เธอ……….ผู้ที่ถูกลืม


เช้าวันหนึ่ง ซึ่งเป็นเช้าวันจันทร์ และเป็นวันแรกแห่งสัปดาห์การทำงาน ฉันก้าวเข้ามาในรพ.อย่างสดชื่น แม้ว่าจะเป็นเช้าแห่งความวุ่นวายในโรงพยาบาล โดยเฉพาะที่หน่วยงานผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุฉุกเฉิน ฉันเดินผ่านเข้ามายังที่ทำงานอย่างรีบเร่งดั่งเช่นทุกๆวัน เดินสวนทางและผ่านน้องๆ เสียงสวัสดีค่ะ สวัสดีครับ เป็นเสียงทักทายซึ่งกันและกันจากบุคลากรของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นบรรยากาสที่ดีในตอนเช้าของทุกๆวัน ที่ทุกคนได้เจอกันเป็นครั้งแรก ขณะที่ฉันกำลังง่วนอยู่กับการไขกุญแจเปิดประตูห้องทำงาน เสียงโทรศัพท์มือถีอก็ดังขึ้น ฉันรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ บ่นเบาๆ ใครโทรมาแต่เช้าเชียว เมื่อได้เข้ามาในห้องทำงานและวางกระเป๋า สัมภาระเรียบร้อยแล้ว จึงกดรับโทรศัพท์ เสียงปลายสายพูดมาอย่างร้อนรนว่า “ พี่แต๋วๆ หนุ่ยโทรจากทุ่งนางแก้ว มีคนไข้หนักมาก เขาส่งหลบมาจากหาดใหญ่ หมอไม่รับแล้ว มาแลด้วย มาเลยนะ แขบๆมา." นั่นเป็นเสียงของหนุ่ยผู้เป็น เครือข่ายผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายประจำตำบลของเรา ฉันรีบรับปาก และถามรายละเอียดเบื้องต้นและสถานที่อยู่ ของผู้ป่วยอย่างคร่าวๆ ในตอนบ่ายของวันเดียวกัน ฉันพร้อมกับน้องๆทีมดูแลผู้ป่วยที่บ้านได้เดินทางไปถึงบ้านหลังหนึ่งที่ตำบลน้ำผุด ซึ่งเป็นบ้านยกพื้นมีใต้ถุนสูง สภาพค่อนข้างเก่า และได้ต่อเติมใต้ถุนบ้านเป็นห้องพักสำหรับผู้ป่วยที่ขึ้นลงบนบ้านสูงไม่สะดวก ภาพชายวัย 60 ปีเศษ รูปร่างอ้วน ผิวสองสี ผมหยักศก หงอกขาวแซมประปราย ที่กำลังส่งเสียงเจ็บปวด ร้องโอดโอย พลิกตัวไปมา อยู่บนแคร่ไม้ในบ้านชั้นล่างที่ถูกต่อเติม เมือฉันเดินทางไปถึงพร้อมทีม ลุงวอนซึ่งเป็นชื่อผู้ป่วย (นามสมมุติ) แค่นยิ้มให้ฉันนิดนึง แววตาแห้งผากของลุงวอน มีประกายแห่งความหวัง ก่อนจะเล่าถึงอาการป่วยและอาการเจ็บปวดทรมานให้ฟังว่า มันช่างโหดร้ายเล่นงานจนลุงแทบขยับและเดินไม่ได้ ฉันได้พูดคุยและให้กำลังใจ ขณะที่น้องๆในทีมกำลังดูแลผู้ป่วย และเภสัชกรได้จัดยาแก้ปวดอย่างรุนแรงให้ลุงวอนกินนั้น ฉันได้ปลีกตัวมาดูประวัติการเจ็บป่วยและสอบถามอาการเพิ่มเติมจาก ป้าน้อยซึ่งเป็นภรรยาของลุงวอน ป้าน้อย วัยของเธอประมาณ เกือบ 60 ปี รูปร่างผอมบาง ผิวขาว หน้าตายิ้มแย้ม ท่าทางเป็นคนแข็งแรง กระฉับกระเฉง และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทำให้ฉันได้ทราบข้อมูลเพิ่มว่าลุงวอนป็นมะเร็งลำไล้ระยะสุดท้ายลุกลามไปยังกระดูกสันหลังและสมอง รับการรักษาที่รพ.หาดใหญ่แพทย์มีแผนการรักษาแบบประคับประคอง ป้าน้อยเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวครอบครัวและความเป็นมาเป็นไปเกี่ยวกับการเจ็บป่วยและการรักษาของลุงวอน และนอกจากป้าน้อยแล้ว ยังมีลูกหลานผลัดเปลี่ยนกันมาเฝ้าดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ดูแลตัวหลักก็คือป้าน้อยนั่นเอง ทีมของเราตระหนักดีว่าการดูแลผู้ป่วยระยะนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องการกำลังใจ ความไว้วางใจและสัมพันธภาพที่ดี สอดแทรกกับการดูแลด้านจิตวิญญาณ ความเชื่อของผู้ป่วยและครอบครัวนี้ ร่วมกับการให้ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วย และครอบครัว ยอมรับความเจ็บป่วยและการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น แม้ว่าทุกคนในครอบครัวลุงวอน จะยอมรับได้ว่าลุงวอนเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายก็จริงอยู่ แต่ทุกคนก็ยังไม่สิ้นความหวัง ทำให้ฉันรู้สึกสงสารครอบครัวนี้โดยเฉพาะป้าน้อยที่เฝ้าลุงวอนไม่ยอมห่าง ครั้งหลังๆ ที่ลุงอาการทรุดลง ป้าน้อย สีหน้าวิตกกังวล เครียด หน้าตาหมองคล้ำจากการอดนอน ทุกคนเข้าใจดีและยอมรับว่าวาระสุดท้ายของลุง กำลังจะมาถึง จึงอยากให้จากไปอย่างสงบ พวกเขาไม่อยากให้ลุงวอนทุกข์ทรมาน

<code>      ในขณะร่างกายกำลังเจ็บปวดและความตายกำลังจะมาถึง พระไพศาลวิสาโล ได้สอนไว้ว่า

“ระยะสุดท้ายของชีวิตสิ่งที่ผู้ป่วยหวาดกลัวมากที่สุดคือ การถูกทอดทิ้ง กลัวความตาย กลัวความเจ็บปวด อารมณ์จะแปรปรวน" ผู้ดูแลต้องดูแลอย่างใกล้ชิด มีเมตตา เข้าใจ อดทน รับฟัง พวกเราทีมผู้ดูแลได้พยายามดูแลผู้ป่วย ตามแนวทางการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ตั้งแต่ การให้ความรักความเมตตา ทำให้ผู้ป่วยยอมรับกับความจริง การช่วยให้ปล่อยวาง ปลดเปลื้องสิ่งที่ค้างคาใจ และให้จดจ่อในสิ่งที่ดีงามโดยได้นิมนต์พระมารับบินทบาตรให้ศีลให้พร ให้ผู้ป่วยมีโอกาสทำบุญ กับครอบครัว เปิดเทปธรรมะให้ฟัง ให้ยาแก้ปวดรุนแรงตามแผนการรักษา จัดสภาพแวดล้อมให้ สงบ สะอาด ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะดำเนินไปได้ด้วยดีเหมือนผู้ป่วยรายอื่นๆที่ทีมเราได้ดูแล แต่ในขณะที่พวกเรากำลังง่วนกับการดูแลผู้ป่วยดั่งเช่นวันก่อนๆ ทันใดนั้นสิ่งหนึ่งที่พวกเราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เสียงกริ้ดร้องเอะอะโวยวายของผู้หญิง เสียง ภาชนะเพล้งพล้างตกพื้น เสียงโครมคราม เสียงตะโกนอาละวาท ก็ดังกึกก้องขึ้นมาจากบริเวณหลังบ้าน ฉันสะดุ้งตกใจรีบลุกขึ้นยืนถอยตัวห่างออกมาด้วยสันชาตญาน เมื่อรับรู้ว่าน่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน เมื่อสติมาพวกเรารีบวิ่งเข้าไปดู ในใจของทุกคนมีแต่คำถาม เอ๊ะ ? เกิดอะไรขึ้น ภาพที่เห็นทำให้ฉันยิ่งตกใจหนักเข้าไปอีก ป้าน้อยนั่นเองที่มีอาการเครียดจัดกำลังถือมีดปลายแหลมจ่อคอตัวเอง กรีดร้อง อยากตายให้พ้นๆ พลางรำพึงรำพัน ด้วยเสียงร้องไห้ สลับกับเสียงหัวเราะ อนิจา! ฉันช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราทุกคน ต่างมุ่งมั่นที่จะดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย แต่เรากลับลืม ผู้ดูแล อย่างป้าน้อย ที่พวกเราประเมินจากภายนอกว่าดูดี และแข็งแรง เก่งและเข็มแข็งเหลือเกิน ในนาทีนั่นเอง เราทุกคนจึงหันมาสนใจป้าน้อย และเรายังพบว่าป้าน้อยเป็นอีกคนหนึ่งที่สำคัญ ที่พวกเราต้องให้การดูแลควบคู่ไปกับลุงวอน เนื่องจากป้าน้อยมีโรคประจำตัว ทั้งความดันโลหิตสูง และที่สำคัญป้าน้อยเคยป่วยด้วยโรคทางจิตเวชเราได้ประสานทีมสุขภาพจิตเข้ามาร่วมดูแล พวกเราได้ ปลอบใจ พูดคุย เปิดโอกาสให้ระบายความเครียด ให้ลูกหลาน มาสับเปลี่ยน ให้ป้าน้อยได้พักผ่อน ให้กำลังใจ นำหนังสือธรรมะ หนังสือสวดมนต์มาให้อ่าน เปิดเทปซีดีให้ฟังทุกวัน ดูแลให้กินยาตามแผนการรักษา ซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี ตั้งแต่วันนั้นมา ป้าน้อยสงบ มีกำลังใจ หน้าตาสดชื่นแจ่มใส ยอมรับความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เกือบๆ 1 เดือน พวกเราทุกคน ทีมดูแลผู้ป่วย ได้แวะเวียนไปเยี่ยมดูแลให้กำลังใจ กับครอบครัวนี้อย่างสม่ำเสมอ เปรียบเสมือนญาติคนหนึ่ง รวมทั้งการเยียวยาหัวใจป้าน้อยและครอบครัว เราตระหนักดีว่าทุกคนในครอบครัวมีความสำคัญหมดทุกๆคน พวกเราได้ทำให้ทุกคนยอมรับความสูญเสียที่เกิดขึ้น การเกิด แก่ เจ็บ ความตายคือเรื่องธรรมชาติ ที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่พ้น และแล้ววาระสุดท้ายของชีวิตลุงวอนได้มาถึง และมันจะอยู่ในความทรงจำ ของทุกคนในครอบครัวไปชั่วชีวิต ป้าน้อยนำ ลูกๆหลานๆกล่าวคำอำลา สงบนิ่ง แผ่เมตตา ให้ดวงวิญญาณของลุงวอนไปสู่สุขคติในสัมปรายภพ ฉันนั่งมองภาพนั้นอย่างซาบซึ้งใจ ปนเศร้ากับการจากไปของลุงวอนที่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งที่พวกเราได้ดูแลใกล้ชิดมากว่าเดือนเศษ ป้าน้อยเข้ามากอดฉัน ขอบคุณและให้พรเยอะแยะมากมาย จนฉันน้ำตาซึมด้วยความปิติอิ่มเอมใจ แถมแกยังบอกกับพวกเราว่าลุงไปดีไปสบายแล้ว ฉันยิ้มและจับมือให้กำลังใจป้าน้อย และบอกกับป้าว่าพวกเรายินดีเป็นกำลังใจเสมอค่ะ บทเรียน “ ทุกคนในโลกนี้ย่อมมีผู้ที่รักอย่างลึกซึ้ง รักอย่างห่วงใย ไม่มีใครอยากให้คนที่รักถูกพรากจากไป เขาจะทุกข์กาย ทุกข์ใจ เมื่อเห็นคนที่รักทุกข์ทรมาน โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าคนที่รักป่วยด้วยโรคที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต และจะจากไปชั่วนิรันดร์ในไม่ช้านี้แล้ว " ทีมดูแลผู้ป่วย นอกจากการดูแลผู้ป่วยครบถ้วนทุกมิติแล้ว จะต้องไม่ลืมที่จะดูแลผู้ดูแล ผู้ใกล้ชิด ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย เพราะนั่นคือการดูแลแบบองค์รวมที่แท้จริง

หมายเลขบันทึก: 581258เขียนเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2014 10:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2014 10:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท