* ต้นอ่อน (sprouts) และไมโครกรีน (micro-green)



กระแสสุขภาพที่มาแรงอีกหนึ่งกระแสในตอนนี้

คงหนีไม่พ้นการบริโภคต้นกล้าจากเมล็ดงอก (germinated seed)

ไปเดินงานเกษตรแฟร์ 2558 ที่ ม.เกษตร์ฯ บางเขน

คณะเกษตรฯ เค้าส่งเสริม

ดูแล้วไม่ยาก เห็นแล้วก็คันไม้คันมืออีกแล้ว

สวรรค์ของคนรักผัก ปลูกเอง ภูมิใจ ได้ผักไร้สาร :)

#cleanfood #organicagriculture

............................................

(1) ใช้เมล็ดอะไรมางอก

ถั่วงอก (mung beans) น่าจะเป็นต้นกล้าที่นิยมการบริโภคมากที่สุดในประเทศไทย

แต่ก็มีเมล็ดพืชชนิดอื่นๆ ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นเดียวกัน

เช่น โต้วเหมี่ยวหรือต้นอ่อนถั่วลันเตา (sweet pea sprouts)

ไควาเระ หรือต้นอ่อนไชเท้า

ต้นอ่อนเมล็ดทานตะวัน

ข้าวกล้องงอก

น้ำคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลี

ต้นอ่อนงางอก

อื่นๆ เช่น ผักบุ้ง กวางตุ้ง กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ ผักโขม โหระพา กระเพรา แมงลัก สโน กระถิน

ผักอะไรๆๆ ก็เอามางอก ...... ได้ทั้งนั้น ถ้ามันมีเมล็ดและไม่เป็นพิษ

..........................................

(2) ต้นอ่อน (sprouts) และไมโครกรีน (micro-green) แตกต่างกันอย่างไร

ทั้งต้นอ่อนและไมโครกรีน ล้วนเป็นผลผลิตที่ได้จากการนำเมล็ดมากระตุ้นให้งอก (germinated seed)

แต่แตกต่างกันที่ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว

ต้นอ่อน เป็นต้นกล้าที่งอกแล้วยังมีส่วนของใบเลี้ยงที่ทำหน้าที่เก็บสะสมสารอาหารอยู่ จึงมักบริโภคทั้งต้น

ไมโครกรีน เป็นต้นกล้าที่เจริญเติบโตต่อหลังจากต้นอ่อน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ส่วนของใบเลี้ยงจึงไม่มีสารอาหารหลงเหลืออยู่และหลุดร่วง ในขณะที่มีการเติบโตของใบแท้จำนวน 2-3 ใบ มักบริโภคเฉพาะส่วนลำต้นเหนือดิน

..........................................................

(3) งอกแล้วดีอย่างไร

ประโยชน์ที่ได้หลากหลายขึ้นกับชนิดของเมล็ดพันธ์

ซึ่งมักจะเป็นด้านคุณค่าทางโภชนาการที่เพิ่มขึ้น

เช่น ถั่วลิสงงอกจะมีปริมาณโปรตีนเพิ่มขึ้น

งางอกมีปริมาณไขมันลดลง

ข้าวกล้องงอกมีสาร GABA - Gamma amino butyric acid

และที่สำคัญ "อร่อย" <3

ดูภาพเพิ่มเติม

ข้าวกล้องงอก

หมายเลขบันทึก: 584829เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2015 03:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม 2015 05:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เกิดเป็นคน..เห็นแต่จะกิน..เนอะ

ก็จริงครับ ธรรมชาติของชีวิต

กินอย่างไรให้สมดุลกับร่างกายและธรรมชาติ

โดยไม่เบียดเบียนจนเสียสมดุล

คือความท้าทายที่ต้องตระหนักแหละครับ

กินไม่เบียดเบียน กินแบบทำเองกินเอง นับว่าเป็นการ กินดีอยู่ดีนะครับ

เดี๋ยวนี้จะทานอะไรก็มีแต่สารปนเปื้อนทั้งนั้นเลยครับ

บางครั้ง อร่อยปาก ลำบากร่างกาย

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท