ขอความร่วมมือช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำโทษนักเรียนหน่อยนะค่ะ ว่าพี่ๆ และเพื่อนๆ มีความคิดเห็นอย่างไร


"...ทารุณ หรือ สั่งสอน..."

ครูโหด! ใช้ไม้ขนไก่ตีหัวเด็กนักเรียนจนเลือดอาบ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 มิ.ย. 2557 15:09

แม่เดือด! บุกแจ้งความร้องขอความเป็นธรรม ครูโหดใช้ไม้ขนไก่ตีศีรษะลูกชายจนเลือดอาบ

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 57 เวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีเด็กวัย 9 ขวบ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดศรีมงคล ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ถูกครูตีศีรษะจนแตกเลือดอาบใบหน้า ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านพักย่าน ต.หาดอาษา อ.สรรพยา ที่เป็นบ้านของนางเบญญาภา ชุ่มชวย อายุ 43 ปี แต่ไม่ทันได้พบ เพราะคนในบ้านบอกว่าพา ด.ช.หนุ่ม (นามสมมติ) ไปหาหมอที่ รพ.สรรพยา ผู้สื่อข่าวจึงตามไปที่โรงพยาบาล

พบนางเบญญาภาและ ด.ช.หนุ่ม ที่ถูกครูลงโทษด้วยไม้ขนไก่ตีศีรษะ แถมยังตบหลังอีก 1 ที กำลังนั่งรอให้แพทย์ตรวจอาการ ซึ่งขณะนั้นพบว่ามีอาการปวดศีรษะ

จากการสอบถาม ด.ช.หนุ่ม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 13.00 น. ขณะตนกำลังเรียนวิชาสังคม โดยมี นายบุญมาก จุฑานนท์ อายุ 59 ปี เป็นครูสอน ระหว่างนั่งเรียนอยู่ ตนได้ขอยืมยางลบจากเพื่อนผู้หญิงที่นั่งข้างกัน ชื่อ โดนัท (นามสมมติ) แต่ ด.ญ.โดนัท ไม่รู้ว่ายางลบหายไปไหน จึงให้เพื่อนไปฟ้องนายบุญมาก จากนั้นนายบุญมากก็เดินมาพร้อมถือไม้ขนไก่ปัดฝุ่น แล้วตีเข้าที่ศีรษะตน 7 ครั้ง และตบหลังอีก 1 ครั้ง ระหว่างที่ถูกครูตี ตนได้ยกแขนซ้ายขึ้นป้องกัน ไม่ให้ครูตีถูกศีรษะ นายบุญมากจึงพูดขึ้นว่า "เองจะสู้ครูเหรอ" จากนั้นก็อยู่เรียนพิเศษที่โรงเรียนต่อจนถึงเวลา 17.00 น. โดยไม่มีครูพาไปหาหมอเลย

ทางด้าน นางเบญญาภา ผู้ปกครองเด็ก กล่าวว่า หลังจากโรงเรียนเลิกขณะที่ตนกำลังทำกับข้าวและขายของเบ็ดเตล็ดอยู่ที่บ้านนั้น ก็มีเพื่อนรุ่นพี่มาถามว่า รู้หรือไม่ว่า ด.ช.หนุ่ม ลูกชาย ถูกครูตี ได้ยินเช่นนั้นตนก็รีบขี่รถ จยย.ไปโรงเรียนทันที ก็พบว่าลูกชายมีเลือดไหลเต็มใบหน้า ด้วยความตกใจว่าทำไมทำกับลูกชายของตนเช่นนี้ จึงรีบพาลูกไปหาหมอที่ รพ.สรรพยา พร้อมเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สมพงษ์ ชูกุศล ร้อยเวร สภ.สรรพยา เพื่อให้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาวันที่ 13 มิ.ย. 57 เวลาประมาณ 09.00 น. ครูถนอมทิพย์ก็มาเจรจาที่บ้าน โดยขอร้องให้ยกโทษให้นายบุญมาก เพราะนายบุญมากเหลืออีกเพียง 1 ปีกว่า ก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว อีกอย่างสุขภาพร่งกายก็ไม่แข็งแรง ด้วยความข้องใจตนจึงถามกลับไปว่า แล้วทำไมช่วงที่ลูกของตนถูกนายบุญมากทำโทษ ถึงไม่มีใครพาไปหาหมอเลย ถ้าเป็นลูกหลานครูถูกลงโทษแบบนี้ จะรับได้หรือไม่

ทั้งนี้ ภายหลังจากเพื่อนบ้านแนะนำ นางเบญญาภาก็ไปหานายบุญมากที่บ้านพักช่วงหลังเลิกเรียน แต่นายบุญมากนั่งอยู่ในบ้าน ให้ภรรยาออกมาพูดคุยที่หน้าบ้าน ทันทีที่นายบุญมากเห็นว่าเป็นแม่ของ ด.ช.หนุ่ม มา ก็ตะโกนออกมาว่า "กูระงับอารมณ์ไม่อยู่ เด็กมันดื้อ ซน ชอบรังแกเพื่อน" ทำให้นางเบญญาภายิ่งไม่พอใจ และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่มีการยอมรับผิดและขอโทษแต่อย่างใด

ทางด้าน ร.ต.อ.สมพงษ์ ร้อยเวรเจ้าของเรื่อง เผยว่า ได้รับเรื่องและลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และในวันจันทร์ที่ 16 มิ.ย.นี้ ช่วงเช้าจะนำ ด.ช.หนุ่ม พร้อมทั้งเพื่อนๆ พยาน ที่เห็นเหตุการณ์ ไปทำการสอบปากคำต่อหน้าอัยการ เนื่องจาก ด.ช.หนุ่ม มีอายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น จากนั้นจะเชิญตัวนายบุญมาก มาสอบปากคำเพื่อดำเนินการต่อไป.

หมายเลขบันทึก: 579164เขียนเมื่อ 23 ตุลาคม 2014 15:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม 2014 17:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

การลงโทษนักเรียนเมื่อนักเรียนทำผิด ก็ควรลงโทษตามความเหมาะสม เพื่อเป็นการฝึกระเบียบวินัยและการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นของตัวนักเรียนเองด้วย ควรลงโทษตามเหตุตามผลที่สมควร แต่ถ้าการลงโทษรุนแรงเกินไป ก็ไม่เหมาะไม่ควร

ผมเคยเป็นนักเรียน หากนักเรียนทำผิดก็ต้องมีการลงโทษ ถ้าการลงโทษเกิดจากความหวังดีจากครู อาจารย์เพื่อให้นักเรียนเป็นคนรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย ก็เป็นผลดีแก่นักเรียนเอง แต่หากเกิดจากอารมณ์และเกินกว่าเหตุมันก็จะเกิดผลร้ายต่อทั้งสองฝ่าย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท