เมื่อวานมีโทรศัพท์ลึกลับ ไม่ใช่สิ เป็นโทรศัพท์ตาม Lab. หาย !!! ซึ่งไม่ค่อยได้ยินมานานแล้วน๊ะ ตั้งแต่ทำโครงการตาทิพย์ของคุณผอบ เผอิญนายดำเป็นคนรับสาย....
check ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเราผิดจริง แต่เนื่องจากเป็นเวลา 5 โมงเย็นแล้ว เครื่องทุกอย่างปิดหมด นายดำเลยฝาก lab. ไปทำที่ ER
ทุกครั้งที่เกิดกรณีผิดพลาดขึ้นเรามักจะ check เวลาโดยประมาณไว้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่สถิติที่พบจะเป็นช่วงเวลาบ่าย (ซึ่งมีปริมาณงานที่น้อยกว่า) ซึ่งเราไม่น่าจะผิด...
ที่เจอจัง ๆ กับตัวเองก็มี ช่วงเช้าลงผลมาทั้งวัน ไม่เจอผิด แต่มาเจอก็ตรงช่วงบ่าย ๆ หรือรอบสุดท้ายโน่น ประมาณว่าตกม้าตายตอนจบทุกที....
วันก่อนได้คุยกับพี่เพ็ญ (หน่วย Center)ซึ่งทำหน้าที่รับส่งส่งตรวจ ก็พบสถิติที่คล้าย ๆ กันตอนแรกเราคาดกันว่าช่วงเช้าน่าจะพบการส่ง Lab. ผิดพลาดได้มากกว่า แต่จากข้อมูลที่พบไม่เป็นไปดังคาดแฮะ เพราะพบความผิดพลาดในช่วงก่อนเที่ยงได้มากกว่า
เราไม่สนว่าใครทำผิดพลาดเพราะยึดคติที่ว่า ผู้ไม่ทำก็ย่อมไม่ผิด ผู้ทำมากก็ย่อมผิด(บ้าง) ฉะนั้นงานห้องเราเยอะ(แต่คนเราน้อย) ก็ต้องมีผิดกันบ้าง เป็นธรรมดา!!!!
แต่ก็น่าแปลกและน่าสนใจตรงที่ว่า เพราะอะไรกันล่ะนี่? งานมากเราผิดน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงงานน้อยเราผิดได้มากกว่า
ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก ใช้หมอง ใช้หมอง เฮ้อ !! ปวดหัว
เป็นกำลังใจช่วยคะ งานมันเยอะ คนก็ทำงานวุ่นกันจนขาขวิด หัวเป็นน๊อตแล้ว ....ยังไงถือซะว่า ความผิดพลาดคือบทเรียนล้ำค่าคะ เอาไว้ปรับปรุงเพื่อให้งานมีปีสิทธิภาพดีที่สุดคะ
คุณจ๊ะจ๋าค๊ะ ช่วงนี้พวกเราตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตกันจะเกือบหมดแล้ว ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่งค่ะ ที่ส่ง file ไปไม่ตรวจสอบ รู้สึกปล่อยไก่อีกแล้ว เขินจัง!!
พี่ไมโตฯ สงสัยว่าเรื่องนี้จะทำเป็นวิจัยยากแฮะ ปัจจัยรบกวนเยอะเหลือเกิน เขียนไว้เพื่อปรับปรุงงานให้มีประสิทธิภาพอย่างคุณจ๊ะจ๋าว่าดีกว่าน๊ะ
คงจะอย่างที่พี่ nidnoi ว่านั่นแหละ + กับความประมาท ก็ทำมาตั้งเยอะไม่ยักผิด งานน้อยน่ะ หมูหวานเอ๊ย ! หวานหมู เป็นงั้นไป
ก็อาจเป็นไปได้ค่ะ เพราะร่างกายได้ผ่อนคลาย สติก็เริ่มหย่อน..แต่อย่าให้สตังค์ หายเป็นพอ--อิ อิ