บุญตาที่ได้เห็น..ศาลาโรงธรรมอายุ 100 กว่าปี ที่ยายทวดร่วมสร้างถวายวัดธรรมนิมิตต์ ชลบุรี


ผู้เขียนขอขอบคุณ....... ยายและป้าของหลานดวงใจที่เปิดโอกาสให้ผู้เขียน เขียนบันทึกนี้เก็บไว้เป็นอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดี ที่ยายทวดเพียร ช้างภู่ ท่านได้สร้างไว้ให้ลูก หลาน เหลน โหลน ได้ร่วมกันรำลึกถึง

ก่อนกลับบ้านที่ปักษ์ใต้ วันนี้ยายได้พาหลานไปวัดธรรมนิมิตต์ วัดใหญ่กลางเมืองชลบุรี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่มาก นามว่า…หลวงพ่อพระมงคลนิมิ

..

..

การไปวัดในครั้งนี้ ….เพื่อส่งคืนเสื่อผ้าผืนใหญ่ ที่ยายยืมจากวัดไป…เพื่อทำบุญครบรอบปีวันที่ตาของหลานลาลับจากโลกนี้ และก่อนที่จะออกจากวัดนั้น ยายได้ชี้ไปที่บันไดพญานาค ซึ่งมีสีสันสดใส คาดว่าน่าจะทาสีไว้ได้ไม่นานนัก

ยายเล่าให้ฟังว่า…บันไดพญานาคคู่นี้ สมัยเมื่อยายทวดของหลานท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านได้บริจาคกำลังทรัพย์สมทบทุนสร้างบันไดพญานาคคู่นี้ไว้

..

..

สักพักหนึ่งดวงใจก็ขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ ว่า…เมื่อครั้งยังเล็กนั้น ได้มีโอกาสถ่ายรูปข้างๆ พญานาค อนุสรณ์สถาน หนึ่งในหลาย ๆ สิ่ง ที่ยายทวดได้บริจาคเงินสมทบทุนสร้างบันไดแห่งนี้ไว้ เมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมา

หลานสาวเลยถือโอกาส…วิ่งขึ้นลง ที่บันไดพญานาคแห่งนี้เสียเลย

..

..

สังเกตว่า…ณ ปลายหางบันไดพญานาคคู่นี้ เป็นที่ตั้งพระอุโบสถที่ตั้งอยู่บนเนินเขาของวัดแห่งนี้นั่นเอง

เมื่อเยี่ยมชมบันไดพญานาคเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยายยังได้พูดกับหลานอีกว่า…

สมัยเมื่อยายเป็นเด็กสาวรุ่น ๆ นั้น ยายเองเป็นผู้หาบของที่ยายทวดของหลานนำไปทำบุญ ณ โรงธรรมของวัดนี้ด้วยตัวเอง

..

โรงธรรมแห่งนี้อีกเช่นกันที่ยายทวดของหลานเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ของผู้ที่มีจิตใจเป็นบุญเป็นกุศลร่วมอนุโมทนาบุญ บริจาคทรัพย์เพื่อสร้างโรงธรรมแห่งนี้

..

..

และนี่คือหนึ่งเหตุผล….ที่ทำให้หลานของยาย (โหลนของยายทวด)ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงธรรม สถานที่อันเป็นประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษของหลานสาว และหลานชายได้มีโอกาสไปเยี่ยมชม

..

..

อดเสียดายไม่ได้ว่า…สถานที่แห่งนี้ มิได้ รับการบูรณะสังขรณ์ ให้คงสภาพเก่า ๆ ดังเดิมเอาไว้

..

กระเบื้องว่าว…หลุดร่อนไปตามกาลเวลาที่ผ่านล่วงเลยไป

..

..

เดินชมไป ก็อดเสียดายแทนสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ หากได้บูรณะและอนุรักษ์โรงธรรมแห่งนี้ไว้ ก็คงไม่ต่างอะไรกับตลาดเก่า กว่าร้อยปีที่อ่างศิลา เป็นแน่แท้เชียว

..

..

เมื่อเข้าไป...สิ่งแรกที่สัมผัสด้วยตา เมื่อเข้าไปในโรงธรรมแห่งนี้ นั่นคือ…พระธุดงค์รูปหนึ่งท่านได้มาอาศัยจำวัตรอยู่หน้าพระพุทธรูปของโรงธรรมเก่าแห่งนี้

..

ยายของหลานได้ขออนุญาตพระคุณเจ้าท่าน เข้าไปเยี่ยมชมภายในโรงธรรมนี้

..

..

ระหว่างเดินเข้าไปได้อ่านป้าย ๆ หนึ่ง ที่ติดไว้ข้างฝา ความว่า….

สำนักปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน วัดธรรมนิมิตต์ อ.เมือง จ.ชลบุรี 12 กรกฎาคม 2497

นั่นแสดงว่า... เมื่อ ประมาณ 60 ปี ที่แล้วนั้น โรงธรรมแห่งนี้ ยังคงสภาพเดิมๆ อยู่อย่างชัดเจน

คำบอกเล่าของยาย ที่บอกว่า… สมัยนั้น ได้หาบคอนของไปทำบุญ ที่โรงธรรมแห่งนี้ อายุของยายช่วงนั้น ประมาณ 12-13 ปี และหลังจากนั้นอีกประมาณสัก 10ปี ก็ปรากฏเป็นสำนักฯดังกล่าว(ใช้วิธีบวกลบอายุของยายของหลานเป็นตัวคำนวณ)

..

..

พระพุทธรูปภายในโรงธรรม ยังคงประดิษฐานอยู่ภายใต้หลังคาโรงธรรมเก่าแห่งนี้

..

..

พื้นยกสูงกว้างๆ…สถานที่นั่งของพระภิกษุสงฆ์ในโรงธรรม ทำให้ยายรำลึกถึงวันเก่า ๆ ที่ยายได้นั่งฟังธรรมใกล้ๆ ยายทวดของหลาน ผุดขึ้นมากลางใจ …ยายของหลานพูดเช่นนั้นขณะที่เดินจูงมือหลานสาวตัวน้อย

..

..

ยายยังชี้ให้ดูอีกว่า…ภายในโรงธรรมแห่งนี้ มีบ่อซีเมนต์ขนาดใหญ่ ที่กักเก็บน้ำฝนเอาไว้ใช้ บริโภคของญาติโยมที่เข้ามาทำบุญที่นี่

..

..

บริเวณรอบ ๆ บ่อซีเมนต์นี้ พบความเสื่อมสลายไปตามกาลเวลาของข้าวของเครื่องใช้ ที่ยังคงมีหลงเหลือให้เห็นอยู่ประปราย ฝาไม้กระดานที่ผุกร่อน เศษซากสิ่งของที่ร่วงหล่นมาจากหลังคา

..

มองแล้ว ดูเงียบเหงา วังเวงอย่างบอกไม่ถูก

..

..

หากพิจารณาในบางมุมของโรงธรรมแห่งนี้ คาดว่าน่าจะยังคงใช้ประโยชน์ได้ในบางส่วน

ดูแล้ว… น่าจะเป็นที่เก็บถ้วยชาม เครื่องสังฆภัณฑ์ และข้าวของบางอย่างที่ไม่ได้ใช้สอยของวัดไปโดยปริยาย

..

..

ก่อนออกจากโรงธรรม ยังแอบสังเกตเห็นป้ายชื่อกรรมการนามสกุลเดียวกับยาย(นามสกุลเดิม..จตุพงษ์)  ที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมหล่อพระพุทธรูปของวัด เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว อยู่ในศาลาโรงธรรมแห่งนี้ด้วย

..

..

ระหว่างทางกลับบ้าน....ยายยังเล่าให้ฟังอีกว่า..วันที่ยายทวดลาลับจากโลกนี้ไปแล้วนั้น ทางวัดยังได้จัดพิธีศพของยายทวด พร้อมกับทำการฌาปนกิจศพของยายทวดไว้ที่วัดแห่งนี้ (หมายเหตุไว้...วัดธรรมนิมิตต์แห่งนี้ มิจัดพิธีฌาปนกิจศพ ของชาวบ้าน เนื่องจากทางวัด ไม่มี เมรุเผาศพ และไม่เคยจัดงานศพของชาวบ้านท่านใด เท่าที่เคยทราบมา นอกเสียจากพิธีศพของอดีตท่านเจ้าอาวาสวัดธรรมนิมิตต์ องค์ก่อน นามว่า..พระครูนิมิตต์ธรรมานุรักษ์(ข้อมูลจากคุณครูนันตพร บุญหยาด ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนวัดธรรมนิมิตต์… คุณป้าของหลานดวงใจนั่นเอง)

..

..

ภาพเก่าใบนี้ คือหลักฐานวันที่ยายทวดของหลาน ได้ถึงแก่กรรม คนนั่งซ้ายมือของภาพ คือยายม้วน ซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตของยายทวด  และเป็นแม่ของยาย  

และปัจจุบันท่านได้เสียชีวิตไปนานแล้ว

..

..

และภาพถ่ายใบนี้ คือภาพของยายม้วน แม่ของยาย สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่

ส่วนภาพถ่ายใบสุดท้ายคือ... ยายทวดของโหลนดวงใจ

..

..

ยายทวดเพียร ช้างภู่ คนนี้นี่เอง

ปัจจุบัน เถ้ากระดูกของท่าน บรรจุอยู่ในเจดีย์บรรจุอัฐิ ที่ตั้งไว้บนยอดเขาวัดธรรมนิมิตต์

ซึ่งลูก หลาน เหลน โหลน จะขึ้นไปกราบไหว้กัน ตามความสะดวกที่ต่างคนต่างมีเวลาว่าง เดินทางขึ้นไปกราบไหว้ท่าน

..

แม้กระทั่งตัวผู้เขียนเอง ก็เคยเดินขึ้นไปกราบไหว้มาแล้ว.... เมื่อกว่าสิบปีที่ผ่านมา

........................................................................................................................................................................................

ผู้เขียนขอขอบคุณ.... ยายและป้าของหลานดวงใจที่เปิดโอกาสให้ผู้เขียน เขียนบันทึกนี้เก็บไว้เป็นอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดี ที่ยายทวดเพียร ช้างภู่ ท่านได้สร้างไว้ให้ลูก หลาน เหลน โหลน ได้ร่วมกันรำลึกถึง

หมายเลขบันทึก: 571368เขียนเมื่อ 30 มิถุนายน 2014 21:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม 2014 08:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

...ด้วยความปลื้มใจ และชื่นชมมากๆค่ะ

ถือว่าสังขารไม่เที่ยงแท้

มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปครับ

แต่การที่ทำให้น้องดวงใจและพี่ชายได้เรียนรู้เรื่องเหล่านี้มีประโยชน์มากว่ารากเหง้า

ของเราเป็นอย่างไร

ขอบคุณมากๆครับ

ภูมิใจแทนกับสิ่งที่บรรพบุรุษได้สืบสานปณิธานไว้ให้ลูกหลาน เหลน โหลนฯ..และอีกหลายชั่วอายุที่ได้กล่าวขานถึงคุณงามความดี..เป็นแบบอย่างให้ลูกหลานได้จารึก..วันนี้ลูกหลานทุกคนผมเชื่อว่าทุกท่านได้รับอานิสงฆ์แห่งคุณงามความดี..เป็นทั้งข้าราชการผู้ใหญ่ เป็นลูกหลานกตัญญูสืบทอดมาไม่ขาดสาย..บรรพบุรุษทำไว้ลูกหลานได้ร่มเงา..ใบบุญ..สาธุด้วยครับ

เก่าจริงๆๆ   ... ชอบสถาปัตะกรรม นะคะ .... สวยงามจริงๆๆ ค่ะ


ขอบคุณค่ะ

บุญตาที่ได้อ่านบันทึกบอกเล่าประวัติศาสตร์ของวัดแห่งนี้ อยู่ใกล้ ๆ บ้านแม่ของพี่ที่ชลบุรีค่ะ (บ้านแม่อยู่ที่สี่แยกเฉลิมไทย) เราพ่อแม่ลูก(ครอบครัวพี่)ไปเดินและลูกไปวิ่งรอบ ๆ วัดธรรมนิมิตต์นี้เมื่อสิบกว่าปีก่อน และถ้าย้อนไปเมื่อนู่น..สมัยที่พี่เป็นเด็ก ๆ พ่อ แม่และพี่สาวของพี่ก็พาเราซึ่งเป็นเด้กตัวเล็กๆ ไปเดินเล่นบ่อย ๆ ค่ะ

อันที่จริงไปทั้งศาลเจ้าจี่ฮงเกาะและวัดธรรมนิมิตต์ซึ่งอยู่ติดกันค่ะ

รู้สึกดีจังเลยครับ คุณหมอภูฯ ครับ

บางที่คุณพ่อ คุณแม่ของคุณหมอภูฯ  หรือ ตา ยาย ของน้องดวงใจ อาจจะเคยเห็นกัน หรือรู้จักกันก็ได้นะครับ

เพราะสมัยนั้น ตา กับยาย ของน้องดวงใจ ก็อยู่ที่สี่แยก เแลิมไทยเช่นเดียวกันครับ

ปัจจุบัน ย้ายเข้ามาอยู่บ้านในสวน แถว รร ตำรวจ เขาน้อย 

ทุก  ๆ ปี ดวงใจ จะไปเยี่ยม ตากับยาย เสมอ ครับ

ปัจจุบัน ตาของดวงใจท่านเสียแล้ว(ท่านเป็นครูดนตรีไทยสอนที่ รร ชลกันยานุกูล ที่ลูกศิษย์ ค่อนข้างมาก)

ดีใจนะครับ

บางที หากผมแวะไป ที่นี่  และคุณหมอแวะมาเยี่ยมคุณแม่ที่นี่  เราคงได้เจอกันสักวันหนึ่งนะครับ

..

ด้วยความเคารพครับ

ขอบคุณค่ะ ได้อ่านเรื่องราวดีๆ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท