เตือน "สติ" ให้ฉุกคิด


มีหลายคนห่วงใยผม เขียนมาเตือนผมให้ระวังภัยต่างๆ

ผมจึงขอถือโอกาสนี้ชี้แจงว่า การที่ผมเขียนสิ่งต่างๆ นั้น

ผมเขียนจากใจ ที่ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นในระบอบการปกครองไหนว่าดีที่สุด

.....

1. ผมไม่คิดหรือต่อต้านการรัฐประหาร เพราะ....ผมไม่เชื่อว่าจะมีระบอบการปกครองไหนดีที่สุดในโลก ที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดี คนเก่ง ได้รับความยุติธรรม ได้รับการบริการที่ดีที่สุดจากระบอบการปกครองต่างๆ ผมจึงไม่คิดจะสู้หรือ เพื่อต่อต้านการปกครองใดๆ ทุกรูปแบบ ถ้าจะสู้หรือต่อต้านก็จะทำเพื่อพระพุทธศาสนาเท่านั้น.

......

2. ผมไม่คิดที่จะปลุกระดมให้ใครต่อใครเกลียดชังรัฐประหาร หรือผู้ใดผู้หนึ่ง เพราะ.....ผมเชื่อว่า ในโลกนี้ไม่มีคนดีที่สุด เลวที่สุด ทุกคนทำทั้งความดี ความไม่ดีสลับกันไปทั้งวัน เนื่องจากทุกคน คือ "คน" จนกว่าคนคนนั้นเป็นพระอรหันต์ จึงไม่ทำผิดเลย เพราะท่านปราศจากกิเลสตัณหาแล้ว

....................

แต่....ผมมีเจตนาเตือน "สติ" เพื่อนๆและคนที่ผมรัก ห่วงใย ดังนี้

1. เตือน "สติ" คนที่มีความคิดเห็นศรัทธาต่อพวกที่มาต่อต้านรัฐบาลที่พวกเขาไม่ชอบ โดยอ้างเหตุผลต่างๆนานาว่าโกง ทุจริต เลวอย่างนั้นอย่างนี้

แต่.....กลับการกระทำของรัฐบาลหรือพวกที่ตนเองชอบ ทำอย่างเดียวกันหรือยิ่งกว่า กลับนิ่งเฉยหรือสนับสนุน ผมไม่อยากเห็นเพื่อนผม คนที่ผมรัก มีจิตใจที่เคยชินต่อพฤติกรรม "สัปปลับ" หรือ "กลับกลอก" หรือ "ดัดจริต" หรือ "ตอแหล" หรือจะเรียกอีกอย่างว่าเป็นคน "สองมาตรฐาน หรือไร้มาตรฐาน" หรือ เป็นคน "ไม่มีหลักการ ไม่มีจุดยืน"

.....

2. เตือน "สติ" ว่า..... ไม่ว่าจะเป็นการปกครองแบบไหน เมื่อคนได้ขึ้นมามีอำนาจมัก "หลงตน " หลงอำนาจ มัวเมาอำนาจ กอบโกยผลประโยชน์ใส่ตัว หรือพวกพ้องทั้งนั้น แต่ระบอบประชาธิปไตยดีตรงที่ว่า "เลวร้ายน้อยกว่า" ทุกระบอบการปกครอง เพราะคนที่มีอำนาจอยู่ได้แค่ 4-5 ปี ก็ต้องมาให้ประชาชนเลือกใหม่ ไม่เหมือนระบอบอื่นๆ จะเปลี่ยนผู้นำที ต้องฆ่าฝ่ายตรงข้ามแบบล้างโคตร (เหมือนทุกวันนี้ที่ไล่ล่า จับกุม กักขังผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับตน)

.....

3. เตือน "สติ" ว่า...... การที่ประเทศใดจะปกครองในระบอบใด หรือมีบุคคลใดขึ้นมามีอำนาจยาวนาน ก็เพราะประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย ต่อสู้เพื่อการปกครองนั้น หรือถูกบังคับให้จำยอม เช่น เกาหลีเหนือ ใครเห็นต่าง จับไปขังหรือยิงทิ้งทันที

.....

4. เตือน "สติ" ว่า....ถ้าเราเห็นด้วยกับการใช้อำนาจ "อาวุธ" มาบังคับคนในสังคม ต่อไปคนในสังคมนี้ก็จะไม่นิยมใช้หลักการ กฏระเบียบ ทุกคนก็จะใช้อิทธิพลของตนเรียกร้องให้ทุกคนยอมตัวเอง ใครไม่ยอมก็จะใช้กำลัง อำนาจข่มเหง บังคับใครต่อใคร แล้วที่เราช่วยกันสร้างสังคมนิติรัฐ นิติธรรม และคุณธรรมในจิตใจด้วยพุทธศาสนาด้วยความเหนื่อยยาก จะไม่สูญเปล่าหรือ ?

.....

5. เตือน "สติ" ว่า....ในฐานะที่ผมเป็น "ครู" ต่อไปผมก็ไม่สามารถสอนหรือแนะนำนักเรียนว่า ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มปากเต็มคำอีกแล้ว และถ้าเป็นอย่างนี้อีก ต่อไปผมก็จะแนะนำให้ใครต่อใครเลิกสอนอย่างนี้เหมือนกัน เพราะคนในสังคมนี้ไม่ชอบความเป็นประชาธิปไตย ไม่ชอบสังคมที่เป็นนิติรัฐ นิติธรรม

.....

6. สำหรับผม ผมเชื่อว่า การปกครองที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นได้จากบุคคลที่เห็นทุกอย่างในโลกเป็น "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" หรือ "ทุกสรรพสิ่งในโลกไม่มีสาระแก่นสาร" ตามคำสอนของพระพุทธองค์ เพราะคนที่ไม่หลงตนเอง ไม่เมาตนเอง (สักกายทิฏฐิ) จึงจะเสียสละทำเพื่อผู้อื่น หรือสังคมด้วยเจตนาดีได้จริงๆ นอกนั้นไม่มีทาง

แต่.....ถ้ามีบุคคลใดป่าวประกาศว่าตนเองเป็นคนดี มีคุณธรรม ทำทุกอย่างเพื่อประชาชน ให้พึงรู้ว่าเขา "โกหก" ซึ่งจะเรียกบุคคลนั้นว่า "ตอแหล" หรือ "กาขาว" หรือ วิญญูชนจอมปลอม" หรืออะไร ฯลฯ ก็แล้วแต่จะเรียก

สรุป : ถ้ายังไม่ละสักกายทิฏฐิ จะไม่มีวันทำเพื่อผู้อื่นหรือส่วนรวมด้วยจิตใจที่เสียสละแต่อย่างใด จะมีแต่ผู้หวัง "ผลประโยชน์" ทางใดทางหนึ่งเท่านั้น

.......

จึงชี้แจงมาเพื่อทราบ

เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้

หมายเลขบันทึก: 569647เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2014 12:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2014 12:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท