แนวทางการบริหารสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนวัดนาค
โลกปัจจุบันเป็นยุคโลกาภิวัตน์ที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ การเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นสังคมที่ต้องอาศัยองค์ความรู้ (knowledgebasedsociety) และเศรษฐกิจฐานความรู้ (knowledgebasedeconomy) ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 มุ่งเน้นยุทธศาสตร์ การเพิ่มสมรรถนะและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนมีคุณภาพ ทำให้การจัดการศึกษาจึงจำเป็นต้องมุ่งสู่ความเป็นเลิศ เพื่อให้การศึกษามีคุณภาพควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆ (กระทรวงศึกษาธิการ. 2549 : 1) การบริหารโรงเรียนในปัจจุบันจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารการจัดการมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาความเป็นเลิศของโรงเรียนเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณที่เปลี่ยนแปลง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารโรงเรียนครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องมีความรู้ความเข้าใจ ใฝ่รู้และพัฒนาโรงเรียนอย่างเป็นระบบโดยจัดการศึกษาที่มุ่งพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์และการมุ่งเน้นความเป็นเลิศทางการศึกษาเพื่อให้นักเรียนเป็นคนดี มีปัญญา มีความสุขและมีศักยภาพการจัดการศึกษาจึงบรรลุวัตถุประสงค์
ผู้บริหารโรงเรียนถือว่ามีบทบาทสำคัญในการที่จะบริหารงานต่างๆ ในโรงเรียนให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้โดยการอาศัยความร่วมมือจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาทุกฝ่าย เช่น ครูสอนในสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา เนื่องจากการบริหารงานในโรงเรียนจะเกิดประสิทธิภาพได้นั้นจำเป็นต้องอาศัยผู้บริหารและผู้ร่วมงานที่มีประสิทธิภาพ ผู้บริหารโรงเรียนจึงจำเป็นต้องใช้วิธีการที่หลากหลายทั้งที่เป็นศาสตร์และศิลป์มาประยุกต์ใช้เพื่อให้โรงเรียนมีศักยภาพยิ่งขึ้นและพัฒนาให้ทันต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสังคมปัจจุบันและอนาคตดังนั้นโรงเรียนที่มีคุณภาพเชิงบริหารจัดการย่อมก่อให้เกิดมิติแห่งความเป็นเลิศในระบบการจัดการศึกษายุคใหม่
การบริหารงานใดๆ ก็ตาม จำเป็นจะต้องมีหลักการ แนวคิด และทฤษฎีเป็นพื้นฐานการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นโรงเรียนวัดนาคได้นำแนวคิด แม่แบบซิปโป หรือ SIPPO model ของช่วงโชติพันธุเวช (2553) มาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางการจัดการศึกษาเชิงคุณภาพ เพราะลักการ แนวคิด ทฤษฎีการบริหารการศึกษา จะเป็นหลักหรือเป็นพื้นฐานในการคิด พิจารณาและตัดสินใจ ทำให้สามารถบริหารงานได้อย่างมีทิศทาง ไม่สะเปะสะปะ เมื่อจะตัดสินใจก็มีหลักการ และทฤษฎีเข้ามาสนับสนุน สามารถบริหารงานในภารกิจหน้าที่ที่ตนกระทำอยู่อย่างชาญฉลาด มีความแนบเนียนในการปฏิบัติ ให้งานนั้นดำเนินไปได้โดยราบรื่น บรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ซึ่งการจัดการศึกษาตามแม่แบบSIPPO เป็นการนำเอาแนวคิดการจัดการเชิงระบบ (system management approach) มาใช้ที่ประกอบไปด้วย3 กระบวนการหลักได้แก่IPO ประกอบด้วย Iคือ ปัจจัยป้อน(input) P คือ กระบวนการผลิต(process) และ O คือ ผลผลิต(product) นำมาผสมผสานกับแนวคิดการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์กรหรือ TQM ที่เริ่มจากการให้ความสำคัญที่ลูกค้าและสิ้นสุดที่ความพึงพอใจแก่ลูกค้านอกจากนี้ยังนำวงจรการปรับปรุงคุณภาพของ เดมมิ่งหรือ P-D-C-A มาใช้เพื่อเน้นให้ผู้บริหารและครูได้ให้ความสำคัญของการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
แนวคิดการจัดการศึกษาเชิงระบบหรือ SIPPO เป็นการจัดการกระบวนการศึกษาที่ประกอบไปด้วย7 องค์ประกอบ คือ
1. นักเรียน(student) และผู้มีส่วนไดสวนเสีย(stakeholder)
2. ปัจจัยป้อนหรือระบบสนับสนุน(input system)
3. กระบวนการจัดการเรียนการสอน(process of teaching and learning management)
4. ผลผลิต(นักเรียน) (products)
5. ผลลัพธ์(ความพึงพอใจของลูกค้า) (outcomes)
6. การตรวจสอบและประเมินคุณภาพการศึกษา
7. การปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษา
1. นักเรียนและผู้มีส่วนไดสวนเสียการศึกษาหาความต้องการของลูกค้าได้แก่ผู้ปกครอง นักเรียน ชุมชน เป็นปัจจัยแรกที่ผู้บริหารโรงเรียนให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกก่อนที่จะดำเนินการใดๆ ในการจัดการศึกษาเนื่องจากการศึกษาที่ดี และมีคุณภาพจะต้องสนองตอบความต้องการของลูกค้าดังกล่าว ถาผลผลิตของโรงเรียนไม่สามารถสนองผลตอบดังกล่าวไดสุดท้ายคือจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของนักเรียนซึ่งจะส่งผลเสียอย่างร้ายแรงในการพัฒนาประเทศ การกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของโรงเรียนจำเป็นต้องตระหนักและคำนึงถึงบริบทหรือสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อโรงเรียนและกระบวนการจัดการศึกษานับตั้งแต่การวางแผนการจัดการศึกษากระบวนการออกแบบและพัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนและการวัดประเมินผล เป็นต้น ตองได้มาจากการศึกษาและวิเคราะห์(SWOT) บริบทและสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกของโรงเรียน เป็นข้อมูลที่จำเป็นและสำคัญต้องนำเอาข้อมูลสารสนเทศเหล่านั้นมาพิจารณาประกอบในการกำหนดวิสัยทัศน์ ทิศทาง นโยบายเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการวางแผนการจัดการศึกษาการจัดการเรียนการสอนการบริหารและการควบคุมคุณภาพการศึกษาทั้งจัดทำแผนการจัดการคุณภาพเชิงยุทธศาสตร์
2. ปัจจัยป้อนและระบบสนับสนุนการศึกษาในการบริหารการศึกษาและการเรียนการสอนผู้บริหารให้ความสำคัญเริ่มตั้งแต่กระบวนการออกแบบและวางแผนระบบปัจจัยป้อนหรือระบบสนับสนุนทางวิชาการ ได้แก่ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายยุทธศาสตร์ แผนการเงินและงบประมาณที่จะได้มาซึ่ง 5M คือ คน(man) หรือนักเรียน ครูและบุคลากร วัสดุ (material) เครื่องมือและอุปกรณ์(machine) หรือทรัพยากรการเรียนรู้อาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกการเงินและงบประมาณ (money) และการจัดการ(management) ที่ถือเป็นปัจจัยป้อนและเป็นระบบสนับสนุนที่สำคัญในกระบวนการจัดการศึกษาและการเรียนการสอนและปัจจัยจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพกระบวนการผลิตและคุณภาพผลการผลิตปัจจัยดังกล่าวข้างต้นไดรับการออกแบบและการวางแผนที่ดีและมีประสิทธิภาพ เพราะถือว่าเป็นวัตถุดิบที่จะนำสิ่งเข้าสู่กระบวนการผลิตหรือกระบวนการจัดการเรียนการสอนจะต้องมีคุณภาพมีคุณสมบัติที่พึงประสงค์มีมาตรฐานมีความรูดีมีความพร้อม มีความเพียงพอจะทำให้สามารถพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพและเป็นไปตามความต้องการของสังคม
3. กระบวนการจัดการเรียนการสอนกระบวนการผลิตทางการศึกษา หมายถึง กระบวนการจัดการเรียนการสอนถือว่าเป็นกระบวนการที่สำคัญคือ กิจกรรมการเรียนการสอนที่นักเรียนจะไดรับการพัฒนาและปรับปรุงทางด้านความรู้ บุคลิกภาพ ความคิด ประสบการณ์และสร้างเสริมคุณธรรมจริยธรรม
4. ผลผลิตนักเรียนเป็นผลผลิตที่เกิดจากกระบวนการเรียนการสอนคุณภาพของนักเรียนจะมีคุณภาพหรือไม่จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพปัจจัยป้อน หรือกระบวนการเรียนการสอนสำคัญดังนั้นระดับคุณภาพและมาตรฐานของนักเรียนเป็นเครื่องสะท้อนถึงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตของโรงเรียนโดยตรงและด้วยความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมโรงเรียนจึงจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพของนักเรียนให้อยู่ในระดับที่อยู่ในเกณฑ์ที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของชุมชนและสังคม
5. ผลลัพธ์ ผลลัพธ์ หมายถึง ผลลัพธ์ของนักเรียนที่มีคุณภาพตรงกับข้อกำหนดและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตรงตามความต้องการและเป็นที่ประทับใจและพึงพอใจของสังคมและตลาดแรงงานรวม ทั้งผลงานทางวิชาการงานวิจัยและบริการของสถาบันคณะอาจารย์ตองมีคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับทางวิชาการระดับอุดมศึกษาทั้งในและต่างประเทศผลงานต้องมีประโยชน์และเกิดคุณค่าต่อชุมชนสังคมและสามารถนำไปสูการปฏิบัติและนำไปใช้ในธุรกิจและอุตสาหกรรมได้ตามความต้องการของสังคมและตลาดแรงงานเป็นที่ประทับใจและพึงพอใจของผู้ปกครองชุมชน
สังคมและผู้ประกอบการผลลัพธ์และประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของสถาบันที่มีคุณภาพเป็นไปตามข้อกำหนด
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ตรงตามความต้องการเป็นที่ประทับใจของสังคมและตลาดแรงงานรวมทั้งผลงานทาง
วิชาการงานวิจัยและบริการของสถาบันตลอดจนอาจารย์ตองมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับทางวิชาการระดับอุดมศึกษา
ทั้งในและต่างประเทศผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นต้องมีประโยชน์เกิดคุณค่าต่อชุมชนสังคมและสามารถนาไปสู่การปฏิบัติ
และนำไปใช้ทางธุรกิจการศึกษาอุตสาหกรรมได้แล้วตามความต้องการของสังคมและตลาดแรงงานเป็นที่ประ
ทับใจและพึงพอใจของผู้ปกครองชุมชนสังคมและผู้ประกอบการจากการที่มีระบบการบริหารจัดการศึกษาเชิง
คุณภาพดังกล่าวทั้ง5 กระบวนการถือว่าเป็นการวางแผนการออกแบบและการตรวจติดตามคุณภาพที่จะนำไปสู่
ระบบการประกันคุณภาพในที่สุดในแต่ละกระบวนการการจัดการศึกษาต้องนำมาออกแบบกำหนดและสร้าง
หัวข้อคุณภาพและดัชนีวัดคุณภาพขึ้นตามตัวชี้วัดคุณภาพผลที่ได้จะทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจว่ากระบวนการ
จัดการศึกษาดังกล่าวไดดำเนินการไปอย่างมีคุณภาพและเป็นไปตามข้อกำหนดที่เขียนเป็นสัญญาให้แกผู้ศึกษา
ผู้ปกครองและสถานประกอบการจึงจำเป็นต้องมีการตรวจติดตามและประเมินคุณภาพการศึกษาเพื่อนำไปสู
การปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของผลผลิต
6. การติดตามและประเมินผลผลการจัดการศึกษาและการเรียนการสอนจะต้องมีการตรวจติดตามและประเมินคุณภาพเพื่อตรวจสอบและให้ทราบถึงคุณภาพของนักเรียนเป็นไปตามความต้องการและเป็นที่พึงพอใจของชุมชนและสังคมเพียงใดอย่างไรก็ตามการตรวจติดตามต้องเป็นไปตามกระบวนการออกแบบและการจัดการศึกษาทั้ง 5 กระบวนการองค์ประกอบและดัชนีวัดคุณภาพของแต่ละกระบวนการ
7. การปรับปรุงคุณภาพหลังจากการตรวจติดตามและประเมินคุณภาพกระบวนการจัดการศึกษาและการเรียนการสอน จะไดวิธีการปฏิบัติที่ดีของโรงเรียนที่จะนำไปเป็นมาตรฐานในการจัดการเรียนการสอนต่อไปนอกจากนี้ปัญหาและข้อบกพร่องจากการศึกษาและการจัดการเรียนการสอนจะถูกนำไปหาวิธีการปรับปรุงและแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไปอย่างไม่สิ้นสุดระบบการบริหารจัดการศึกษาเชิงคุณภาพประกอบไปด้วย7 กระบวนการจำเป็นต้องนำมาวางแผนออกแบบและสร้างระบบการประกันคุณภาพในแต่ละกระบวนการของการจัดการศึกษา ต้องนำมากำหนดและสร้างหัวข้อคุณภาพและตัวดัชนีวัดคุณภาพขึ้นต่อจากนั้นจึงหาวิธีการบริหารจัดการให้คุณภาพเกิดขึ้นตามตัวชี้วัดคุณภาพผลที่ไดทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจว่ากระบวนการจัดการจัดการศึกษาดังกล่าวไดดำเนินการไปอย่างมีคุณภาพและเป็นไปตามข้อกำหนดที่เขียนเป็นสัญญาให้แกนักศึกษาผู้ปกครองและสถานประกอบการจึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบและประเมินคุณภาพการศึกษาเพื่อนำไปสูการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของบัณฑิตอย่างต่อเนื่อง
ผลงานที่ภาคภูมิใจ
ผู้บริหารหรือสถานศึกษาได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติในระยะเวลา5ปี ระดับประเทศ10 รายการดังนี้
ที่ |
รางวัลที่ได้รับ |
จากหน่วยงาน |
วัน.เดือน.ปี |
1. |
ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุมานะ อุตสาหะ เสียสละ อดทนและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้เป็นแบบอย่างที่ดี |
สำนักงาน สกสค. |
16 มกราคม 2552 |
2. |
ผู้บริหารได้รับรางวัล "คุรุสดุดี" ประจำปี 2553 จากคุรุสภา |
คุรุสภา |
5 ตุลาคม 2553 |
3. |
โรงเรียนชนะการประกวดส้วมสุขสันต์ ปีการศึกษา 2553 ประเภท โรงเรียนประถมศึกษา ขนาดใหญ่ |
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน |
25 พฤศจิกายน 2553 |
4. |
ผู้บริหารได้รับพระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี ชั้นที่ 2 ประจำปี 2553 |
สำนักงานคณะกรรมการลูกเสือแห่งชาติ |
12 มกราคม 2554 |
5. |
โรงเรียนคงสภาพโรงเรียนรางวัลพระราชทาน ระดับประถมศึกษาขนาดใหญ่ปีการศึกษา 2554 |
กระทรวงศึกษาธิการ |
7 ธันวาคม 2554 |
6. |
ผู้บริหารได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัล "หนึ่งแสนครูดี" ประจำปี 2554 |
คุรุสภา |
16 มกราคม 2555 |
7. |
โรงเรียนได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานด้านปฐมวัย และประถมศึกษารอบที่สาม |
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน) |
23 พฤศจิกายน 2555 |
8. |
รางวัลต้นแบบการจัดการเรียนรู้การสหกรณ์ ประจำปี พ.ศ.2555 |
กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ |
29 พฤศจิกายน 2555 |
9. |
ผู้บริหารได้รับการคัดเลือกเป็นผู้บังคับบัญชาลูกเสือดีเด่น ประจำปี 2555 ประเภท ผู้บริหาร |
สำนักงานคณะกรรมการลูกเสือแห่งชาติ |
1 กรกฎาคม 2556 |
10. |
รางวัล "สถานศึกษาพอเพียง 2555" |
กระทรวงศึกษาธิการ |
31 พฤษภาคม 2556 |
สรุป
การบริหารโรงเรียนสู่ความเป็นเลิศ นั้นต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างที่จะนำมาใช้ในการบริหารงานให้ประสบความสำเร็จ ผู้บริหารโรงเรียนมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ให้เกิดการพัฒนาคุณภาพ เป็นโรงเรียนคุณภาพก้าวสู่ความเป็นเลิศได้ต่อไปในอนาคต
บรรณานุกรม
กระทรวงศึกษาธิการ. (2549 ). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภา
ลาดพร้าว
ช่วงโชติพันธุเวช. (2553). ชุดคู่มือการพัฒนากระบวนการบริหารจัดการสถานศึกษาสู่คุณภาพ. กรุงเทพฯ :
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
ไม่มีความเห็น