เรียนรู้จากความล้มเหลว
Learning from Spectacular Failures
พันเอก มารวย ส่งทานินทร์
[email protected]
10 กุมภาพันธ์ 2558
บทความเรื่อง
เรียนรู้จากความล้มเหลว นำมาจาก บทความเรื่อง 5 Famous Entrepreneurs Who Learned From Their First Spectacular Failures ประพันธ์โดย Stephanie Vozza
ผู้ที่สนใจเอกสารแบบ PowerPoint (PDF file) สามารถ Download ได้ที่
http://www.slideshare.net/maruay/learning-from-spectacular-failures
Why Failing Well is the Key to Success
- ธุรกิจใหม่ส่วนมากมักจะล้มเหลว นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้บริหารระดับสูงล้มเหลวตามไปด้วย หรือต้องเปลี่ยนงานไปขายเต้าฮวย แต่ต้องเปลี่ยนความคิดว่า เราสามารถเรียนรู้ได้จากความล้มเหลว และระวังไว้ไม่ให้เกิดผิดพลาดซ้ำอีก
- นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จะมีลักษณะอย่างหนึ่งที่เรียกว่า มีความมั่นใจตนเองสูงมาก (overconfidence) และกล้าเสี่ยง
- การเป็นคนมองโลกในแง่ดี (Optimistic) ก็เป็นคุณลักษณะหนึ่ง ที่พวกเขาถือว่า ความล้มเหลวเป็นบทเรียน เพื่อทำให้ดียิ่งกว่าเดิม
- มี 5 ตัวอย่างบุคคล ที่ล้มเหลวเมื่อตอนเริ่มต้น แต่สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้
1. Failed Horseradish Seller: Henry J. Heinz
-
Henry J. Heinz เป็นชาวอเมริกัน ผู้ผลิตซอสมะเขือเทศที่โด่งดัง เริ่มธุรกิจจากการเป็นพ่อค้าเร่ขายเครื่องเทศปรุงอาหารที่เขาผลิตเองคือ horseradish ที่ผู้อพยพชาวอังกฤษและเยอรมัน นิยมใส่ในเนื้อ มันฝรั่ง และกระหล่ำปลี
- Heinz ผลิตเครื่องปรุงอาหารบรรจุในขวดใสแทนขวดทึบที่นิยมกันในขณะนั้น เพื่อให้ลูกค้าเห็นผลิตภัณฑ์ และเขาได้ก่อตั้งบริษัท Heinz Noble & Co. ในปี ค.ศ. 1869
- ห้าปีแรกธุรกิจไปได้ดีมาก เพราะคุณภาพที่ดีของผลิตภัณฑ์ แต่เมื่อเกิดเศรษฐกิจถดถอยในปี ค.ศ. 1873 เขาไม่สามารถชำระหนี้ หรือจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานได้ บริษัทจึงล้มละลายในปี ค.ศ. 1875
- ในปีต่อมา เขาได้ตั้งบริษัทใหม่คือ H.J. Heinz Company ร่วมกับน้องชายและหลาน ทำผลิตภัณฑ์ใหม่คือ ซอสมะเขือเทศ บริษัทเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปี ค.ศ. 1905 Heinz ได้เป็นประธานบริษัทจนกระทั่งเขาถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1919
-
Heinz เรียนรู้ว่า ทำสิ่งธรรมดาให้ดีอย่างเกินคาดหมาย แล้วจะประสบความสำเร็จ (To do a common thing uncommonly well brings success)
- ในปี ค.ศ. 2013 บริษัท Berkshire Hathaway and 3G Capital ซื้อกิจการของ H.J. Heinz Company เป็นจำนวนเงิน $28 billion
2. Failed Olympic Figure Skater: Vera Wang
- ถ้า Vera Wang ได้เข้าร่วม U.S. Olympic figure-skating team ในปี ค.ศ. 1968 เธออาจไม่ได้ปฏิรูปวงการชุดเจ้าสาว เพราะเธอกับคู่แข่งขันได้ที่ 5 ในการคัดเลือกตัว จึงไม่ได้ไปโอลิมปิค 1968
-
Wang จึงหันเข้าสู่วงการแฟชั่น โดยเริ่มที่ Vogue ซึ่งเธอบอกว่าไม่ได้ทำอะไร นอกจากการถ่ายเอกสาร จนกระทั่งได้เป็น senior fashion editor และต่อมาได้ทำงานกับ Ralph Lauren
- ในปี ค.ศ. 1989 เธอหมั้นกับ Arthur Becker และรู้สึกขัดใจกับการเลือกชุดเจ้าสาว เธอจึงออกแบบชุดเจ้าสาวเอง ในปีต่อมาเธอได้เปิดร้านชุดเจ้าสาวที่ Carlyle Hotel, Madison Avenue ใน New York City
- ปัจจุบันสินค้ายี่ห้อ Vera Wang ประกอบด้วย ชุดเจ้าสาว ชุดสวมใส่สำเร็จรูป สิ่งตีพิมพ์ น้ำหอม เครื่องสำอางค์ สินค้าเบ็ดเตล็ด และชุดตกแต่งบ้าน
-
Wang กล่าวไว้ใน Cosmogirl! Secrets of Success: 38 Leaders Tell You How to Achieve Your Dreams: ว่า เธอได้ความคิดมาจากการเล่นสเก็ตน้ำแข็งคือ ทำให้ดีขึ้น เรียนรู้ให้มากขึ้นและเร็วขึ้น สามารถนำมาใช้กับชีวิตจริงได้ (For me the idea that I could always do better, learn more, learn faster, is something that came from skating. But I carried that with me for the rest of my life.)
3. Failed Traffic Software Designers: Bill Gates and Paul Allen
- ก่อนหน้าที่บริษัท Microsoft จะเปลี่ยนแปลงโลกของซอฟท์แวร์ Bill Gates และ Paul Allen ขณะที่ทั้งคู่กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายที่ Seattle's Lakeside High School ทั้งสองคนได้ออกแบบ microprocessor คือ Traf-O-Data ในการวิเคราะห์ระบบจราจรเพื่อลดความคับคั่งบนท้องถนน แต่ได้รับการปฏิเสธ
- ทั้งคู่ถือเป็นบทเรียน ทำให้ต่อมาพวกเขาศึกษาวิธีการเขียนโปรแกรม และในปี ค.ศ. 1975 ทั้งสองคนได้ก่อตั้งบริษัทคือ Micro-Soft
- ในปี ค.ศ. 2011 Paul Allen ได้กล่าวกับ Newsweek ว่า การได้รับคำปฏิเสธเรื่อง Traf-O-Data ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และเป็นเมล็ดพันธุ์ของความสำเร็จในกาลต่อมา คือความคิดที่ว่า micro-processors ก็สามารถมีโปรแกรมได้เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ แต่ในราคาถูกกว่ามาก (Since then, I have made my share of business mistakes, but Traf-O-Data remains my favorite mistake because it confirmed to me that every failure contains the seeds of your next success. It bolstered my conviction that micro-processors would soon run the same programs as larger computers, but at a much lower cost.)
4. Failed Real Estate Investor: Dave Ramsey
-
Dave Ramsey เดิมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เขาเคยหมดเนื้อหมดตัวมาก่อน ในอดีตเขาต้องทำงานเพื่อส่งตนเองให้ได้ร่ำเรียนในวิทยาลัย เมื่อมีอายุได้ 25 ปี เขาถือครองสินทรัพย์ 4 ล้านเหรียญแต่มีมูลค่าจริงแค่ 1 ล้านเหรียญ เขาจึงถูกบังคับให้ขายทรัพย์สินที่มีจนหมด
- เขาเรียนรู้จากความผิดพลาด และตั้งปณิธานว่าจะไม่ยอมเป็นทาสให้กับผู้ออกเงินกู้อีก เขาจึงทำงานเพื่อรวบรวมเงินทองใหม่ ออกรายการวิทยุที่เดิมเรียกว่า The Money Game ในเมือง Nashville ที่เขาอาศัยอยู่ ทำให้เขาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และมีโอกาสได้ช่วยเหลือผู้อื่น
- ปัจจุบัน The Dave Ramsey Show มีการถ่ายทอดสัญญานวิทยุเชื่อมโยงกว่า 500 สถานีทั้งในอเมริกาและแคนาดา เขายังได้ประพันธ์หนังสือ 4 เล่มที่เป็น New York Times bestsellers และเขาได้ตั้งมหาวิทยาลัย Financial Peace University ในอีกหลายแห่งทั่วอเมริกา
5. Serial Failure: Colonel Harland Sanders
- พันเอก Harland Sanders พบกับความล้มเหลวมาตลอด ถูกให้ออกจากงานหลายแห่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภรรยาก็ทอดทิ้งเขาไป
- เมื่อเขามีอายุวัยกลางคน เขาได้เปิดภัตตาคารแห่งหนึ่งริมทางหลวง ซึ่งกิจการเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งสิบปีต่อมา ทางหลวงสายใหม่ถูกตัดให้เป็นทางเลี่ยง ทำให้กิจการของเขาต้องปิดตัวลง
- คนส่วนมากคงคิดว่าหมดสิ้นกันแล้ว แต่ไม่ใช่ผู้พัน Sanders ในปี ค.ศ. 1952 เขานำสูตรไก่ทอดของเขาไปเสนอกับภัตตาคารใน Utah ให้ขายไก่ทอดของเขา ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของ Kentucky Fried Chicken (KFC) ขึ้นมา และต่อมาในปี ค.ศ. 1964 ผู้พัน Sanders ขาย KFC ให้กับกลุ่มนักลงทุน เป็นมูลค่า $2 million
- ผู้พัน Sanders พบกับความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็มีความพยายามลุกขึ้นสู้ใหม่ทุกครั้ง เขานำเอาความล้มเหลวมาเป็นบทเรียน แล้วพยายามมองหาหนทางใหม่เสมอ (Well, what can I do now?)
*******************************************