"พี่หนาน"
นาย พรพจน์ พี่หนาน เรียงประพัฒน์

สิงคาลกสูตร : ไหว้ทิศอย่างไรได้ไปสวรรค์?


๒๔/๐๙/๒๕๕๗

****************

                   สิงคาลกสูตร : ไหว้ทิศอย่างไรได้ไปสวรรค์?


เศรษฐีหนุ่มสิงคาลก์ผ่านพุทธะ                  เดินปะทะหญ้าไม้มิได้สน

มุ่งหน้าออกนอกทางห่างผู้คน                   อย่างร้อนรนเร่งไปเพื่อให้ทัน

ประคองกรอัญชลีนี้นอบน้อม                     ทิศาพร้อมค้อมเศียรเวียรเหหัน

ทิศเบื้องหน้าขวาบนหมุนวนกัน                 เบื้องล่างนั้นก้มลงตรงหญ้างาม

มาเบื้องหลังเบื้องซ้ายจึงได้หยุด               ก่อนเร่งรุดจากละพุทธะถาม

“ไหว้อะไรหรือเห็นเด่นงดงาม?”                ตอบคำถาม “ไหว้ทิศ” ไม่ปิดบัง

“บิดาฉันนั้นสั่งครั้งสุดท้าย                        หากพ่อตายทำด้วยช่วยสมหวัง

ตื่นแต่เช้าผมเผ้ารกรุงรัง                           ผ้าเปียกยังไม่แห้งใช่แสร้งมา”

“อริยวินัยตถาคต                                      มิกำหนดไหว้กันแบบนั้นหนา”

“ไหว้อย่างไรหรือท่านศาสดา?”                “เธอจงมาทางนี้จักชี้แจง...

ก่อนไหว้นั้นพลันสร้างทางกุศล                 น้อมนำตนพ้นจากสิ่งแสลง

ทั้งโกหกลักฆ่าสัตว์ต้มแกง                       ทั้งแอบแฝงล่อหลอกเพื่อนอกใจ

ไม่กระทำบาปกรรมสี่ฐานะ                       ควรลดละอคติดำริใส

คือฉันทะโทสะโมหะไง                             ภยะภัยตามติดควรคิดตรอง

ไม่หลงเสพทางเสื่อมแห่งโภคะ                ตกต่ำนะอบายร้ายทั้งผอง

ดื่มน้ำเมาเที่ยวดึกคึกคะนอง                    หรือเที่ยวมองการเล่นเห็นสุขไป

การพนันคบเพื่อนเตือนสักนิด                  ทุจริตคิดลักควรผลักไส

ทำเฉยนิ่งเกียจคร้านงานใดใด                 หกอย่างภัยบาปกรรมจะนำมา

ปราศจากกรรมสิบสี่ดังนี้แล้ว                   จิตผ่องแผ้วไหว้ทิศทุกทิศา

ทิศเบื้องหน้าของท่านคือมารดา              อีกบิดาของเราควรเข้าใจ

ท่านส่งให้เล่าเรียนเพียรศึกษา                 แนะนำพาชั่วดีชีวีให้

ถึงเวลามีคู่คนรู้ใจ                                    มอบสินให้แต่งดองคู่ของตน

เลี้ยงเรามานานแล้วเลี้ยงท่านตอบ           งานท่านมอบเราช่วยด้วยฝึกฝน

ปฏิบัติกายให้พ้นภัยตน                            สืบสานต้นตระกูลค้ำคูณดี

พอถึงคราวชีวามาลับล่วง                        ด้วยเป็นห่วงทำบุญให้ไปสุขี

ทิศเบื้องขวาครูอาจารย์ท่านใจดี              กรุณาปราณีชี้แนวทาง

ทั้งสอนสั่งอบรมเพาะบ่มจิต                      ทั้งปกปิดชั่วให้ได้ไกลห่าง

ตอบแทนด้วยลุกรับหยิบจับวาง               บีบนวดบ้างบางทีอย่ามีเคือง

ด้วยเชื่อฟังคำสอนของครูท่าน                 ตั้งความหมั่นศึกษาไม่หาเรื่อง

ใช้เวลาอย่างไรไม่สิ้นเปลือง                     ดูแลเรื่องศึกษาก้าวหน้าไป

ทิศเบื้องหลังภรรยาต่อสามี                      ดูแลบ้านถ้วนถี่เอาใจใส่

ไม่นอกใจคู่ตนคนของใคร                        เก็บเงินได้เท่าไหร่นับไตร่ตรอง

ดูแลแม่น้องพี่สามีรัก                                งานจะหนักหลักมั่นหมั่นสนอง

ขยันยิ่งสิ่งใดใหม่ทดลอง                          เจ็บป่วยต้องรักษาพยาบาล

ฝ่ายสามียกย่องภรรยา                            ไม่ดูหมิ่นต่อว่าด่าฉาดฉาน

ไม่ประพฤตินอกใจให้ร้าวราน                    งานในบ้านยกให้เป็นใหญ่ครอง

เห็นสิ่งของเครื่องแต่งแปลงรูปลักษณ์        หญิงประจักษ์สวยงามตามสนอง

ซื้อมอบให้แทนใจใช้ทดลอง                     สามีต้องดูแลไม่แพ้กัน

ทิศเบื้องซ้ายมิตรดีที่สามารถ                     มิควรพลาดปันให้ได้สุขสันต์

พูดให้เกิดฉันทาปิยากัน                            งานแบ่งปันช่วยเหลือด้วยเกื้อกูล

ต้นอย่างไรถึงปลายก็อย่างนั้น                   ไม่หกหันห่างไกลใจเป็นศูนย์

ไม่แกล้งกล่าวต่อหน้าว่าค้ำคูณ                  พอลับหลังโปดปูนขุ่นเคืองกัน

อนุเคราะห์มิตรดีที่สามารถ                        ยามประมาทรักษาให้ได้สุขสันต์

ช่วยปกป้องทรัพย์สินเหม่หมิ่นทัน              ยามมีภัยพึ่งกันได้ทันที

ไม่ละทิ้งจากไกลในยามยาก                     คราวิบัติพลัดพรากมิจากหนี

พ่อกับแม่เพื่อนให้ไหว้ทันที                       โอกาสที่พบกันหมั่นสักการ์

ทิศเบื้องล่างลูกน้องกรรมกร                     เริ่มงานก่อนนายท่านนั่นเถิดหนา

ตกตอนเย็นเลิกงานผ่านเวลา                     กลับให้ช้ากว่าท่านนั่นจึงดี

มิได้ให้สิ่งใดอย่าได้ลัก                              คิดตระหนักเอาไว้ให้ถ้วนถี่

ทำการงานอย่างไรให้ผลดี                         เรียนรู้ที่เสริมสร้างทางปัญญา

กล่าววาจายกย่องด้วยเคารพ                      ยามที่พบต่างท่านต่างภาษา

สรรเสริญความดีที่มีมา                               ให้ประชารู้เห็นโดดเด่นดี

นายควรได้ขอบใจในลูกน้อง                      มอบงานต้องทำได้ไม่บ่ายหนี

ให้อาหารรางวัลเมื่อหมั่นดี                          ยามเจ็บไข้ด้วยมีหมอหยูกยา

มีของแปลกของกินต่างถิ่นอื่น                     ควรหยิบยื่นให้ลิ้มลองของมีค่า

กิจกรรมรื่นเริงบันเทิงมา                             สร้างนำพาปลุกปลอบด้วยขอบใจ

ทิศเบื้องบนสมณะพราหมณ์พระสงฆ์          สอนทางตรงเลิกชั่วมั่วอยู่ไหม

สอนให้ทำความดีอย่าหนีไกล                     ปันน้ำใจตอบแทนแสนสุขเย็น

ให้ได้ฟังสิ่งยังไม่เคยยิน                             เคยจนชินขยายอรรถชัดดั่งเห็น

บอกทางให้ไปสวรรค์นั่นประเด็น                 พ้นลำเค็ญทุกข์ยากลำบากมา

คฤหบดีกุลบุตร                                           ควรรีบรุดตอบแทนท่านกันเถิดหนา

กุศลกรรมสามอวยด้วยเมตตา                    น้อมวันทาคราพบเคารพพลัน

เปิดประตูหน้าต่างทางคำสอน                    นิมนต์ตอนผ่านมาอย่าหกหัน

ใส่อาหารก้อนข้าวเช้าทุกวัน                      จิตมุ่งมั่นบำเพ็ญเป็นคนดี

การให้ปันพูดกันอย่างไพเราะ                ประพฤติเหมาะเป็นประโยชน์โชติวิถี

วางตัวตนสัมมาประดามี                        ในธรรมที่คนท่านนั่นตามควร

ธรรมสี่นี้ดั่งสลักปักยึดจิต                        ให้ทุกทิศมิตรรักจักหอมหวน

พึงตระหนักกราบไหว้ในกระบวน               ครบทั่วถ้วนจึงถูกต้องทดลองนา”

มานพหนุ่มสิงคาลก์ลงกรานกราบ             ด้วยกำซาบซึ้งจริงยิ่งนักหนา

มอบตัวถึงไตรรัตน์สรณา                          เป็นอุบาสกทราบตราบนิรันดร์


หมายเหตุ

สรุปความจากพระสูตร

การไหว้ทิศแบบเก่า(พราหมณ์)

-การตื่นแต่เช้ามืดยังมิทันได้ล้างหน้าแต่งผม

-มุ่งหน้าสู่ทุ่งกว้างท่ามกลางน้ำค้างและสายฝน

-ยกมือตั้งจิตอธิษฐานรำลึกถึงบุพพการีผู้สั่งสอน บอกให้ทำต่อ ๆ กันมา

-ไหว้ไปตามทิศต่าง ๆ ให้ครบทุกทิศ คือ ทิศเบื้องหน้า ทิศเบื้องขวา ทิศเบื้องหลัง ทิศเบื้องซ้าย ทิศเบื้องล่าง ทิศเบื้องบน(ดั่งนักมวย)

การไหว้ทิศแบบใหม่(พุทธ)

- พุทธบริษัทละกรรมกิเลสทั้ง ๔ ให้ได้ คือปาณาติบาต อทินนาทาน มุสาวาท และการคบหาภรรยาผู้อื่น เป็นกรรมกิเลส บัณฑิตไม่สรรเสริญ… 
- ไม่กระทำบาปกรรมโดยฐานะ ๔ คือ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ
- ไม่หลงติดทางเสื่อมแห่งโภคะ ๖ หรือ อบายมุข ๖ ประการ คือ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน เที่ยวดูการเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร เกียจคร้านทำการงาน...
- เมื่อเป็นผู้ปราศจากกรรมอันลามก ๑๔ อย่างนี้แล้ว ย่อมเป็นอริยสาวกผู้ปกปิดทิศทั้ง ๖ ได้
- ทิศ ๖ คือ พึงรู้มารดาบิดาว่าเป็นทิศเบื้องหน้า อาจารย์เป็นทิศเบื้องขวา บุตรและภรรยาเป็นทิศเบื้องหลัง มิตรและอำมาตย์เป็นทิศเบื้องซ้าย ทาสและกรรมกรเป็นทิศเบื้องต่ำ สมณ(พระสงฆ์)พราหมณ์เป็นทิศเบื้องบน 
- คฤหัสถ์ในสกุลผู้สามารถควรนอบน้อมไหว้ทิศทั้ง ๖ ดังกล่าว (ดูรายละเอียดจากพระสูตร)
- บัณฑิตผู้ถึงพร้อมด้วยศีลเป็นคนละเอียดและมีไหวพริบ มีความประพฤติเจียมตน ไม่ดื้อกระด้าง ผู้เช่นนั้นย่อมได้ยศ
- คนหมั่นไม่เกียจคร้านย่อมไม่หวั่นไหว ในอันตรายทั้งหลาย 
- คนมีความประพฤติไม่ขาดสาย มีปัญญา ผู้เช่นนั้นย่อมได้ยศ 
- คนผู้สงเคราะห์แสวงหามิตรที่ดี รู้เท่าถ้อยคำที่เขากล่าว ปราศจากตระหนี่ เป็นผู้แนะนำแสดงเหตุผลต่าง ๆ เนืองๆ ผู้เช่นนั้น ย่อมได้ยศ 
- ธรรมเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจในโลกเหล่านี้ คือ การให้ ๑ เจรจาไพเราะ ๑ การประพฤติให้เป็นประโยชน์ ๑ ความเป็นผู้มีตนเสมอในธรรมทั้งหลาย ในคนนั้น ๆ ตามควร ๑ เป็นเหมือนสลักรถอันแล่นไปอยู่(ป้องกันล้อหลุดหากไม่มีสลักล้อหลุดแน่) 
- ถ้าธรรมเครื่องยึดเหนี่ยวดังกล่าวไม่มีแล้วไซร้ มารดาและบิดาไม่พึงได้รับความนับถือหรือความบูชาจากบุตรแห่งตน แม้ทิศอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน 
- เพราะบัณฑิตทั้งหลายพิจารณาเห็นธรรมเครื่องยึดเหนี่ยวเหล่านี้โดยชอบ ฉะนั้น บัณฑิตเหล่านั้นจึงถึงความเป็นใหญ่ และเป็นผู้อันหมู่ชนสรรเสริญทั่วหน้า 
- ดังกล่าวมานี้แล้วเหมือนได้ไหว้ทิศอย่างสมบูรณ์ที่สุด และเมื่อเสียชีวิตแล้วได้ ไปสู่สุคติโลกสวรรค์ด้วยครับ

...

http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=3923&Z=4206

ขอบคุณทุกท่านที่สนใจขอบคุณ GotoKnow

หมายเลขบันทึก: 576791เขียนเมื่อ 24 กันยายน 2014 19:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 กันยายน 2014 08:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เป็นคำสอน ... และสามารถนำไปปฎิบัติ .. ใช้ได้ตลอดเลยนะคะ ...  ความสุข กาย ใจ ... จะเกิดกับบุุคคล ตลอดไปนะคะ  


ขอบคุณค่ะ



ไม่กระทำบาปกรรมสี่ฐานะ ควรลดละอคติดำริใส

คือฉันทะโทสะโมหะไง ภยะภัยตามติดควรคิดตรอง

ไม่หลงเสพทางเสื่อมแห่งโภคะ ตกต่ำนะอบายร้ายทั้งผอง

ดื่มน้ำเมาเที่ยวดึกคึกคะนอง หรือเที่ยวมองการเล่นเห็นสุขไป

การพนันคบเพื่อนเตือนสักนิด ทุจริตคิดลักควรผลักไส

ทำเฉยนิ่งเกียจคร้านงานใดใด หกอย่างภัยบาปกรรมจะนำมา


....

ขอบพระคุณครับ

ขอขอบคุณอ.ดร.เปิ้ลDr. Ple และ แผ่นดิน ที่เข้ามาแสดงความเห็น และเน้นย้ำให้เห็นความสำคัญของบทกลอนมากนะครับ

ขอขอบคุณมาลัยน้ำใจจากกัลยาณมิตร ครู อาจารย์ ทุกท่านดังต่อไปนี้มากครับผม...

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท