วิจารณ์หนังสือ "คิดอย่างยิ่งลักษณ์" อย่างสร้างสรรค์


วิจารณ์หนังสือ "คิดอย่างยิ่งลักษณ์"



หนังสือนี้เพิ่งเปิดตัวในสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประกอบด้วย 29 บท จำนวน 240 หน้า เขียนโดยบุญญฤทธิ์ จตุวไลพร ไม่ระบุสำนักพิมพ์ แต่ระบุเพียงให้มติชน พิมพ์และจัดจำหน่าย หนังสือแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงแรกกล่าวถึงความเป็นมาของยิ่งลักษณ์ก่อนเข้าสู่การเมือง จำนวน 14 บท 106 หน้า เกือบครึ่งของเนื้อหาของหนังสือ กล่าวถึงความเป็นมาตั้งแต่เด็ก การศึกษา การทำงานในบริษัทของพี่ชาย ปัญหาและความภูมิใจในการทำงาน ต่างๆ

ตั้งแต่บทที่ 15 ได้เปิดเผยถึงการตัดสินใจเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองเพราะว่า "ครอบครัวชินวัตรเป็นหนี้ประชาชน" และได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวและคนรู้จัก

บทที่ 16 เป็นการเปิดตัวในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ยิ่งลักษณ์ยืนยันเองว่าเขียนคำกล่าวเปิดตัวเองด้วยความมั่นใจ

บทที่ 17 เพื่อประชาชน ได้สรุปโครงการที่จะใช้ในการหาเสียงของพรรค เช่นนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด สงครามกับทุจริตคอรัปชั่น นโยบายพักหนี้ การออกบัตรเครดิตให้เกษตรกร นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท กองทุนพัฒนาสตรี แทปเล็ตเพื่อการศึกษา นโบายคืนภาษีผู้ซื้อรถยนต์คันแรก ฯลฯ โดยยิ่งลักษณ์เห็นว่าไม่ใช่นโยบายประชานิยม เพราะนโยบายประชานิยมต้องเป็นนโยบายที่ทำให้คนชอบ อาจจะใช้วิธีแจกเงินก็ได้ แต่นโยบายที่ทำเป็นการทำให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

บทที่ 18 ปัจจัยกำชัยชนะในการเลือกตั้ง แม้ยิ่งลักษณ์ใช้เวลาเพียง 49 วัน แต่ด้วยการขยันลงพื้นที่จึงทำให้ได้รับความนิยมโดยเร็ว โดยปัจจัยที่ทำให้ได้รับชัยชนะเหนือพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ มี 3 ประการได้แก ตัวยิ่งลักษณ์เอง นโยบายที่ถูกใจประชาชน และ สส.ช่วยกันลงพื้นที่

บทที่ 19 นายกหญิงคนแรก เมื่อเพื่อไทยได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาจึงได้มีการทาบทานพรรคอื่นเข้ามาร่วมรัฐบาล โดยกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ดำเนินการทาบทามและได้เลือกให้ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย

บทที่ 20 บริหารวิกฤติน้ำท่วม เมื่อเริ่มเข้ามาเป็นรัฐบาลก็เผชิญกับวิกฤติน้ำท่วมที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อระดมกำลังแก้ปัญหาให้แล้วเสร็จ (แต่ไม่ได้บอกว่ารัฐบาลในขณะนั้นใช้วิธีใดในการแก้ปัญหา ระบุเพียงความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องรับภาระนี้)

บทที่21 และ 22 ปัญหา ปัญหา ปัญหา กล่าวถึง ปัญหาที่รัฐบาลต้องเจอในการแก้ปัญหาที่มีปัญหาในด้านกฏหมายที่ไม่ชัดเจน ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องเข้าไปเป็นประธานการแก้ปัญหาเองในทุกเรื่อง โดยใช้กำลังทหารเป็นหลักเนื่องจากมีระเบียบวินัยมากกว่า

บทที่ 23 ได้เริ่มดำเนินการตามที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน เช่น นโยบายประกันตน กองทุนสตรี การรักษาโรค 30 บาท การรับจำจำข้าวเปลือก ฯลฯ

บทที่ 24 จำนำข้าวแบบคุ้มค่า โดยกำหนดราคาข้าวสูงกว่าราคาตลาด เพราะการจำนำข้าวในรัฐบาลที่ผ่านมา มีจำนวนน้อยจึงไม่สามารถทำให้ราคาข้าวในตลาดสูงขึ้นได้ และรัฐบาลผุกขาดข้าวไม่จริงเพราะรัฐรับซื้อข้าวเพียง 58 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณข้าวทั้งประเทศเท่านั้น และนโยบายนี้ช่วยให้ชาวนามีหนี้สินลดลง 58 เปอร์เซ็นต์ คนจนลดลง 1.8 ล้านคน

บทที่ 25,26,27 กล่าวถึงยุทธศาสตร์ของชาติ ไทยในเวทีโลก และก้าวสู่"ฮับ"ของอาเซียน

บทที่ 28 ยุทธศาตร์จังหวัด ในการผลักดันให้จังหวัดนำยุทธศาสตร์ชาติไปปฏิบัติ

บทที่29 (สุดท้าย) เสียดาย ยิ่งลักษณ์แสดงออกอย่างชัดเจนว่านโยบายที่รัฐบาลต้องการทำถูกสกัด และลำดับเหตุการณ์ต่างๆตั้งแต่การประท้วง จนถึงการถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนนำมาสู่การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม โดยหลีกเลี่งไม่วิจารณ์ผู้เกี่ยวข้องกับรัฐประหารครั้งนี้

สิ่งที่ได้จากหนังสือเล่มนี้

1. ยิ่งลักษณ์เป็นผู้หญิงที่โชคดีคนหนึ่งในประเทศไทยที่เกิดในครอบครัวที่สมบูรณ์ เป็นครอบครัวที่มีอันจะกิน ได้รับการศึกษาที่ดี ได้พี่ชายวางแผนการเรียน การทำงานในบริษัทของครอบครัว และเข้าสู่การเมืองครั้งแรกก็ด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรีเลยโดยใช้เวลาแค่ 49 วัน แม้แต่คนในพรรคเพื่อไทยที่อยู่กับพรรคมาเป็นเวลานานยังต้องอิจฉา

2. ยิ่งลักษณ์ ไม่แสดงให้เห็นในหนังสือเล่มนี้ว่าเป็นผู้มีส่วนกำหนดนโยบายสำคัญของพรรคและของประเทศ เป็นเพียงผู้นำสาร ไปให้ประชาชนรับทราบเท่านั้น ผู้อ่านที่คาดหวังว่า หนังสือ"คิดอย่างยิ่งลักษณ์" จะให้ข้อมูลวิธีคิดของยิ่งลักษณ์อาจต้องผิดหวัง เช่น ถ้าอยากรู้ว่ายิ่งลักษณ์ มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับ นโยบายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหา3 จังหวัดภาคใต้ ปัญหาขัดแย้งชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน วิกฤติการณ์รัฐธรรมนูญ การปฏิรูปการศึกษา แนวทางการแก้ปัญหาทุจริต และอื่นๆ เพราะไม่ได้นำเสนอเอาไว้

3. หนังสือฉบับนี้เขียนโดยคนใกล้ชิดยิ่งลักษณ์ โดยการสัมภาษณ์และนำมาเรียบเรียงประกอบกับข้อมูลพื้นฐานที่คนทั่วไปในประเทศไทยรู้อยู่แล้ว จึงไม่มีข้อมุลใหม่หรือเป็นข้อมูลประเภทที่เป็นความลับ หรือเรื่องส่วนตัวอย่างที่พวกเราไม่เคยรับรู้มาก่อน อย่างที่เราเคยได้อ่านหนังสือประเภทอัตตชีวประวัติ เช่น อัตตชีวประวัติของบิล คลินตัน ประวัติของเหมา เจอ ตุง เป็นต้น แต่เป็นหนังสือประเภทการเขียนของบุคคลภายนอก(Third Party) เขียนแบบไม่ลงรายละเอียด จึงไม่ได้ข้อมูลที่แปลกใหม่อย่างที่ผู้อ่านคาดหวัง (ตัวอย่าง การเขียนประวัติบุคคลที่ดี เช่น Walton Issacson เขียนประวัติสติฟ จอบส์อย่างละเอียดทุกแง่มุม กว่า 600 หน้า)

4. หนังสือเล่มนี้น่าจะเรียกได้ว่า เป็นเอกสารประชาสัมพันธ์มากกว่า เพราะโทนของหนังสือไม่ได้มุ่งนำเสนอความจริงทั้งสองด้านที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมา แต่เป็นการนำเสนอเพื่อให้ข้อมูลด้านเดียวของผู้นำเสนอ แต่ก็เป็นการนำเสนอที่สอบตกเพราะประเด็นที่นำเสนอก็ขาดข้อมูล และการอ้างอิงที่มากพอที่จะทำให้ผู้อ่านคล้อยตามในสิ่งที่ผู้เขียนต้องการได้ (ภาพประกอบในหนังสือเกือบทั้งหมดเป็นภาพอดีตนายกรัฐมนตรี กับภารกิจในการเป็นประธานเปิดงาน ในการดูงาน หรือในการประชุม ฯลฯ)

5. ถามว่าหนังสือ "คิดอย่างยิ่งลักษณ์" เหมาะกับใคร ตอบว่าสำหรับคนที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองของไทยมาเป็นเวลานานจะรู้สึกว่า ไม่มีอะไรใหม่ คนที่ต้องการรู้วิธีคิดและปรัชญาความเชื่อของอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย (อย่างที่ผมคาดหวัง) ก็จะไม่ได้อย่างที่ต้องการ หนังสือนี้จึงเหมาะกับผู้ที่เพิงเริ่มสนใจการเมืองไทย ประเทศไทย ที่ไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับการเมืองไทยมาก่อน อาจจะได้ประโยชน์บ้าง

Bookmark and Share แสดงความคิดเห็น | ส่งเรื่องนี้ให้เพื่อน | แจ้งเตือนเรื่องไม่เหมาะสม

แสดงความคิดเห็น

ชื่อ:

อีเมล์:

เว็บไซต์:

รูป gif,jpg 25 K

ความคิดเห็น:

หมายเลขบันทึก: 588346เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2015 04:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน 2015 04:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

น่าจะเป็นการตั้งชื่อหนังสือที่ไม่เหมาะสม

คุณยิ่งลักษณ์ฉลาด ดูทิศทางลม คงเขียนหรือพูดทุกอย่างไม่ได้อีกนานมาก จะเพิ่มโอกาสติดคุกสูงขึ้น

ขอบคุณมากค่ะ ในข้อมูลที่ตรงไปตรงมาและเป็นธรรมอย่างยิ่ง เห็นหนังสือแล้วก็อยากรู้เหมือนกันว่าเนื้อหาจะเป็นอย่างไร อ่านบทวิจารณ์นี้แล้ว ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมากเลยค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท