เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ คณะทำงานฯ ได้ร่วมกันจัดการอบรมเกี่ยวกับเรื่องระบบบริหารจัดการโครงการบริการวิชาการแก่สังคม หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่า “ฐานข้อมูลการบริการวิชาการแก่สังคม” ณ สำนักงานคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งมีคณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนิสิตเข้าร่วม ๓๑ หลักสูตร
การจัดทำฐานข้อมูลการบริการวิชาการแก่สังคม (ระบบบริหารจัดการข้อมูล) ในชื่อโครงการ “หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน” ถือเป็นอีกนวัตกรรมอีกชิ้นหนึ่งที่คณะทำงานได้เพียรพยายามบุกเบิกและขับเคลื่อนขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๕
การขับเคลื่อนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งจากการศึกษาวิจัยเรื่อง “ระบบและกลไกการจัดตั้งหน่วยวิจัยเพื่อท้องถิ่นในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม” อันเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยมหาสารคามกับ สกว.ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น ซึ่งการวิจัยในปีที่ ๑ ค้นพบระบบและกลไกสำคัญๆ ๕ ประเด็น กล่าวคือ
โดยเรื่องระบบฐานข้อมูล (ระบบบริหารจัดการข้อมูล) เป็นหนึ่งในระบบและกลไกเรื่อง “การสื่อสารสร้างพลัง” ซึ่งตลอดปี ๒๕๕๕-๒๕๕๗ คณะทำงานได้รังสรรค์ออกมาในหลายลักษณะ เช่น เรื่องเล่าเร้าพลัง (storytelling) หนังสืออ่านเล่น (หนังสือเล่มเล็ก) Blog โปสเตอร์ วีดีทัศน์ หนังสั้น ภาพถ่าย เว็บไซด์ Faecbook จดหมายข่าว E-book นิทรรศการ ฯลฯ
ปัจจุบันระบบฐานข้อมูลดังกล่าว ปรากฏเป็นรูปร่างที่ชัดเจน สามารถสืบค้นข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม ข้อมูลทั้งหมดไม่ได้ครอบคลุมแต่เฉพาะงานบริการวิชาการแก่สังคม (หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน) เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงภารกิจอื่นๆ อาทิ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม (หนึ่งคณะหนึ่งศิลปวัฒนธรรม) และการวิจัยเพื่อชุมชน ซึ่งทั้งหมดเรียกในภาพรวมร่วมกันว่า “งานวิชาการรับใช้สังคม”
อ.กนกกุล มาเวียง : อาจารย์ผู้รับผิดชอบโครงการหลักสูตรสาขาเกาหลี
และคณะกรรมการหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน
ระบบฐานข้อมูลดังกล่าวนี้ได้รับการพัฒนาร่วมกันระหว่างคณะทำงานโครงการหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชนและคณาจารย์ในสังกัดคณะวิทยาการสารสนเทศ ซึ่งมี อาจารย์สำรวน เวียงสมุทร เป็นผู้พัฒนาโปรแกรมและมีนางสาวจันเพ็ญ ศรีดาว หัวหน้างานประชาสัมพันธ์และสารสนเทศจากกองกิจการนิสิตทำหน้าที่ดูแลระบบสืบมาจนถึงปัจจุบัน
ระบบฐานข้อมูลชุดนี้สามารถถูกออกแบบให้อาจารย์ผู้รับผิดชอบแต่ละโครงการสามารถนำข้อมูลต่างๆ ลงสู่ระบบได้ด้วยตนเอง ทั้งที่เป็นข้อความ ไฟล์โครงการ ภาพถ่าย วีดีโอ ฯลฯ และสามารถดึงข้อมูลออกไปสู่การรายงานและเผยแพร่เป็นเอกสารได้อย่างไม่ซับซ้อน รวมถึงบุคคลภายนอกก็สามารถเข้าสืบค้นได้อย่างไม่ยากเย็น เพียงแต่จะไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระบบของฐานข้อมูลได้
อย่างไรก็ดีระบบฐานข้อมูลชุดนี้สามารถเข้าไปสืบค้นได้โดยง่ายผ่านคำสำคัญๆ ต่างๆ เช่น ชื่อนักวิชาการ (ผู้รับผิดชอบ) ชื่อโครงการ ชื่อหลักสูตร ชื่อคณะ ชื่อหมู่บ้าน (ชุมชน) ชื่อปีงบประมาณ ประเด็นเนื้อหา ประเภทโครงการ ซึ่งทั้งปวงนั้นเมื่อสืบค้นเข้าไปจะทำให้รู้ว่าการขับเคลื่อนโครงการหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน หรืออื่นๆ ในมิติงานวิชาการรับใช้สังคมของมหาวิทยาลัยมหาสารคามในรอบปี ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ดำเนินการไปในทิศทางใด มีชุมชน หรือประเด็นเชิงพื้นที่อะไรที่ขับเคลื่อนไปบ้างแล้ว
ผศ.ดร.ฉันทนา เวชโอสถศักดา : ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต
ผู้รับผิดชอบหลักด้านหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน
ในอนาคตอันใกล้นี้คณะทำงานวางหมุดหมายแจ่มชัดว่าปี ๒๕๕๗-๒๕๕๘ ฐานข้อมูล หรือ “ระบบบริหารจัดการข้อมูล” จะถูกพัฒนาขึ้นมาในอีกระดับหนึ่ง นั่นก็คือการจัดเข้าสู่ระบบ “GIS” เพื่่อให้มีมาตรฐานและเป็นสากลมากขึ้น
อย่างไรก็ดีกระบวนการขับเคลื่อนมิได้เพียงพัฒนาระบบสารสนเทศเท่านั้น หากแต่ยังพัฒนาศักยภาพของอาจารย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องไปพร้อมๆ กัน ดังจะเห็นได้จากในแต่ละปีการศึกษา หรือปีงบประมาณ คณะกรรมการดำเนินงานได้จัดเวทีอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับอาจารย์และบุคลากร หรือกระทั่งนิสิตที่เกี่ยวข้องอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง เพื่อให้แต่ละคนสามารถบริหารจัดการระบบข้อมูลต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งหมายถึงรวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นจุบัน
จันเพ็ญ ศรีดาว : ผู้ดูแลระบบฐานข้อมูล
ปรีชา ศรีบุญเศษ : ผู้ดูแลสื่อสร้างสรรค์
เวทีการอบรมดังกล่าว ไม่เพียงเสริมสร้างความรู้และทักษะเกี่ยวกับระบบบริหารการจัดการข้อมูล (ฐานข้อมูล) เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้แต่ละคนได้ร่วมให้ข้อเสนอแนะที่เกี่ยวกับการพัฒนาระบบบริหารจัดการข้องมูลร่วมกัน รวมถึงการช่วยให้อาจารย์จากแต่ละหลักสูตรได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับคณะทำงานของมหาวิทยาลัยฯ ในประเด็นต่างๆ ที่เป็นปัญหาอุปสรรค ความสำเร็จ ตลอดจนการเขียนรายงานผลการดำเนินงาน การจัดทำวีดีทัศน์ การเขียนเรื่องเล่าเร้าพลัง การเบิกจ่ายงบประมาณ ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการจัดการความรู้และความรักร่วมกัน ยึดโยงความเป็นเครือข่ายไปอย่างแน่นเหนียว
แน่นอนครับ ฐานข้อมูลหรือระบบบริหารจัดการข้อมูลชุดที่จัดทำขึ้น ย่อมทำหน้าที่เป็นเสมือน “คลังข้อมูล” หนุนเสริมการทำงานของเหล่าบรรดานักวิชาการที่ทำงานวิชาการรับใช้สังคมได้เป็นอย่างดี เพราะจะทำให้รู้ว่าแต่ละชุมชนมีการขับเคลื่อนประเด็นเชิงพื้นที่อะไรไปบ้างแล้ว – หรือเรียกง่ายๆ คือใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร... ย่นเวลาของการต้องไปสอบถาม ค้นโจทย์ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนชาวบ้านในชุมชนรู้สึกเหนื่อยกับการต้องให้ข้อมูล...ซ้ำแล้วซ้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ต่อเมื่อฐานข้อมูล หรือระบบบริหารจัดการข้อมูลมีประสิทธิภาพ ย่อมช่วยให้การทำงานเห็นภาพที่ชัดขึ้น สามารถต่อยอดได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถยึดโยงเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาผนึกกำลังร่วมกันได้อย่างไม่ยากเย็น
๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗
สำนักคอมพิวเตอร์ ม.มหาสารคาม
เป็นหลักสูตร ที่ดีมากๆๆ นะคะ ได้เห็นภาพ เห็นความตั้งใจ ของผู้มาร่วมกิจกรรม มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ใส่ใจ แล้ว ===> สุดท้าย .... ผลลัพธ์ของการประเมินผลโคลงการ "สำเร็จตามวัตถุประสงค์" แน่ๆๆค่ะ นั้นคือ เกิดประสิทธิผล และเกิดประสิทธิภาพ นะคะ
ขอบคุณค่ะ
ชอบใจฐานข้อมูลที่เข้าถึงง่าย
คนทั่วไปก็เข้าถึงได้
ในแต่ละปีมีโครงการเพิ่ม
ปี 57 บวกศิลปและวัฒนธรรมเข้าไปด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ
รอฐานข้อมูล GIS เสร็จครับ
รอดูผลงานด้วยคนครับอาจารย์แผ่นดิน :)
ขอบพระคุณครับ พี่ อ.Dr. Ple
เวทีนี้ ต้องการให้อาจารย์แต่ละหลักสูตรมีส่วนร่วมกับการลงข้อมูลด้วยตนเองครับ และจะได้พัฒนาข้อมูลของแต่ละหลักสูตรอย่างเป็นปัจจุบัน เพราะลำพังคงลำบากเหมือนกันที่จะส่งมายังทีมส่วนกลาง แต่กระนั้นหากส่งมา เราก็ยินดีนำข้อมูลลงให้นะครับ...
ปีนี้หมายใจปักหมุด GIS ....
ซึ่งน่าจะก่อเกิดประโยชน์กว้างขวางขึ้นครับ
ใช่แล้วครับ เพชรน้ำหนึ่ง
เห็นด้วยกับวาทกรรมนี้ครับ การบริหารจัดการที่ดี..ส่งผลให้เกิดผลดี
ถือเป็นปัจจัยความสำเร็จขนานแท้
ฐานข้อมูลที่ทำขึ้น อีกสถานะก็คือจดหมายเหตุดีๆ นั่นเอง ครับ
ขอบคุณครับ อ.ขจิต ฝอยทอง
ตอนที่คิดระบบข้อมูล-ระบบสารสนเทศนี้ ผมเองก็เน้นแนวคิดการเข้าสืบค้นเบื้องต้นอย่างง่ายๆ....
วันนี้อาจยังลงระบบข้อมูลได้ไม่ทั้งหมด แต่ก็จะพยายามครับ พยายามทำไปเรื่อยๆ ทำไปเรียนรู้ไป
และคัดกรองความสมบูรณ์ของแต่ละเรื่อง เพื่อนำไฟล์ฉบับเต็มลงสู่การบันทึกและเผยแพร่ต่อไป
ขอบคุณครับ คุณแว้บ
ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจนะครับ
ดอกผลแห่งความตั้งใจ ไม่นานนี้ ก็คงผลิบานในเร็ววัน กระมังครับ 55