บันทึกการเดินทางด้วยรอยเท้าตนเอง (30) : เสียงฝน เสียงฟ้า -เสียงหัวใจ


เมื่อคืน (๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๗) ฝนตกหนักราวกับฟ้ารั่ว 

ไม่แต่เฉพาะฝนเท่านั้น หากแต่ฟ้าก็คำรามลั่นสั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นฟ้า ผืนดิน และหัวใจ

ฝนในค่ำคืนที่ผ่านมา น่าจะเป็นฝนแรกที่มีกลิ่นอายแห่งวสันตฤดู หลังจากร้อนแล้งมาเป็นระยะๆ หรือไม่ก็ตกประปราย เหมือนฝนหลงทิศหลงฤดู รวมถึงพายุ และฝนเทียมที่เนรมิตขึ้นเพื่อเยียวยาชีวิตผู้คน




ผมตื่นขึ้นมาในราวเที่ยงคืนเศษ – ตื่นมาฟังเสียงฝน ราวกับไม่ได้ฟังมายาวนานนับหลายขวบปี

เสียงฝนเสียงฟ้าในราตรีอันดึกดื่นชวนให้ผมหวนคิดคำนึงถึงเรื่องราวนานาประการที่ผ่านพบและผ่านพ้นในชีวิต

หนึ่งในนั้นที่สำคัญที่สุดก็คือ “ท้องทุ่งที่บ้านเกิด”

ย้อนกลับไปเมื่อสองปีเศษ ผืนนาเกือบ 10 ไร่ในการครอบครองของพี่ชายเกือบหลุดพ้นไปจากการถือครองของเขา

ครับ, ผืนนาที่ว่านั้น เป็นหยาดเหงื่อแรงกายและแรงใจของพ่อกับแม่ ซึ่งผมมักพูดติดปากเสมอว่า “รอยมือรอยเท้า (รอยมือรอยตีน) ของพ่อกับแม่”





ไม่มีใครไม่เจอวิกฤต ไม่มีใครไม่เคยล้มและเสียกระบวนท่าในการต้องใช้ชีวิต

ผมทำทุกสิ่งอย่างเพื่อรั้งไว้ซึ่งผืนนาแปลงดังกล่าว ขบคิด ครุ่นคิด เคร่งเครียดเพื่อเสาะแสวงหาทางออกและทางรอดของการปกป้องผืนนาอันเป็นมรดกที่ว่าไว้

ครับ- ปกป้องผืนนาไว้ให้ลูกหลาน เหลนโหลน ทั้งที่ลืมตาดูโลกและยังไม่ลืมตาดูโลก

จะด้วยบุญกรรมอันใดก็ตาม ผมสามารถฉุดรั้งผืนนาในการถือครองของพี่ชายไว้ได้ทันก่อนที่จะเปลี่ยนผ่านไปเป็นของคนอื่น-คนอื่นซึ่งหมายถึงนายทุน



วันนี้ ผืนนาเหล่านั้นยังคงอยู่ในกรรมสิทธิ์ถือครองของผม เพื่อรอการส่งคืนไปให้พี่ชายและลูกหลาน เหลนโหลนของผมเอง

หากแต่การรอส่งคืนก็ไม่ได้ง่ายดังใจคิดเสียทั้งหมด มันยังเป็นภาระที่หนักอึ้งอย่างสาหัสสากรรจ์ที่ผมต้องดิ้นรนเสาะแสวงหาทางออก และการอยู่รอดต่อไป

ครับ-เหนื่อยหนัก และรู้สึกท้อเป็นครั้งคราว
แต่ทั้งปวงนั้นเมื่อหวนคิดว่านี่คือ “รอยมือรอยเท้า” ของ “พ่อกับแม่” มันทำให้ผมมีความหวังและพลังอย่างบอกไม่ถูก

อย่างน้อยในห้วงระยะเวลาที่เห็นและเป็นอยู่ ผืนนาที่ว่านี้ก็ยังเป็นของผม-ของผมอันหมายถึงเป็นของทุกคน (คนของความรัก) ในโคตรเหง้าของผมเอง

มันจะเป็นเช่นนั้นจนลมหายใจสุดท้ายแห่งผม !



๒๖ สิงหาค ๒๕๕๗
ห้องทำงาน -มหาสารคาม

หมายเลขบันทึก: 575191เขียนเมื่อ 26 สิงหาคม 2014 13:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม 2014 13:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดี ค่ะอาจารย์  แผ่นดิน  ดีใจด้วยที่ยัง  เป็นเจ้าของที่นา  คุณพ่อคุณแม่ ท่านสร้างมา  เราช่วยรักษาไว้  ขอให้มีความสุขค่ะ

มาเอาใจช่วยเจ้าค่ะ(..แผ่นดิน..มัน.หนัก..ถ้าต้องแบกมันไว้...ต่างกว่า..ที่เราเรียกมันเฉยๆว่าแผ่นดิน..ที่ไม่..มีใครเป็นเจ้าของ..นิ...)...

มีสวนมาฝาก..ที่ไม่ต้องดูแลเอง..สวนสารธารณะ..อ้ะะ..มีความสุขทุกครั้งที่ไปเดินพิจารณา..ความไม่เป็นเจ้าของ..อ้ะะ

สวัสดีครับ ครูทิพย์

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจ นะครับ

ในช่วงๆ หนึ่งก็เครียดมากมายเลยทีเดียว กลัวที่ดินแปลงนี้หลุดลอยไปจากครอบครัว
ผืนดินผืนนี้อุดมด้วยข้าวปลานาน้ำอย่างแท้จริง
ตอนนี้ หลังการเก็บเกี่ยว คงได้เวลาแปลงเป็นสินทรัพย์มากกว่าที่ผ่านมา
สร้างชีวิต  พลิกชีวิตคนในครอบครัวอย่างที่วาดหวังไว้ (ลึกๆ)

ขอบคุณอีกครั้ง นะครับ

ครับ คุณยายธี

เราล้วนมิใช่เจ้าของสรรพสิ่ง...
แต่บางอย่างก็ดูเหมือนลิขิตให้เราดูแลบางสิ่งบางอย่าง และให้เราส่งต่อกันเป็นช่วงๆ...
ผืนนาแปลงที่ผมบอกเล่านี้  แต่ก่อนแต่ไรก็เป็นผืนแผ่นดินให้ญาติๆ ได้มาพึ่งพาร่วมกัน
ต่างฝ่า่ยต่างมาเพาะหว่านลงแรง...
พอถึงยามเก็บเกี่ยวก็แบ่งปันผลผลิตไปใช้สอย

นี่คือ  สิ่งต้องแบกรับ หยัดยืน ทัดทาน  ครับ

ได้บรรยายกาศดีมากๆๆ ค่ะ   ..... ถ่ายภาพได้สวยมากค่ะ


อ่านเรื่องราวของอาจารย์ในบันทึกนี้  เหมือนเห็นภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นกับตัวคุณมะเดื่อ  ที่ดินที่เป็น "รอยมือรอยเท้า " ของพ่อและแม่ของคุณมะเดื่อหวุดหวิดจะไปเป็นของคนอื่น แต่คุณมะเดื่อก็ยื้อยุดกลับมาได้และตั้งปณิธานไว้ว่า  ผืนแผ่นดินนี้ เป็นของพ่อกับแม่ที่ช่วยกันสร้างขี้นมา  ตราบใดที่คุณมะเดื่อยังมีลมหายใจอยู่ แผ่นดินนี้จะต้องเป็นมรดกตกทอดต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน.....เช่นกันจ้ะ

เข้าใจความรู้สึกผูกพันในทรัพย์มรดกของบรรพชนเช่นนี้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...

-สวัสดีครับอาจารย์

-ตามมาให้กำลังใจครับ

-รับรู้ถึงเรื่องราว.และบรรยากาศในค่ำคืน..นั้น..

-ณ เวลานี้..ผมเองกำลังฝาก..รอยมือ.รอยเท้า..ไว้ให้ลูกหลาน..เหลน..โหลน...ครับ

-ด้วยความตั้งใจ...สานฝันเล็ก ๆ ณ Hi Hug House@หนองราง..ครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท