วันนี้มีแรงกระตุ้นให้เขียน เป็น 'วาบ' ความคิด
จากการอ่านข่าวเล็กๆ
" “หนังสือที่นักเขียนมาจากออนไลน์จะไม่ใช่แนวนิยายเป็นส่วนใหญ่อีกแล้ว เพราะที่มาแรงในงานครั้งนี้จะเป็นพ็อกเก็ตบุ๊คที่เกี่ยวกับความรู้ ความคิดในด้านต่างๆ รวมถึงหนังสือภาพ คาดว่าอาจเพราะนักเขียนมีฐานของแฟนคลับจึงทำให้ยอดขายหนังสือแนวนี้ไปได้ดี และการันตียอดขายได้ในระดับหนึ่ง โดยหนังสือส่วนใหญ่จะเป็นการเขียนใหม่ขึ้นมา หรือจัดคอนเซ็ปต์เล่มอย่างชัดเจน
ในส่วนของหนังสือแนวพัฒนาตัวเองนั้น กระแสเกิดขึ้นจากสภาพสังคมที่ผู้คนกำลังสับสนกับสภาวะเศรษฐกิจและสังคมภายนอก จึงตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด รวมถึงสร้างรายได้เพิ่มทั้งจากอาชีพและการลงทุนที่น่าสนใจคืองานมหกรรมหนังสือฯครั้งนี้.."ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1...
และจากการตัดสินใจยกเลิกการใช้บริการธนาคารหนึ่ง
ด้วยเหตุผล ความไม่สะดวกของระบบ internet banking
ที่ให้โอกาสปรับปรุง แล้วก็ยังไม่ดีขึ้นนัก
อะไรจะเป็นทรัพย์สินมีมูลค่าสูงสุด ใน ศตวรรษถัดไป ?
<p>ในยุคเกษตรกรรม คือ ที่นา
ในยุคอุตสาหกรรมตอนต้น คือ ทอง
ในยุคอุตสาหกรรมตอนปลาย คือ หุ้น
ผ่านสู่ยุคข้อมูลข่าวสาร ทั้งที่นา ทอง และหุ้น ก็ยังสิ่งมีค่าอยู่
แต่เมื่อทุกคนก็พยายามถือครอง ก็มี ‘ราคา’ ต้นทุนถูกจึงไม่มี
ผลตอบแทนก็ย่อมไม่สูงเลิศเลอเหมือนแต่ก่อน..เป็นสัจธรรม
สิ่งที่มี ‘ราคา’ สูงแล้วในประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจโลกคือ ‘สื่อเพื่อพัฒนาตนเอง’
หนังสือชื่อ ‘Strength finder’ ติดอันดับ Best seller มา 4 ปี (ที่มา)
คอร์สเกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจ และการพัฒนาตนเอง ของ John Maxwell, Brian Tracy
ราคาบัตรแพงกว่าคอนเสิร์ต ก็มีคนเต็ม
ขณะที่ประเทศไทยเรานั้น เริ่มเห็นกระแสนี้ และข้าพเจ้ามองว่ากระแสนี้จะแรงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ต้นทุนถูก คอร์สดีๆ ที่ให้เข้าฟรียังมีอีกมาก
คนที่ ‘โชคดี’ ก็คือ คนที่พัฒนาตนเองให้รองรับกับโอกาสเมื่อมาถึง
ทรัพย์สิน (Asset) ที่มีค่าสูงสุด ในศตวรรษถัดไป ไม่ใช่ความรู้ แต่เป็น การพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
ยินดีด้วยกับ ผู้เริ่มหยอดกระปุกการพัฒนาตนเอง มาตลอด
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องอะไร..ที่ท่านบอกกับตนเองได้ว่า ทำดีขึ้นกว่าเมื่อวาน
ยากยิ่ง..เจ้าค่ะ..มันเคยชิน..ซ้ะแล้ว..(ต้องยอมรับ)..ชี้นิ้วง่ายกว่า..จะมองดูว่ากี่นิ้วที่ชี้มาหาตัว..น่ะเจ้าค่ะ..กับการพัฒนาตัวตน..๕แต่..ถ้านับหนึ่งถึงสามได้..ก็คงนับได้ถึงสิบ..อิอิ..(หวังๆๆๆ)..๕
In my words, it's the triple L (LLL for Life Long Learning) drive ;-)
Please note: 'drive' : force to propel (something) or grit : (as in 'true grit') determination (to do something); (slang) guts (as in you have the guts to do something).
;-)
เรียนรู้ด้วยการฝึกหัด
ปฎิบัติเรียนรู้เพื่อศึกษา
หาเลี้ยงชีพมีชีวิตวัฒนา
มีวิชาประสบการณ์บริหารงานชุมชน (การพัฒนาตนเองอยู่เสมอ)
...ส่วนตัวมีหลักในการพัฒนาตนเองง่ายๆค่ะ...ยอมรับ ...ชื่่นชม...และแสวงหา..นะคะคุณหมอป.
ขอบคุณค่ะคุณหมอ
การที่มีสื่อให้พัฒนาตนเองสำคัญมากเลยครับ
หนังสือเหล่านี้ขายดีมาก
ขอบคุณมากๆครับ
ให้นึกถึง K M แบบ "ปิ้งแว๊บ" ขึ้นมาเลยค่ะ
Ajarn Sujin (สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธศาสนา และ ประธานกรรมการ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา)'s word came to me: (in quotes)
"When you see the importance of pa~n~naa, no matter where, among people, in the forest, at home, in the hotel or anywhere, pa~n~naa comes to your mind because it's developed to that degree that you see nothing is more important than pa~n~naa.
You don't mind where you are, you don't mind whether you're sick or not sick, you don't mind anything at all - only pa~n~naa for you in your life is the most important thing."
NB: pa~n~aa (in Roman script) or ปัญญา (in Thai script) is ONE BIG GOAL of being a Buddhist. In short
1) siila or สีล (vinaya in the Books of Tipitaka) is a goal for 'right actions' or living
2) samaadhi or สมาธิ is another goal for gaining enlightenment or learning
3) Pa~n~naa or ปัญญา is the ultimate goal of being a Buddhist -- to understand the Nature of things or Dhamma.
It seems to me that we are seeing an example of 'a final endeavour' in this post.
Sadhu ;-)
ขอบคุณ และสาธุค่ะ
เมื่อตอนพยายามออกแสวงหานั้น ภายในใจไม่สงบ เมื่อมีสิ่งกระทบจากภายนอกแม้เพียงเล็กน้อย ก็ปั่นป่วน น้อยใจง่าย
เมื่อ ภายในใจสงบนิ่ง เมื่อมีสิ่งกระทบก็กระเพื่อมเพียงเล็กน้อย
เรื่องเล็กหรือใหญ่ ขึ้นอยู่กับใจเราสะเทือนเพียงไร :)