วันที่สองของการอบรมภาระหน้าที่ของครูนกคือ เข้าเรียนรู้เรื่อง "การรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ : Scientific Literacy" วิทยากรคือ อาจารย์ศรัณยู ศรีสมพร บรรยายเป็นวิทยากรหลักช่วงเช้า และดร.สุทธิดา จำรัส เป็นวิทยากรหลักช่วงบ่าย
ช่วงเช้าครูนกสนุกกับการเรียนรู้เรื่องสมรรถนะทางวิทยาศาสตร์ และกรอบความรู้ ๓ ด้านคือความรู้ด้านเนื้อหา ความรู้
ด้านกระบวนการ และความรู้เกี่ยวกับการได้มาซึ่งความรู้ ครูนกพบว่า คนจะเรียนวิทยาศาสตร์ได้เก่งต้องเข้าใจธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ และจะเรียนรู้ได้อย่างสนุก ครูนกชื่นชมการเป็นวิทยากรด้านการสอนวิทยาศาสตร์ของอาจารย์ศรัณยู ที่มีความเป็นครูสูงมากมีการนำเข้าบทเรียน มีการตั้งคำถามกระตุ้น ให้แรงยั่วยุในการคิดการตอบที่สำคัญอธิบายได้อย่างเรียบง่าย และชัดเจน
ยกตัวอย่างเรื่อง การทำงานนของเอมไซม์ ที่มีทฤษฎี LOCK and KEY ซึ่งวันนี้อาจารย์ชวนคิดชวนคุยจนครูนกมองเห็นความละเมียดของการอธิบาย
เอมไซม์เปรียบเสมือนลูกกุญแจ เข้าไปไขแม่กุญแจซึ่งเสมือนสารตั้งต้น เราต้องใช้ลูกกุญแจที่จำเพาะเจาะจงกับแม่กุญแจ และเมื่อไขสำเร็จแม่กุญแจก็จะเปลี่ยนตนเองไม่ใช่กุญแจในลักษณะเดิม แต่ตัวลูกกุญแจยังคงเดิมซึ่งเหมือนกับเอมไซม์ที่มีการทำงานคือ เมื่อสิ้นสุดปฏิกิริยาจะได้กลับคืนมา และเกิดแนวคิดว่า หากเราไม่มีลูกกุญแจจริงๆแล้วเราก็เปิดกุญแจได้แต่ใช้เวลานาน ย้อนมองตนเองครูนกอธิบายกับเด็กๆ ไม่นุ่มลึกแบบนี้ถือว่าโชคดีที่เจออาจารย์ในปีนี้สร้างแรงบันดาลใจในการสอนเคมีอีกมากมาย
ผลจากการอบรมทำให้ครูนกรู้ว่า หากจะสอนให้เด็กไทยทำข้อสอบ PISA ได้ครูไทยต้องปลูกฝังทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสร้างองค์ความรู้ของนักเรียน หากยังคงติดกับดักเนื้อหาเด็กไทยคงทำข้อสอบ PISA อย่างไม่สุขเท่าที่ควร
นอกจากนี้มโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนในเรื่องวิทยาศาสตร์ที่มีอีกมายมายหลายเรื่องครูสอนวิทยาศาสตร์ควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อจะได้ถ่ายทอดอย่างมีเหตุมีผล มากกว่าสอนให้จำได้เป็นหน้าๆ เล่มๆ
ขอบคุณแรงบันดาลใจในการจัดกิจกรรมคาบปฐมนิเทศของครูนกในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ ซึ่งจะเริ่มในวันที่ ๑๑ พฤษภาคม
จะรอติดตามการนำไปปรับใช้ของครูนกนะคะ ต้องน่าสนุกแน่นอนเลย ถ้าทุกท่านที่ไปอบรมได้ประโยชน์มากแบบครูนกคงจะดีมากเลย ต้องชื่นชมผู้ที่คิดจัดงานนี้จริงๆค่ะ
ตามมาให้กำลังใจค่ะ