เมื่อนัดหมายสังเกตชั้นเรียน แล้วไม่เป็นไปตามที่วางแผน
นัดหมายสังเกตการสอน เมื่อผู้นิเทศ (ศน.) กับครู นัดหมายกันแล้ว แต่ไม่เป็นไปตามแผน จะทำอย่างไรดี คือคำถาม ที่ศน. ต้องขยับ วิธีการ เตรียมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราคุยกันว่า จะดูเท่าที่ครูเขาเตรียมไว้ ไม่ให้เสียเที่ยว ..แต่เมื่อไปถึง สิ่งที่พบ คือ มีครูเพียงคนเดียว ที่สามารถ เตรียมการสอน และมีเป้าหมายชัดเจน สามารถร่วมกันศึกษาบทเรียน สังเกตและสะท้อนผลได้
ครูชัย ไม่ได้เตรียมอะไร เพราะนึกไม่ออก พยายาม ถามเพื่อน รร.ข้างๆ แล้ว แต่ไร้คำตอบ ครูนุ่ม ครูเปี๊ยก เตรียมแผนปกติ ทั้งสามท่าน บอกเหมือนกัน ไม่รู้ว่าการสอนที่ยึด PBL ควรจะเริ่มต้นสอนอย่างไร ..ครูรู้ว่าต้องเริ่มจากปัญหา แต่ จะให้ปัญหาดังกล่าวสู่ชั้นเรียน เป็นปัญหาที่เด็กอยากแก้ไข ไม่ใช่ครูบอก ต้องงทำอย่างไรดี
ด
ครูกรด หนองโพนโนนสมบูรณ์
..."บทเรียนที่ได้รับของ ศึกษานิเทศก์" คือ สิ่งที่เราป่าวประกาศ จัด อบรม นิเทศ เยี่ยมชั้นเรียน ติดตาม ล้วนไร้ประโยชน์ ถ้าเราไม่ลงไปช่วยเหลือ ไป coach อย่างจริงจัง
เราครุ่นคิดว่า ควรจะเริ่มต้นอย่างไรดี ค่อยๆ ให้ครู เรียนรู้ หรือ บอกเขาไปเลย ว่าต้องทำอย่างไร สุดท้าย ตัดสินใจไปที่ ค่อยๆ สัมภาษณ์เขา ไปทีละประเด็น ..รร. ชุมชน มีปัญหาอะไร เป็นอย่างไร ครูถนัดอะไร อยากสอนงานผ่านกระบวนการอะไร แล้วไม่เข้าใจตรงไหน .ผลงานชิ้นสุดท้าย ที่ต้องการให้ผู้เรียนเกิดคืออะไร หลังจากคุยกัน เกือบ ครึ่งชม.สำหรับครูในแต่ละคน ครูเริ่มมองเห็นแนวทางการสอนว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร และเป้าหมายสุดท้ายคืออะไร และรับปากว่า จะลอง นำไปปฏิบัติดู
ระยะแรก ไม่ได้คาดหวังว่า ครูจะต้อง มีเครื่องมือการประเมิน มีระบบการวัดผลที่เป็นระบบ แต่ เพียงแค่ครูเปลี่ยนพฤติกรรมการสอนและการจัดการเรียนรู้ จาก ที่เคยถ่ายทอดความรู้ บรรยาย กำหนด ให้นร.ทำ เปลี่ยนเป็น ทุกอย่างเริ่มต้นจาก นร.
ครูนุ่ม หนองพอกวิทยายน
อาจจะใช้เวลาเป็นปี หรือ อาจจะนานกว่านั้น เร็วกว่านั้น ..ไม่มีคำตอบ แต่ตัวผู้นิเทศ ก็รู้สึกภูมิใจและค่อยๆ เรียนรู้ไปพร้อมกับครูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า การcoach ครู แบบนี้ จะถูกต้องหรือ ไม่ คือบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกัน
ความเห็น (2)
การ coach ครั้งนี้ เราได้ คำพูดดีๆ ที่น่าสนใจ หลายคำ เช่น " ถ้าไม่ทดลองสอนดู หนูก็ไม่รู้เลยว่า open aproad จริงๆเป็นอย่างไร " "ถ้าไม่มี ศน. มาสังเกต ก็มองไม่เห็นเลย ว่าวิธีการสอนของเราบกพร่องตรงไหน" ประโยคนี้สนับสนุนบันทึกนี้ได้เป็นอย่างดีว่า แม่เราจะพัฒนาครูโดยการ workshop ก็ไม่ส่งผลให้ครูนำความรู้ไปใช้ได้อย่างแท้จริง
แต่การ workshop ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ขาดไม่ได้ซะเลยทีเดียว เพราะเป็นขั้นตอนการให้ความรู้ที่ ประสิทธิภาพทางหนึ่ง เหมาะกับคนไทยที่ไม่ชอบการอ่านหนังสือการ observe เป็นขั้นตอนสำคัญของการตรวจสอบการนำความรู้ไปใช้ ว่ามีประสิทธภาพ ตรงกับองค์ความรู้ที่ได้รับมามากน้อยเพียงใด