดตามว่าหายไปไหนเป็นอย่างไร..ซึ่งทำให้ติดใจไม่กล้าหายไปนานอีกอย่างอาจารย์จะชอบหาเพลงหรือมีเก็กใหม่ก็จะนำมาสาธิตให้ดูให้ทำ.
.เวลารำดอกบัวต้องมีสมาธิอยู่กับตัว..ตามองท่าพร้อมๆกับที่เคลื่อนไหวมือและเท้าของเราตามอาจารย์ให้ทัน..หลายท่าที่ฉันนึกขำตัวเองว่าเฮ้อขวาซ้ายนี่มันหลงได้หลงดีจริงๆหนอเราแต่พอเห็นคุณลุงคุณป้าที่มารำ..ผิดถูกก็ไม่มีใครสนใจว่าอะไรกันแถมยังส่งยิ้มขำๆให้กันยามทำท่าผิดฉันก็เลยไม่เครียดแต่กลับสนุกในการทำตามทำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ขอให้เคลื่อนไหวไปด้วยกันกับกลุ่มก็ให้เกิดมิติและความงามที่เห็นได้ในขณะที่ร่ายรำ.
.บางท่าอาจารย์รำอ่อนช้อยมาก..ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่ายเลย..ต้องอาศัยการทรงตัวที่ดีและการมีสมาธิและการหายใจที่ถูกจังหวะกับการเคลื่อนไหว..ได้เหงื่อได้เพื่อน(สูงวัยแต่ใจดีมากๆ)นี่แหละคือกลุ่มรำดอกบัว
ชายขอบ
ขอบคุณที่มาลปรร.ให้เพิ่มเติมด้วยเช่นกันค่ะ..อ่านในจุดที่คุณชายขอบสามารถมองเห็นประโยชน์แฝงและนำมาเชื่อมโยงกับสิ่งที่ทำอยู่ได้..นี่ต้องขอยอมรับว่าลึกซึ้งจริงๆเพราะถ้าเป็นตัวดิฉันเองก็คงมองเห็นแต่เพียงภาพของการมีกลุ่มกิจกรรมกลุ่มหนึ่งที่สมาชิกแต่ละคนเอื้ออาทรต่อกันแค่นั้นเองจริงๆ..ขอบคุณที่มาช่วยขยายไอเดียให้มองเห็นเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่งค่ะ
ป้าเปรี้ยว
คงต้องรอให้อจ.และแก็งค์คุณลุงคุณป้ากลับจากไปเที่ยวงานราชพฤกษ์(เชียงใหม่)เสียก่อนนะคะ..จะคุยให้ค่ะ