บันทึกอนุทินครั้งที่ 4
วิชา การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้
รหัสวิชา 102611
อาจารย์ผู้สอน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์
เรื่อง Knowledge Management (KM)
บันทึก วันที่ 17 สิงหาคม 2557
ผู้บันทึก นางสาวผกาวรรณ สุวรรณภูมานนท์ รหัสนักศึกษา 57D0103110
นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน (ภาคพิเศษ หมู่ 1 รุ่นที่ 13)
การเตรียมตัวล่วงหน้าในการเรียนแต่ละครั้ง
ข้าพเจ้าได้ศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับ Knowledge Management (KM) ซึ่งอาจารย์ผู้สอนได้มอบหมายให้ไปค้นคว้าเกี่ยวกับขั้นตอนในการทำ KM แล้วจะนำมาประยุกต์ใช้ในโรงเรียนอย่างไร
การจัดการเรียนรู้ Knowledge Management (KM) คือการรวบรวมความรู้ที่มีอยู่ในองค์กรมาจัดระบบ เพื่อให้บุคลากรนำความรู้ไปพัฒนาการปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตามขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 การบ่งชี้ความรู้ หน่วยงานต้องสำรวจความรู้ที่บุคลากรจำเป็นต้องใช้เพื่อให้การทำงานบรรลุเป้าหมาย
ขั้นที่ 2 การสร้างและแสวงหาความรู้ต้องแสวงหามาเพิ่มเติมให้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุด
ขั้นที่ 3 การจัดความรู้ให้เป็นระบบ คือการวิเคราะห์และคัดแยกความรู้เป็นกลุ่มประเด็นให้ง่ายต่อการเข้าถึงอย่างเป็นขั้นตอน
ขั้นที่ 4 การประมวลและกลั่นกรองความรู้ คือการปรับปรุงให้ความรู้มีรูปแบบมาตรฐานไม่ซ้ำซ้อน มีความสมบูรณ์ถูกต้อง น่าเชื่อถือ
ขั้นที่ 5 การเข้าถึงความรู้ คือการสร้างแหล่งเผยแพร่ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
ขั้นที่ 6 การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ ต้องให้ง่ายต่อการเข้าถึงและสืบค้น
ขั้นที่ 7 การเรียนรู้ คือ การใช้ความรู้มาพัฒนาให้เกิดประสบการณ์ใหม่อยู่เสมอ
สำหรับการนำ KM ไปประยุกต์ใช้ในโรงเรียนได้ดังนี้
1) ผู้บริหารโรงเรียนต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนพิจารณาจากยุทธศาสตร์ของโรงเรียนหรือจากปัญหา ความต้องการ
2) กำหนดความรู้ วางแผน ทุกคนในโรงเรียนช่วยกันหาความรู้ใหม่ รักษาความรู้เดิม
3) โรงเรียนจัดอบรมให้กับคณะครูในโรงเรียน
4) ต้องมีการวัดผลดำเนินงานตามแผน และเผยแพร่ข้อมูล
การทำ KM ผู้บริหารต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การทำให้คนในองค์กรอยากเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับความรู้ ต้องสื่อสารให้เข้าใจว่า ทำอะไร ทำเพื่ออะไร ทำเมื่อไร และทำอย่างไร โดยมีการแลกเปลี่ยน เรียนรู้จนกลายเป็นวัฒนธรรม นอกจากนี้ต้องสร้างแรงจูงใจโดยการยกย่องชมเชย เพื่อให้คนในองค์กรสนใจที่จะแลกเปลี่ยนความรู้และร่วมมือทำ KM ให้สำเร็จ
ความรู้ความเข้าใจที่ได้รับ
ก่อนเข้าสู่เนื้อหา Knowledge Management (KM) ข้าพเจ้าได้ความรู้เกี่ยวกับการทำ Webblog การบันทึกความรู้ เป็นเครื่องมือในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เนื่องจากเป็นการบันทึกการเรียนรู้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
กล่าวถึงเนื้อหาในบทเรียนเรื่อง การจัดการความรู้ Knowledge Management หรือ KM ได้ความรู้ดังนี้
ความรู้ เป็นความหมายเปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืนที่สุด KU JIRO NONAKA การที่องค์กรจะดำรงอยู่ได้ในยุค KNOWLAGE BASED ECONOMY จำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรจะต้องปรับยุทธศาสตร์ทั้งหมด การแข่งขันที่ต้องใช้ความเร็ว ความถูกต้อง การมีประสิทธิภาพ ความได้เปรียบในการผลิต สิ่งเหล่านี้มีปัญหากับระบบราชการ
ทรัพยากรที่จับต้องไม่ได้ คือ ความรู้ ทักษะ การจัดการ ประสบการณ์ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ทรัพยากรที่จับต้องได้ คือ เครื่องจักร อาคาร อุปกรณ์ สำนักงาน ทุน เน้นการผลิต
ลักษณะเด่นของความรู้ มีลักษณะยิ่งใช้ยิ่งมีมากไม่มีขีดจำกัด เมื่อนำความรู้ใหม่มาผสมกับความรู้เดิมที่มีอยู่ในตัวคนก็จะเกิดความรู้ใหม่ ๆ มากขึ้น เป็นการสร้างความรู้ใหม่จากงานที่ทำ หมุนเวียนกลายเป็นวงจรความรู้ไม่จบสิ้น
นอกจากนี้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความหมายของ KM หมายถึง การจัดการเพื่อเอื้อให้เกิดความรู้ใหม่ โดยใช้ความรู้ที่มีอยู่ และประสบการณ์ของคนในองค์กรอย่างมีระบบเพื่อพัฒนาวัฒนธรรมที่จะทำให้มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งทางธุรกิจ นั่นหมายถึง การจัดความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีกระบวนการต่าง ๆ เช่น การสร้าง รวบรวม จัดเก็บ แลกเปลี่ยน ใช้
วงจรการจัดความรู้ มีองค์ประกอบ 6 หลัก คือ
1) การจัดให้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั่วทังองค์การ
2) การสื่อสาร ให้เข้าใจว่า “องค์การกำลังทำอะไร” “ทำเพื่ออะไร
3) กระบวนการและเครื่องมือ ช่วยให้กระบวนการความรู้เกิดขึ้นได้สะดวกและรวดเร็ว เลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์
4) การฝึกอบรมและการเรียนรู้ คือ อบรมแนวทางและหลักการของ KM แก่บุคคลเพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของ KM และแลกเปลี่ยนความรู้ในองค์กร ชี้ให้เห็นประโยชน์ของ KM นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้
* เนื่องจากการเรียนการสอนในวันนี้หมดชั่วโมงแล้ว ดังนั้นวงจรการจัดการความรู้ที่เหลืออยู่ 2 หลัก จะนำมาบันทึกในอนุทินครั้งที่ 5
ความคิดเห็นประเด็นที่เรียน
การจัดทำ Knowledge Management (KM) ในแต่ละครั้งจะต้องได้รับความร่วมมือจากบุคลากรในองค์กร ซึ่งผู้บริหารจะต้องหาเทคนิคให้บุคลากรเห็นความสำคัญของการทำ KM
การนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนและการปฏิบัติงาน
จากความรู้ที่ได้เรียนในชั่วโมงนี้ ข้าพเจ้าจะนำความรู้ในส่วนนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับโรงเรียน เพราะข้าพเจ้าก็เป็นบุคลากรภายในโรงเรียน นำไปใช้ในด้านการพัฒนาระบบของโรงเรียนให้ดีขึ้น โดยเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายของการพัฒนาโดยมองที่ยุทธศาสตร์ ความต้องการของชุมชน หรือปัญหาต่าง ๆ จากนั้นแสวงหาความรู้ มีการดัดแปลง ปรับปรุงข้อมูลบางส่วนแล้วนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาระบบของโรงเรียน เมื่อประสบผลสำเร็จก็เผยแพร่ข้อมูลต่อไป โดยอาศัยความร่วมมือจากบุคลากรทุกฝ่าย
ความคาดหวังในสิ่งที่เรียน
ข้าพเจ้ามีความคาดหวังว่า ต้องการลงมือปฏิบัติงานในลักษณะของ KM คือการเรียนแบบปฏิบัติจริง เพื่อความเข้าใจในบทเรียนดียิ่งขึ้น
บรรยากาศในชั้นเรียน
ภายในห้องเรียนมีอากาศถ่ายเทสะดวก แสงสว่างเพียงพอ โต๊ะ เก้าอี้ มีความเหมาะสมในการเรียนการสอน ระบบเสียงชัดเจน สื่อการสอนทันสมัย
บรรยากาศของการเรียนการสอนในชั่วโมงนี้ นักศึกษามีความกระตือรือร้น สังเกตได้จากการโต้ตอบคำถามจากอาจารย์ผู้สอน มีการจดบันทึกความรู้ที่ได้ บรรยากาศอบอุ่น มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ความรู้สึกต่ออาจารย์ผู้สอน
อาจารย์จะเน้นวิธีการสอนที่ให้นักศึกษาได้คิดวิเคราะห์เนื้อหา ถามคำถามแบบปลายเปิด เรียนแบบอภิปรายร่วมกัน ซึ่งข้าพเจ้าต้องขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ ซึ่งทำให้นักศึกษาได้ฝึกคิด และกระตือรือร้นในสิ่งที่เรียน เข้าใจเนื้อหา อาจารย์เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สร้างบรรยากาศแบบกันเอง มีความเป็นกัลยามิตรกับผู้เรียน
ไม่มีความเห็น