พี่ๆและเพื่อนครูมีความคิดเห็นอย่างไรในการกระทำของครูที่ลงโทษเด็ก
อยากให้พี่ๆและเพื่อนครูแสดงความคิดเห็น
ในการกระทำของครูที่ลงโทษเด็กในข่าวนี้หน่อยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
แม่โวย ครูทำโทษลูกเกินกว่าเหตุ ตีก้น 80 ที
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน sanook.com
(1 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจงจากผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านหนองปรือ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ว่า ลูกชายถูกทำโทษจากคุณครูเกินกว่าเหตุ ซึ่งได้แจ้งไปยังหน่วยงานต้น สังกัด พร้อมแจ้งความขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับคุณครูรายนี้ แต่ปรากฏว่าผ่านมาเกือบสัปดาห์ ยังไม่มีความคืบหน้า เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายปริญญา (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ลูกชายถูกคุณครูตีตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา แรกๆ ลูกก็ไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตนเองรู้สึกผิดสังเกต ที่ลูกชายมาขอยาแก้ปวดกิน จึงได้สอบถาม จนกระทั่งยอมบอกว่าถูกคุณครูทำโทษ เนื่องจากลืมนำสมุดการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ไปส่ง และมีเพื่อนที่ถูกทำโทษพร้อมๆ กันอีก 5 คน โดยคุณครูบอกว่าจะทำโทษด้วยการใช้ไม้เรียวตีที่ก้น 80 ที ซึ่งพบว่ายังมีร่องรอยเขียวช้ำอยู่ที่ก้น
นาย ปริญญา ยังได้กล่าวอีกว่า หลังจากทราบเรื่อง รู้สึกว่าคุณครูรายนี้ทำเกินกว่าเหตุ จึงได้แจ้งไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนและหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมทั้งยังได้แจ้งความเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ผ่านไปหลายวันก็ยังไม่มีความคืบหน้า ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขอร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน
ทางด้าน นายศุภณัฐ จันประตูมอญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองปรือ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า ทางโรงเรียนทราบเรื่องเป็นอย่างดี และไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งกรรมการเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง เบื้องต้นยอมรับว่า คุณครูรายนี้ได้ทำโทษเด็กจริง แต่อาจจะไม่ได้ตีถึง 80 ที ตามที่เด็ก ๆ และผู้ปกครองแจ้งมา อย่างไรก็ตามจากร่องรอยความเขียวช้ำบนตัวเด็ก ก็มีความชัดเจนว่า เป็นการลงโทษ ที่เกินกว่าเหตุ ซึ่งหลังจากตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ก็จะมีการพิจารณาลงโทษทางวินัยต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยังได้มีคลิปวิดีโอ ถูกแชร์เผยแพร่ในโลกออนไลน์ ซึ่งกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเวลานี้ มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา บ้างก็เห็นด้วยกับการลงโทษเด็กนักเรียนที่ผิดระเบียบด้วยวิธีนี้ บ้างก็เห็นว่าวิธีการลงโทษเช่นนี้รุุนแรงเกินไป
ความเห็น (27)
ปาริฉัตร์ ฉัตรอำนวยกุล
คิดว่าอาจารย์ทำเกินกว่าเหตุ การทำโทษด้วยการตีไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องเสมอไป ถ้าจะตีก็ควรให้พอดี หรือไม่ก็ลงโทษด้วยการหักคะแนน การทำงานเพิ่ม ทำความสะอาดห้อง วิ่งรอบสนาม ทำรายงาน เป็นต้น อยากให้มีกฎออกมาเข้มงวดเรื่องนี้มากขึ้น จะได้ไม่เกิดข่าวแบบนี้อีก
ทำโทษเกินกว่าเหตุ แค่ลืมสมุดการบ้าน ใช้วิธีการลงโทษแบบอื่นก็ได้
การลงโทษของครู สำหรับเรามองว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่ในกรณีตัวอย่างที่ยกมานั้น เราคิดว่าเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ แต่ก็ต้องรับฟังความเห็นของครู ที่กระทำการดังกล่าวด้วย เพราะถ้าแค่ลืมสมุดการบ้าน ลงโทษขนาดนี้ถือว่ารุนแรงเกินไป น่าจะมีวิธีการพูด หรือแนะนำเด็กให้ปฎิบัติตาม ไม่ใช่ใช้ความรุนแรงเป็นต้วข่มขู่เด็ก ทำให้เด็กเกิดความกลัว เพราะไม่ใช่เป็นวิธีการสอนที่ถูกต้อง พูดให้เค้าเข้าใจ และใช้วิธีละมุนละม่อมก่อนดีกว่า เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ครูก็สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อให้เด็กรับรู้ และเข้าใจได้
คิดว่า ไม่ผิดที่ครูจะลงโทษด้วยวิธีตี ไม้เรียวบางทีก้อทำให้เด็กเป็นคนดีได้ แต่ 80ที น่าจะเกินก่าเหตุ ในความผิดที่นักเรียนทำ หรือคุณครูจะลงโทษโดยวิธีอื่นก็ได้ เช่นให้ไปเก็บขยะรอบโรงเรียน หรือทำความสะอาดห้องเรียน น่าจะดีกว่าค่ะ
นักเรียนทำผิด ไม่อยู่ในกฎ ก็ต้องมีการสั่งสอนกันเป็นธรรมดา แล้วแต่ระดับการทำผิดของนักเรียน การสั่งสอนนั้นก็มิใช่แค่การตี ถึงจะต้องตีเพื่อให้จำ การทำผิดครั้งต่อไปจะได้เกรงกลัวว่าจะถูกตีอีก แต่ตีเกินความจำเป็น ตีจนเกิดความเจ็บปวดที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ต้องทบทวนเรื่องการควบคุมอารมณ์แล้วละครับ
Benchaporn
ดิฉันคิดว่าการทำโทษนักเรียนนั้นต้องมีขอบเขต กล่าวคือ คุณครูสามารถทำโทษนักเรียนได้แต่ต้องเป็นการทำโทษที่เหมาะสม มีเหตุผลชัดเจนในการลงโทษว่านักเรียนทำผิดอะไร แล้วการทำผิดดังกล่าวนั้นมีความรุนแรงระดับใด จากนั้นจึงควรลงโทษอย่างสมเหตุสมผล จากกรณีดังกล่าว นักเรียนลืมนำสมุดการบ้านวิชาคณิตศาสตร์มาส่ง คุณครูควรสอบถามสาเหตุก่อนว่าทำไมจึงลืมนำมา ถ้าเป็นครั้งแรกอาจทำการกล่าวตักเตือนก่อน แต่ถึงอย่างไรก็ตามในกรณีนี้ถือว่าคุณครูลงโทษเกินกว่าเหตุ จนเป็นเหตุให้นักเรียนได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารโรงเรียน พิจารณาบทลงโทษแก่คุณครูที่ทำการไม่สมควรนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดซ้ำในสังคมไทย และคุณครูเองก็ควรทบทวนตนเองด้วย ว่าลงโทษนักเรียนรุนแรงไปหรือไม่
การลงโทษเด็ก ตี 80 ที ถือว่าเกินกว่าเหตุ ปัจจัยสำคัญ คือเด็กถูกทำโทษนั้น มีความผิดมากน้อยเท่าไร
การตีคือวิธีทำโทษแบบไทยไทย
แต่ปัจจุบันผู้ปกครองมีความรักลูกหลานแบบผิดๆ คือ
ไม่ตีลูก ห้ามคนอื่นตีลูกตัว ตามที่เป็นข่าว ครูอาจจะตีไม่กี่ที แต่ผู้ปกครองประโคมข่าว ว่าตีไปเกือบร้อยที
และอีกประการหนึ่ง คือครูควรพิจารณาโทษหนักเบา ว่าสมควรตีลูกศิษย์หรือไม่ เมื่อ
มีเหตุต้งตีควรตีกี่ที ถ้าไมสมควรตี ควรทำเช่นไร มีการลงโทษหลายอย่าง เช่น ตัดคะแนนจิตพิสัย
ไม่ส่งการบ้านก็ไม่ต้องได้คะแนนเช่นนี้ เปนต้น
Ladychamai
มองได้สองแง่ค่ะหากจะแก้ก็ต้องแก้ทั้งสองฝ่าย
1. มองในฐานะผู้ปกครอง 80นี่ถือว่าเยอะมากแค่20ทีก็โอเคแล้ว อีกทางเลือกนึงน่าจะโทรไปสอบถามผู้ปกครองว่าที่เด็กลืมการบ้านสาเหตุเพราะลืมจริงๆหรือติดปัญหาอะไร
2. มองในฐานะครูต้องถามว่าตีขนาดนี้คือสั่งทำไปกี่อาทิตย์ เด็กแกเรอยู่แล้วรึเปล่า ถ้าจะพูดให้จริงคือสมัยรุ่นพ่อเราทำโทษมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป แต่สาเหตุเกิดจากอะไรตัวท่านนั้นรุ้ดีบางทีที่เด็กไม่บอกพ่อแม่เพราะเด็กอาจผิดจริง
การเสพย์ข่าวต้องฟังหูไว้หู.จะตัดสินใจเพียงเพราะฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ได้
Charuayporn
เหตุการณ์นี้ต้องฟังความทั้งสองฝ่ายค่ะ การลงโทษครั้งนี้ไม่น่าจะถูกตีถึง 80 ที แต่อย่างไรก็ตามถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากการทำโทษมีหลายวิธี และการตีจนเกิดร่องรอยขนาดนี้ดูเหมือนเป็นการทำร้ายร่างกายเด็กมากเกินไป(สำหรับเด็กที่ลืมส่งการบ้าน) แต่ถ้าเด็กมีปัญหาซ้ำซากก็ควรพูดคุยกับผู้ปกครองหรือทำโทษด้วยวิธีอื่นที่ไม่รุนแรงจนเกินไป
ถ้าเป็นเรื่องจริง คิดว่าเป็นการทำโทษเกินกว่าเหตุ กับการตีด้วยไม้เรียวถึง80ทีด้วยสาเหตุเพียงแค่ลืมส่งการบ้าน
ลงโทษเกินเหตุไปนะ
พูดจากันดีๆๆ ก็ได้ค่ะ เด็กก็คือเด็ก ต้องการคนรับฟังเห็นผลว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น เพราะทุกคนย่อมมีเหตุผล เพียงแต่ว่าไม่ถูกต้อง ไม่ถูกใจ ก็เท่านั้นเอง คนเป็นครูต้องใจเย็นให้มาก และมีเหตุผลด้วยค่ะ เด็กลืมวันหลังเอามาส่งก็ได้ ตัดคะแนนส่งการบ้านช้านะค่ะ
สำหรับเราเราว่า การลงโทษเด็กควรจะอยู่ในขอบเขตการลงโทษนิดนึงอะค่ะ เพราะ ว่าเด็กบางคนเค้าอาจจะไม่รู้เรื่องก็ได้ เราก็ควรจะตักเตือนเค้าเสียก่อน ไม่ใช่ไปลงไม้ลงมือหนักๆกับเค้ามันจะสร้างปมให้เด็กได้นะคะ เกินกว่าเหตุไปค่ะ สมัยก่อนยังแค่ตีมือเบาๆยังแสบร้าวเลย นี้ตีขนาดนี้เด็กคงแย่นะคะอนาคต
ผมคิดเห็นว่าในความเป็นครูเราสามารถลงโทษได้ไม่ว่าจะเป็นการตี การหักคะแนน การยืนเรียน หรือวิธีการอื่นที่สามารถพาผู้เรียนไปตามความมุ่งหวังของครู ผมเชื่อว่าครูทุกคนมีความปราถนาดีต่อศิษย์ ที่จะให้ศิษย์นั้นเป็นคนดี คนเก่ง ในกรณีนี้หลักฐานชัดเจนว่าเกิดจากการถูกกระแทกอย่างแรงจนเกิดรอยช้ำอย่างที่เห็น มองแบบกลางๆนะครับ สื่อมักจะให้ข่าวด้านเดียว ซึ่งเราก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น ว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ครูอาจจะตีเด็กจนเหตุการณ์เกิดแบบนี้ขึ้น หรือเด็กอาจจะลื่นหกล้มไปเอง หรือครูก็อาจจะตีเด็กจริงแต่ไม่ถึงขนาดนี้ แล้วเด็กก็โดนเพื่อนแกล้งอาจจะโดยการเตะอย่างแรงก็เป็นได้ สรุปคือข่าวที่ออกมายังไม่ชัดเจน ไม่มีข้อมูลที่ละเอียดพอ ยังไม่ควรกล่าวโทษใครอย่างจริงจัง
Kanjanaporn
สำหรับดิฉันแล้วคิดว่าการลงโทษเด็กที่ลืมนำสมุดจดการบ้านมาด้วยการตีเข้าไปที่ก้น เป๋นจำนวน 80 ทีนั้นถือเป็นการทำโทษที่รุนแรงมากเกินกว่าเหตุเพราะด้วยวุฒิภาวะของเด็กในวัยนี้แล้วอาจเป็นไปได้ว่าเด็กอาจลืมโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือด้วยสาเหตุอื่นๆอันใดก็ตามดังนั้นเราจึงยังไม่ควรตัดสินและลงโทษเด็กเลยในทันทีว่าเขาทำผิด แต่เราควรจะถามถึงสาเหตุและที่มาของการกระทำความผิดของเขาก่อนว่าเพราะเหตุใดจึงทำ แล้วจึงพิจารณาว่าเห็นสมควรหรือไม่ที่จะลงโทษหรือถ้าหากจะลงโทษเด็กในกรณีที่เขาได้กระทำความผิดจริงนั้นก็ควรที่จะเป็นการลงโทษที่เป็นไปตามความเหมาะสมและถูกทำนองคลองธรรม
จากข่าวดังกล่าว คิดว่าเป็นการลงโทษนักเรียนที่เกินกว่าเหตุ การที่ครูทำโทษนักเรียนโดยใช้วิธีการตีหลายสิบครั้ง เนื่องจากนักเรียนลืมนำสมุดการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ไปส่ง ถ้าตามข่าวเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง คิดว่าเป็นการลงโทษเด็กที่เกินวิสัยที่ครูจะทำโทษนักเรียนเช่นนี้ เพราะไม่ใช่ความผิดร้ายแรง อีกทั้งยังเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ ครูควรจะมีวุฒิภาวะ ระงับอารมณ์และอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล คำนึงถึงผลดีผลเสียที่ตามมา ก่อนจะตัดสินใจกระทำการอันใดก็ตามกับนักเรียนในปกครอง ถ้าหากเป็นการลงโทษด้วยการให้นักเรียนทำการบ้านหรือคัดสูตรเลขมาส่ง ยังมีเหตุผล สร้างสรรค์และเป็นผลดีต่อตัวเด็กและครูมากกว่าเสียอีก เพราะฉะนั้น กรณีนี้ที่เกิดขึ้นการลงโทษเช่นนี้จึงถือว่าเกินกว่าเหตุและควรมีการสืบสวนข้อเท็จจริงและตัดสินโดยผู้ใหญ่อย่างยุติธรรมกับทั้งตัวเด็กและคุณครู เพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ในอนาคตอีก
โดยส่วนตัวคิดว่าการลงโทษเด็กนั้นมีมานานมาก เมื่อเด็กทำผิดก็ควรจะลงโทษอย่างเหมาะสม และบอกเหตุผลว่าสิ่งที่เด็กทำไปนั้นผิดอย่างไร ทำไมต้องลงโทษ จากเหตุการณ์ข้างต้น คิดว่าเป็นการลงโทษที่เกินกว่าเหตุ เนื่องจากการลงโทษนั้นเป็นการป้องกันการเกิดเหตุการณืซ้ำที่เด็กจะกลับไปทำแบบเดิม ถ้าคุณครูตีเด็กขนาดนี้ เแ็นการทำให้เด็กกลัวและไม่อยากมาโรงเรียนอีก ซึ่งเกินกว่าเหตุจริงๆ อย่างไรก็ตามควรจะต้องสอบถามและให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย และเชื่อว่าการลงโทษเด็กมีรูปแบบอื่นที่เหมาะสมให้เด็กเติบฌตขึ้นเป็นอนาคตที่ดีของประเทศชาติ
จากข่าวดังกล่าว คิดว่าเป็นการลงโทษนักเรียนที่
ขื้นชื่อว่าคุณครูการตีเด็กถือว่าไม่ผิด แต่ขึ้นอยู่กับว่าตีอย่างไีมากกว่า ด้วยอารมณ์หรือว่าด้วยเหตุผล แต่หากด้วยอารมณ์ก็เป็นอย่างที่เห็น
ไม่ควรลงโทษมากขนาดนี้แค่ลืมสมุดมาส่งแต่ต้องฟังความให้ชัดว่าเด็กทำแบบนี้บ่อยหรือไม่ถึงแม้หากเขาทำผิดจริงก้อไม่ควรลงโทษหนักขนาดนี้มันมากไป
อาชีพครูเป็นได้แต่เป็นยาก
มีเพียงปากก็ใช่ว่าจะสอนได้
ต้องใจรักดูแลศิษย์มิเสื่อมคลาย
หวังสบายอย่าหมายมาเป็นครู
ครูคนนี้ขาด คุณธรรมสำหรับครู ..คือ "เมตตา" ครูต้องมีความปรารถนาดีต่อศิษย์ และหาวิธีการแก้พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ การไม่ทำงาน ไม่ส่งการบ้าน หนึเรียน ทุกพฤติกรรมเหล่านี้มีสาเหตุ
เคยศึกษานักเรียนรายบุคคลไหม เคยเยี่ยมบ้านนักเรียนไหม เคยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ปกครองไหม..เฮ้อ..อย่ามาเป็นครูเลยถ้าทำไม่ได้ ..ในทางกลับกันลองคิดสิถ้าครูเป็นนักเรียนลูกศิษย์เป็นครู..เมื่อทำผิดแบบนี้แล้วถูกลงโทษอย่างหนักเช่นเดียวกันนี้..ครูเองจะรับได้ไหม..
การทำโทษนั้นถึงแม้เด็กจะทำผิดกี่ครั้งก็ตาม ผู้ที่เป็นครูจะต้องทำโทษเด็กตามสมควร ไม่ควรทำโทษเด็กด้วยวิธีรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือด้วยอารมณ์โกรธ ในกรณีนี้ถือว่าการทำโทษของครูรุนแรงเกินไป ผู้ที่เป็นครูไม่ควรยึดถือเป็นแบบอย่าง
ถ้าเป็นความผิดครั้งแรกมันเป็นความกระทำที่รุนแรงเกินไป แต่ถ้าทำผิดซ้ำซากก็สมควรลงโทษ แต่ก็ไม่ควรกระทำเช่นนี้
พรชัย สินจริญโภไคย
การลงโทษด้วยการตีคิดว่ายังมีความจำเป็นอยู่เนื่องจากเวลามีการทำผิดควรมีบทลงโทษให้เพื่อเป็นการเตือนบ้าง การลงโทษด้วยวิธีอื่นอาจไม่ใช่วิธีที่จะนำไปใช้ได้กับเด็กทุกคนแต่ควรมีการตกลงกับเด็กก่อนถึงบทของการลงโทษ แต่จากในข่าวนั้นถ้าแค่เด็กลืมเอางานมาส่งอาจลงโทษด้วยการตีได้ เพียงแต่ไม่ใช้การตีที่หนักจนให้เกิดอาการช้ำขนาดนี้ครับ
Sarayut Radapong
การลงโทษเด็กของครูด้วยการตี 80 ครั้งจนทำให้เกิดรอยฟกช้ำและมีอาการปวด เพราะเด็กลืมส่งสมุดการบ้าน ถ้าพิจารณาตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 ห้ามมิให้ลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือกลั่นแกล้ง หรือด้วยความโกรธหรือความพยาบาท โดยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของนักเรียนหรือนักศึกษาให้รู้สำนึกในความผิด และกลับประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป ซึ่งระเบียบนี้ กำหนดการลงโทษนักเรียนและนักศึกษาไว้ 4 สถาน ได้แก่ 1) ว่ากล่าวตักเตือน 2) ทำทัณฑ์บน 3) ตัดคะแนนความประพฤติ 4) ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งชัดเจนว่าการลงโทษของคุณครูด้วยการตีไม่มีในข้อกำหนดใน 4 ข้อที่กล่าวมาแสดงว่าเป็นวิธีการลงโทษที่ไม่สามารถกระทำได้ พิจารณาว่าเป็นการลงโทษด้วยวิธีรุนแรง กลั่นแกล้ง ความโกรธหรือพยาบาทหรือไม่ ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการลงโทษด้วยวิธีการรุนแรงจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ ซึ่งเพียงพิจารณาตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการก็มีความชัดเจนว่าเป็นการลงโทษเกินกว่าเหตุ ซึ่งการดำเนินการตามที่ผู้ปกครองกระทำก็สามารถทำได้ และทางโรงเรียนก็ได้มีการตั้งกรรมการเพื่อสอบสวนในกรณีดังกล่าวแล้ว ตามความเห็นส่วนตัวแล้ว พิจารณาว่าการลงโทษของอาจารย์ควรมีการดำเนินการตาม 4 สถานมีความเหมาะสมแล้ว แต่การตีเป็นการลงโทษนักเรียนของครูในแบบเดิมที่ยังไม่มีระเบียบการลงโทษ ซึ่งก็ทำให้นักเรียนมีความยำเกรง บ้างก็ได้ดี บ้างก็เกเรไปเลย ซึ่งอาจทำได้แต่ควรกระทำด้วยจิตเมตตา ปรารถนาดีต่อเด็ก ไม่รุนแรง จนเป็นอัตรายต่อร่างกาย และควรเป็นวิธีการสุดท้าย การลงโทษด้วยการตีบางครั้งอาจไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายแต่อาจมีผลต่อจิตใจของเด็ก อาจทำให้เด็กเกิดความอับอายต่อเพื่อนร่วมห้อง มีอัคติต่อครู ไม่สนใจวิชาเรียนจนทำให้เกิดปัญหาในระยะยาวได้ ดังนั้นการทำโทษด้วยวิธีการตีจนทำให้เกิดอัตรายแก่ร่างกายและจิตใจเด็ก นอกจากจะเป็นการลงโทษที่เกินกว่าเหตุ ผิดระเบียบกระทรวงและจรรยาบรรณครู ครูอาจถูกพิจารณาโทษทั้งทางแพ่งและอาญาแล้ว มากกว่านั้นคือมีผลเสียต่อทัศนคติ พฤติกรรม และอนาคตของนักเรียนด้วย
ผมว่ามันรุนแรงเกินไปครับ ดูก็รู้ครับว่าใส่อารมณ์ แค่ไม่ส่งสมุด โตแล้วควรคิดหาวิธีที่มันดีกว่านี้ได้ แต่ว่าไม่ใช่แค่ตักเตือน มันต้องมีบทลงโทษอยู่แล้วแน่นอน แต่ถ้าจะให้ผมบอก ผมก็บอกไม่ได้หรอกครับ ว่าควรทำอย่างไร เพราะมันคืออาชีพของคุณ คุณต้องคิดเอง
การลงโทษของคุณครูนั้นโดยปกติแล้วเป็นการอบรมและสั่งสอนเด็กให้อยู่ในกรอบไม่ออกนอกลู่นอกทางจะเห็นได้ว่าเด็กสมัยก่อนและสมัยนี้มีนิสัยที่แตกต่างกันมากเนื่องจากสิ่งที่เด็กคิดเมื่อไม่มีการลงโทษเด็กก็เริ่มจะไม่กลัวในสิ่งที่ผิด ทำอะไรตามใจตนเอง ไม่รู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง เริ่มไม่ทำการบ้านส่งเพราะการหักคะแนนและการบ่นว่าของอาจารย์นั้นมักเข้าสู่หูซ้ายและออกไปทางหูขวากล่าวคือเด็กไม่สนใจสิ่งนั้นเลย แต่ปัจจุบันบุคคลากรที่จบมานั้นมันจะมีความอดทนที่ต่ำกว่าสมัยก่อนมากทำให้เมื่อมีการลงโทษก็จะใส่อารมณ์ไปเป็นหนักทำให้การลงโทษดูรุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นการลงโทษเด็กถือเป็นสิ่งที่ดีแต่ก็ควรอยู่ในขอบเขตที่พอดีด้วย
ที่มีมาตั้งแต่อดีต เพื่อให้นักเรียนกลัวเกรงการทำความผิด