โครงการจิตอาสาครั้งที่๙โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
สุภัชชา พันเลิศพาณิชย์
ด้วยชีวิตวัยเด็กพ่อสอนกระต่ายตลอดเวลาว่า เราอยู่แผ่นดินไทยอย่างมีความสุขบ้านเมืองอุดมสมบูรณ์ด้วยบุญบารมีของกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ดังนั้น กระต่ายเมื่อเกิดมาแล้วอย่าคิดแต่ว่าเมื่อเติบโตขึ้นเราจะทำอะไรแต่เราต้องคิดว่าเราเกิดมาเพื่ออะไรและจะทำอะไรตอบแทนคุณแผ่นดิน..จำไว้ลูก..การตอบแทนแผ่นดินง่ายๆคือ ต้องซื่อสัตย์ ต้องรักษาคำพูด ต้องกตัญญู มีเมตตา และต้องเกรงกลัวละอายต่อการทำบาปพูดง่ายๆคือมีศีล๕อยู่ในนิสัยสิ่งสำคัญต้องช่วยเหลือผู้อื่นตามกำลังและโอกาส:ซึ่งกระต่ายก็ปฎิบัติเสมอมาแม้ชีวิตจะพบเจอเรื่องเลวร้ายแต่ด้วยเราเป็นคนที่ปฎิบัติอย่างที่พ่อสอนทุกอย่างจึงผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จนชีวิตต้องมาเชียงรายกระต่ายก็ทำโครงการจิตอาสามาตลอดเพราะเป็นกิจกรรมที่ชอบและมีความสุขที่ทำตลอดมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยมาอยู่เชียงราย ตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๕o มาเป็นจิตอาสาให้วิทยาลัยสงฆ์เชียงรายซึ่งเมื่อก่อนคือห้องเรียนวัดพระแก้วทำงานอยู่๖ปี ทำกิจกรรมต่างๆดังนี้
ปีที่๑.โครงการทอดผ้าป่าหนังสือครั้งที่๑ ณ.วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย
ปีที่๒ โครงการทอดผ้าป่าหนังสือและคอมพิวเตอร์ครั้งที่๒ ณ.วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย
ปีที่๓ โครงการต่อบุญบ้านโป่งไฮครั้งที่๑ บ้านเทอดไท
ปีที่๔โครงการต่อบุญบ้านโป่งไฮครั้งที่๒บ้านเทอดไท
ปีที่๕ โครงการแบ่งปันสิ่งของเพื่อน้องเรียนครั้งที่๑ ที่บ้านจะจ๋อ
ปี่ที่๖โครงการแบ่งปันสิ่งของเพื่อน้องเรียนครั้งที่๑ที่บ้านพญาพิทักษ์
ปีที่๗โครงการแบ่งปันสิ่งของเพื่อน้องเรียนครั้งที่๒ ทำห้องสมุดบ้านจะจ๋อ(ทอดผ้าป่าหนังสือครั้งที่๓)
ปีที่๘ โครงการทอดผ้าป่าหนังสือ๔ บ้านอบ.ตทรายขาว
ปีที่๙ โครงการเลี้ยงอาหาร แจกผ้าห่ม ของเล่น เสื้อผ้า เยี่ยมผู้ป่วยเด็กอายุ๗วันถึง๕ปี
ในทุกโครงการกระต่ายจะเป็นคนระดมทุน ระดมสิ่งของ ทำเองทุกอย่าง โดยไม่เคยใช้เงินวิทยาลัยหรือไปที่ไหนต้องให้ใครทำอะไรเลี้ยงต้อนรับ แต่จะทำอาหารไปเลี้ยงเด็กๆเองหรือทำอาหารเลี้ยงคณะที่มาทอดผ้าป่าด้วยเงินส่วนตัวทั้งสิ้นแต่เป็นที่น่าเสียใจที่กระต่ายต้องถูกไล่ออกจากงานเพราะว่าพระสงฆ์วัดพระแก้วจังเชียงรายใช้ระบบการบริหารงานด้วยระบบอุปถัมป์ ระบบพรรคพวกไม่ชอบคนทำงาน แต่ด้วยมีจิตวิญญาณที่ชอบให้แม้ถูกไล่ออกมาในการทำงานจิตอาสามา๖ปีโดยไม่เคยรับค่าตอบแทนใดๆแต่ช่วง หลังถึงได้เงินเดือน๓๙oo บาทแต่ก็มีความสุขมากคะ แม้ถูกไล่ออกแล้วก็ยังทำโครงการจิตอาสามาอย่างต่อเนื่องจนหลายครั้งที่กระต่ายแทบหมดศรัทธากับระบบบริหารของสงฆ์และศาสนาแต่อาจที่ว่าเลี้ยงดูเราโดยตั้งแต่เด็กให้ชอบเข้าวัดทำบุญ พระธรรมคำสั่งสอนย่อมซึมซับโดยที่เราไม่รู้ตัวที่ชอบเป็นคนให้อภัยและเมตตาจนบางครั้งรู้สึกว่าการให้อภัยคนไม่ดีเท่ากับยืนดาบให้คนเหล่านั้นมาทำร้ายตนเอง..กระต่ายเพียงหวังว่าอยากทำงานรับใช้ศาสนาอยากทำงานจิตอาสาอีกครั้งที่วิทยาลัยสงฆ์เชียงรายกระต่ายไม่เคยต้องการเงินเดือนหรือตำแหน่งอะไรเพียงแต่อยากทำงานรับใช้พุทธศาสนาและได้เข้ากรรมฐานปฎิธรรมชำระจิตและใช้ต้นทุนทักษะที่เรารู้จักคนพอสมควรชักชวนให้ผู้คนเหล่านี้ช่วยส่งเสริมและมีโอกาสเลือกสิ่งที่ดีในการทำบุญคะ
ไม่มีความเห็น